มาตรวจสอบวันหมดอายุของคาร์ซีทเพื่อความปลอดภัยเจ้าตัวเล็กกันเถอะ

หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าคาร์ซีทก็มีอายุการใช้งานไม่ต่างจากผลิตภัณฑ์ของใช้อื่น เพราะคาร์ซีททุกตัวมีโครงสร้างพลาสติกเป็นส่วนประกอบหลัก เมื่อผ่านการใช้งานเป็นเวลานาน ความร้อนจะทำให้พลาสติกเสื่อมสภาพ กรอบ แตกหักง่าย นอกจากนี้แสง UV ยังทำให้วัสดุรองรับแรงกระแทกและเบาะรองตัว หมอนรองศีรษะทารกที่เคยนุ่มกลับแข็งและขาดความยืดหยุ่นไม่สามารถใช้ปกป้องทารกได้ดีพอ

แล้วเราจะรู้ได้อย่างไร ว่าคาร์ซีทที่เลือกใช้เพื่อช่วยปกป้องลูกน้อยให้ปลอดภัยจากอุบัติเหตุ
ผลิตขึ้นเมื่อไร และหมดอายุแล้วหรือยัง???

ในหลายๆ ประเทศชั้นนำอย่าง USA, Canada, ญี่ปุ่น, Australia รวมถึงประเทศในกลุ่มEurope มีการกำหนดกฎหมายบังคับให้ผู้ผลิตคาร์ซีททุกรายต้องระบุวันที่ผลิตไว้อย่างชัดเจนเพื่อให้คุณพ่อคุณแม่สามารถตรวจสอบอายุของคาร์ซีทได้ โดยส่วนใหญ่จะแนะนำให้ใช้คาร์ซีทที่มีอายุไม่เกิน 7-10 ปี นับจากวันที่ผลิต แต่เนื่องจากคาร์ซีทแต่ละแบรนด์และแต่ละรุ่นมีจุดสังเกตุวันที่ผลิตต่างกัน จึงทำให้ยากต่อการตรวจสอบ วันนี้Baby Gift มีคำแนะนำที่ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่สามารถตรวจสอบวันที่ผลิตได้ด้วยตัวเอง

Aprica แบรนด์ผลิตภัณฑ์เด็กอ่อนระดับ premium ยอดนิยมอันดับ 1 จากญี่ปุ่น กับคาร์ซีทรุ่น Fladea Grow ที่สามารถปรับใช้ได้ถึง 3 รูปแบบสำหรับวัยแรกเกิด – 4 ปีนี้มีจะมีวันเดือนปีที่ผลิตฉีดขึ้นบล๊อกอยู่ที่ฐานพลาสติกของคาร์ซีทเป็นแนวตั้ง โดยจะใช้สัญญลักษณ์วงกลมพร้อมลูกศรอยู่ข้างในชี้ตามตัวเลขเรียงตามลำดับ

  • วงกลมที่1 (บนสุด) บอกปีค.ศ.ที่ผลิต แบบเป็นเลขท้าย เช่น เลข 6 อาจหมายถึงปี 1996 หรือ 2006 หรือ 2016 ก็ได้ ดังนั้นเราจึงต้องดูรุ่นและปีที่ออกวางจำหน่ายประกอบด้วยจึงจะสามารถระบุปีที่ผลิตอย่างชัดเจนเช่น คาร์ซีทในตัวอย่างนี้เป็นคาร์ซีทรุ่น Fladea Grow ออกจำหน่ายในปี 2015 เพราะฉะนั้นเลข 6 ในที่นี้จึงหมายถึงปี 2016 ไม่ใช่ปี 2006 แต่ในกรณีที่เป็นคาร์ซีทรุ่นเก่าอย่าง Aprica Mashmallow ถ้ามีเลขปีผลิต 6 จะหมายถึงผลิตในปี 2006 เป็นต้น
  • วงกลมที่ 2 บอกเดือนที่ผลิต เช่น เลข 3 หมายถึง เดือนมีนาคม
  • วงกลมที่ 3-4 บอกวันที่ที่ผลิต เช่น วงกลมที่ 3 เป็นเลข 0 วงกลมที่ 4 คือเลข 5 หมายถึง ผลิตวันที่ 5 เป็นต้น

คาร์ซีทสำหรับเด็กวัย 9 เดือน – 12 ปี รุ่น Air Groove STD , Air Groove Plus และสำหรับเด็กวัย 3-12 ปี รุ่น AirRide ปรับใช้งานได้ 3 รูปแบบ ตามช่วงวัยที่เหมาะสม ทั้ง 3 รุ่นนี้ จะสังเกตวันเดือปีที่ผลิตได้จากด้านหลังของคาร์ซีท จะมีวันเดือนปีที่ผลิต ฉีดขึ้นบล๊อกอยู่ที่คาร์ซีทเป็นแนวนอน โดยจะใช้สัญลักษณ์วงกลมพร้อมลูกศรอยู่ข้างในชี้ตามตัวเลขเรียงตามลำดับ

  • วงกลมที่1 (บนสุด) บอกปีค.ศ.ที่ผลิต แบบเป็นเลขท้าย เช่น เลข 14 หมายถึงปี 2014
  • วงกลมที่ 2 บอกเดือนที่ผลิต เช่น เลข 12 หมายถึง เดือนธันวาคม
  • วงกลมที่ 3-4 บอกวันที่ที่ผลิต เช่น วงกลมที่ 3 เป็นเลข 2 วงกลมที่ 4 คือเลข 0 หมายถึง ผลิตวันที่ 20 เป็นต้น

**หมายเหตุ เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นได้เริ่มบังคับให้ผู้ผลิตต้องระบุปีที่ผลิตในปี 2007 เพราะฉะนั้น คาร์ซีทแบรนด์ญี่ปุ่นที่ไม่มีปีผลิตกำกับไว้ อาจเป็นคาร์ซีทที่ผลิตก่อนปี 2007 ซึ่งนับถึงปัจจุบันจะมีอายุมากกว่า 10 ปี จึงไม่แนะนำให้ใช้อย่างเด็ดขาด

Ailebebe ผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์และคาร์ซีทจากประเทศญี่ปุ่น เป็นอีกหนึ่งคาร์ซีทคุณภาพระดับ Premium ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศไทย มีจุดสังเกตุปีที่ผลิตที่ง่ายมากเพราะจะติดเป็นสติ๊กเกอร์สีส้มระบุตัวเลขปีที่ผลิตอย่างชัดเจนโดยจะติดอยู่ที่ตำแหน่งที่ต่างกันขึ้นอยู่กับรุ่น

รุ่น Swingmoon , Kurutto NT2 Premium , Zutto 3 Style , Kurutto Premium สติ๊กเกอร์จะอยู่ที่ตัวปรับความยาวเข็มขัดใต้ผ้าหุ้มเบาะใกล้บริเวณตัวล๊อกเข็มขัดนิรภัย 5 จุด เป็นสีส้ม โดยจะมีตัวเลขปี ค.ศ.ที่ผลิต เช่น 2016 หมายถึง ผลิตในปี 2016

รุ่น Kurutto 4S , Kurutto 4i ตัวสติ๊กเกอร์สีส้มติดอยู่กับสติ๊กเกอร์มาตรฐานยุโรป ECE สังเกตง่ายๆ เป็นสีส้ม อยู่ที่ด้านหลังของคาร์ซีท โดยจะมีตัวเลขปี ค.ศ.ที่ผลิต เช่น 2016 หมายถึง ผลิตในปี 2016

Prince & Princess คาร์ซีทระดับ Premium ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่าง Baby Gift และผู้ผลิตคาร์ซีทอันดับหนึ่งจากเกาหลีและญึ่ปุ่นที่มีคุณสมบัติครบถ้วนในราคาสบายกระเป๋าสำหรับคุณพ่อคุณแม่ชาวไทยโดยเฉพาะ จะมีจุดสังเกตุที่แตกต่างสำหรับแต่ละรุ่นเช่นกัน โดยจะใช้สัญญลักษณ์วงกลมพร้อมลูกศรอยู่ข้างในชี้ตามตัวเลข

  • ตัวเลขใหญ่ 2 ตัว คือ ปี ค.ศ.ที่ผลิต แบบเป็นเลขท้าย เช่น เลข 15 หมายถึงปี 2015
  • ลูกศรชี้เลข คือ เดือนที่ผลิต เช่น เลข 2 หมายถึง เดือนกุมภาพันธ์

รุ่น Royal Mark IV Premium ,  Royal Mark VII จะมีวันเดือนปีที่ผลิตจะอยู่ใต้ฐานของคาร์ซีท เป็นแบบสัญญลักษณ์วงกลม ตัวเลขตัวใหญ่ 2 ตัวในวงกลม คือ ปี(ค.ศ) ที่ผลิต และลูกศรชี้ คือ เดือนที่ผลิต เช่น เลข 15 ขนาดใหญ่ตรงกลางนั้นหมายถึงปี 2015 และ ลูกศรที่ชี้ไปที่เลข 2 หมายถึง เดือนกุมภาพันธ์

รุ่น Ducle organic จะมีวันเดือนปีที่ผลิตจะอยู่ใต้ฐานของคาร์ซีท เป็นแบบสัญญลักษณ์วงกลม 2 วง โดยวงกลมซ้ายมือระบุปี(ค.ศ)ที่ผลิต 2 หลัก เช่น 15 หมายถึงปี 2015 และ วงกลมขวามือระบุเดือนที่ผลิต

สำหรับคาร์ซีทรุ่นอื่นๆ รวมถึงแบรนด์อื่นๆ ที่ไม่ได้กล่าวมานั้นมักจะใช้วิธีการระบุวันเดือนปีที่ผลิตในลักษณะคล้ายๆ กัน ลองตรวจสอบกันดูนะคะ หรืออาจสอบถามจากผู้ขายที่เป็นตัวแทนที่ได้รับการแต่งตั้งเพื่อความมั่นใจในข้อมูลที่ได้รับ

ส่วนคุณพ่อคุณแม่ที่จำเป็นต้องเลือกใช้คาร์ซีทมือสองหรือคาร์ซีทของผู้อื่น ก่อนนำมาใช้ควรตรวจสอบเพื่อให้มั่นใจว่าคาร์ซีทที่เลือกใช้นั้นมีวันเดือนปีที่ผลิตอย่างชัดเจนและมีอายุนับจากวันที่ผลิตไม่เกิน 7 ปี รวมถึงควรตรวจสอบประวัติการใช้งานเพื่อให้มั่นใจว่าคาร์ซีทนั้นไม่เคยผ่านการเกิดอุบัติเหตุรุนแรงมาก่อนถึงแม้ว่าสภาพภายนอกจะยังคงดูใหม่ สะอาด และที่สำคัญควรเลือกใช้เฉพาะคาร์ซีทที่มีอุปกรณ์ครบถ้วนเท่านั้นเพื่อความปลอดภัยของลูกน้อยของเรา 

และสำหรับคุณแม่ที่กำลังมองหาคาร์ซีทเพื่อปกป้องลูกน้อย ควรเลือกให้เหมาะกับสรีระและช่วงวัยที่เหมาะสม หรือสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับคาร์ซีทเพิ่มเติมได้จากผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำปรึกษาและแนะนำได้อย่างถูกต้อง

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00

บทความแนะนำ

คุณแม่อาจป้อนอาหารบดละเอียดให้ลูกเสริมกับการกินนมแม่เป็นหลัก หรือถ้าคุณพ่อคุณแม่คนไหนอยากฝึก BLW ให้ลูกกินข้าวด้วยตัวเองเป็นก็อาจให้ลูกหยิบจับอาหารนิ่ม ๆ กินเองโดยที่ไม่ต้องป้อนซึ่งอาจเป็นอาหารที่ไม่ผ่านการปรุงมาก อย่างเช่น ผักต้มนิ่มๆ ผลไม้นิ่มๆ เนื้อปลาต้มนิ่มๆ และเมื่อลูกย่างเข้าสู่เดือนที่ 8 เป็นต้นไป ลูกก็จะเริ่มกินอาหารได้หลากหลายมากขึ้น คุณพ่อคุณแม่ก็อาจมองหาเมนูอาหารใหม่ๆ ให้กับลูกน้อย ซึ่งในบทความนี้ BabyGift มีเมนูอาหารเด็ก 8 เดือน 5 เมนูอร่อยมาแนะนำกัน จะมีอะไรบ้างนั้น ลองไปดูกันค่ะ  ชวนเข้าครัวเตรียมเมนูอาหารเด็ก 8 เดือนให้ลูกน้อย เด็ก 8 เดือนกินอะไรได้บ้าง ?  พอลูกของเราอายุ 6 เดือนขึ้นไป ก็จะสามารถกินอาหารเสริมนอกเหนือจากนมแม่เพิ่มเติมได้ และถ้าเป็นไปได้ คุณแม่ก็ควรให้นมแม่ควบคู่กับการเพิ่มมื้ออาหารให้ลูก ซึ่งอาหารสำหรับเด็กอ่อนนั้น สามารถใช้วัตถุดิบได้หลากหลาย และเมื่อลูกอายุ 8 เดือนก็จะเริ่มมีฟันน้ำนม สามารถกินอาหารได้อย่างหลากหลายมากขึ้น เนื้อสัมผัสอาหารมีความหยาบได้มากขึ้น รวมถึงกินผลิตภัณฑ์จากนมอย่าง เนย ชีส และโยเกิร์ตได้ สำหรับเมนูอาหารเด็ก 8 เดือนที่เราจะแนะนำกันนั้น สามารถใช้วัตถุดิบอะไรได้บ้าง มาดูกันค่ะ  แนะนำ […]

เตรียมตัวรับมือให้พร้อมกับการเป็นคุณแม่อย่างเต็มตัว กับ 14 วิธีรับมือลูกแรกเกิด ขอบคุณบทความดีๆ จาก คุณหมอ สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ

หมอเด็กเค้าเลือกคาร์ซีทแบบไหนให้ลูกตัวเอง….อยากรู้ต้องคลิ๊ก ก่อนซื้อคาร์ซีทให้ลูก ถ้าไปอ่านหนังสือ ก็จะรู้ว่าคาร์ซีท (carseat) มี 4 แบบ (ซึ่งเอาเข้าจริงรู้จริงๆ ตอนมีลูก 55555 ก่อนนั้นรู้แต่ทฤษฎี) คือ แน่นอนในตลาด มี option มากมายไว้หลอกลวงพ่อแม่ขาช้อป 5555 ทั้งแบบตระกร้าที่ยกเข้าออกได้เลย หรือ ประกอบลง stroller (รถเข็น) ได้เลย…. เอาที่สบายใจ 555 เอาหลักในการเลือกของพ่อหมอเลยแล้วกัน 555 ไม่ว่าอะไรก็ตาม เน้นใช้ได้ยาวๆ เป็นหลัก แน่นอน convertible เป็นแบบที่เลือกแบบไม่ต้องคิดเลย เพราะใช้ได้นานดี อย่างน้อยๆ ก็สามสี่ปี อีแบบตระกร้าเนี่ยใช้ได้ปีเดียวก็ต้องเปลี่ยนละ ไม่ไหว พ่อไม่ค่อยมีตังค์ (ต้องเอาไปซื้อของไร้สาระอื่นๆ อีก 55555) ยังๆ ยังไม่จบ เลือกชนิดแล้ว ต้องมาเลือก options อีก ตัวเลือกเรามีดังนี้ เน้นหลัก 3 ข้อในการใช้คาร์ซีท carseat โดย […]

คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ ที่กำลังจัดเตรียมอุปกรณ์ของใช้ต่างๆ สำหรับลูกน้อย อาจได้รับคำแนะนำจากเพื่อนๆ หรือแพทย์ สำหรับการจัดเตรียมอุปกรณ์ ฆ่าเชื้อโรคของใช้ต่างๆ ให้พร้อมก่อนคลอด จากในอดีตหลายๆ บ้าน อาจคุ้นเคยกับการลวกด้วยน้ำร้อน 100 องศาขึ้นไป ในการฆ่าเชื้อขวดนม ภาชนะ ไปจนถึงเสื้อผ้า ปลอกหมอนผ้าปูที่นอน ของเด็กได้ แต่ด้วยสถานการณ์การระบาดของโควิดในปัจจุบัน ทำให้คุณพ่อคุณแม่หลายบ้านอดห่วงไม่ได้ว่าเชื้อไวรัสนั้นจะหลุดรอดเข้ามาถึงตัวลูกน้อยของเราได้จากของใช้อื่นๆ ที่ไม่สามารถฆ่าเชื้อด้วยการ ลวก หรือการนึ่งได้ และมีบทความทางการแพทย์มากมาย ระบุว่า การนำพลาสติกไปลวกด้วยความร้อนสูง จะก่อให้เกิดการตกค้าง ปนเปื้อนของ ไมโครพลาสติก ที่สามารถเข้าสู่ร่างกายของลูกน้อยก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ จึงมีการผลิตคิดค้น และนำเข้า เครื่องอบยูวี สำหรับใช้ในบ้าน ซึ่งเป็นการใช้พลังงานจากรังสี UV-C ในการฆ่าเชื้อโรคร้ายที่อาจติดอยู่ตามข้าวของเครื่องใช้ของลูกน้อย และฆ่าเชื้อของใช้คุณพ่อคุณแม่ได้อีกด้วย ประโยชน์ของรังสี UV-C ส่วนประกอบสำคัญของ เครื่องอบ UV-C คือหลอด UV-C ซึ่งมีคุณสมบัติในการปล่อยรังสี UV-C มาใช้ในการฆ่าเชื้อโรคได้จริง แม้แต่เชื้อไวรัสโควิดก็ไม่รอด ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก และมีผลวิจัยต่างๆ จากหลากหลายสถาบันยืนยันแล้วว่า รังสี UV-C สามารถฆ่าเชื้อไวรัสโควิดได้ 99.99% […]

คาร์ซีท AILEBEBE กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศไทย เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่มั่นใจว่าได้รับคาร์ซีทของแท้และนำเข้าถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมบริการหลังการขายที่ใส่ใจเหมือนครอบครัว เราขอแนะนำให้ตรวจสอบ 2 ขั้นตอนง่าย ๆ นี้เลยค่ะ วิธีตรวจสอบคาร์ซีท AILEBEBE ของแท้ 1. ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์ว่ามีคำแนะนำเป็นภาษาไทยหรือไม่ ? คาร์ซีท Ailebebe ของแท้จะมีฉลากและคำแนะนำการใช้งานเป็นภาษาไทย เช่น ชื่อผลิตภัณฑ์, ข้อมูลผู้ผลิต, วิธีการใช้งาน, และคำเตือนด้านความปลอดภัย ตามที่กฎหมายประเทศไทยกำหนด การมีฉลากภาษาไทยนี้ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่มั่นใจในการใช้งานอย่างถูกต้องและปลอดภัย 2. ตรวจสอบว่ามีสติกเกอร์ BabyGift ตัวแทนนำเข้า Offical หรือไม่ ? คาร์ซีท Ailebebe ของแท้ จะมีการรับประกันและใช้อะไหล่แท้จากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งสามารถหาได้เฉพาะจากตัวแทน Official เท่านั้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากสินค้าที่อาจไม่ได้มาตรฐานและไม่ปลอดภัยสำหรับลูกน้อย เพียงแค่นี้คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถมั่นใจได้ว่ากำลังซื้อสินค้าของแท้นำเข้ามาถูกต้อง ใช้ได้อย่างถูกวิธีช่วยให้ลูกน้อยปลอดภัยทุกการเดินทาง หยุดเสี่ยง หยุดใช้คาร์ซีท Ailebebe นำเข้าผิดกฎหมาย  การซื้อคาร์ซีท Ailebebe จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของลูกน้อยดังนี้ค่ะ  1.ความเสี่ยงจากการใช้งานคาร์ซีทไม่ถูกต้อง ผู้ลักลอบจำหน่ายมักขาดความรู้และความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับสินค้า วิธีการใช้งาน และคำแนะนำตามมาตรฐานที่แบรนด์กำหนด เนื่องจากไม่ได้รับการอบรมจากทีมงานผู้เชี่ยวชาญของ Ailebebe […]

เมื่อต้องพาเจ้าตัวน้อยเดินทางไกลขึ้นเครื่องบินครั้งแรก คุณแม่หลายท่านมักมีคำถามมากมาย เพื่อให้ทุกท่านเตรียมตัวเดินทางได้อย่างสนุกสนานพร้อมรถเข็นคันโปรดคู่ใจ Baby Gift ได้รวบรวมทุกคำตอบไว้ในที่เดียวจบ 1.รถเข็นแบบไหนสามารถนำขึ้นเครื่องบินได้บ้าง จำเป็นต้องพับเล็กๆ หรือมีข้อกำหนดเกี่ยวกับขนาดและน้ำหนักของรถเข็นหรือไม่? ตอบ เมื่อมีผู้โดยสารที่เป็นเด็กเดินทางไปพร้อมกัน รถเข็นเด็กทุกขนาด ไม่ว่าจะพับใหญ่พับเล็ก ทั้งหนักและเบา สามารถนำขึ้นเครื่องบินได้ทั้งหมดโดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องขนาดและน้ำหนัก แต่รถเข็นต้องสามารถพับได้ (ซึ่งรถเข็นทุกรุ่นทุกแบรนด์ที่จำหน่ายในปัจจุบันพับได้ทุกคัน) 2. ขั้นตอนการนำรถเข็นขึ้นเครื่องบินแบบ Gate Check ? ตอบ เมื่อนำกระเป๋าขนาดใหญ่ Check in เพื่อโหลดใต้ท้องเครื่องให้แจ้งเจ้าหน้าที่สายการบินว่ามีรถเข็นเด็กมาด้วย และต้องการเข็นไปโหลดที่หน้าประตูเครื่องบิน (หรือเรียกว่า Gate Check) เจ้าหน้าที่จะนำ Tag (หรือป้ายติดกระเป๋า) ติดให้ที่รถเข็นเพื่อป้องกันการสูญหาย เราสามารถเข็นลูกน้อยผ่านพิธีการต่างๆ ไปจนถึงหน้าประตูเครื่องบินตรงจุดที่มีแอร์โฮสเตสยืนต้อนรับ ให้พับรถเข็นให้เรียบร้อย หลังจากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่รอรับฝากรถเข็นเพื่อนำลงไปเก็บใต้เครื่อง (ในบางกรณีเจ้าหน้าที่จะจัดเตรียมถุงพลาสติกขนาดใหญ่คลุมให้อย่างดีเพื่อความสะอาดและปลอดภัย) ซึ่งเมื่อถึงที่หมายปลายทางเจ้าหน้าที่จะนำรถเข็นมาส่งคืนให้ที่หน้าประตูเครื่องบินเหมือนเดิม ในกรณีต่อเครื่อง (Transfer) ก็สามารถรับรถเข็นคืนได้ที่หน้าประตูเครื่องเช่นเดียวกัน 3. มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับนำรถเข็นเดินทางขึ้นเครื่องบินหรือไม่ ตอบ ทุกสายการบินอนุญาติให้นำรถเข็นขึ้นเครื่องได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย 4. ในกรณีที่รถเข็นมีขนาดเล็กและสามารถพับเก็บบนที่เก็บสัมภาระเหนือศีรษะ (Cabin) ได้ จะสามารถนำรถเข็นติดตัวขึ้นไปเก็บบน cabin ในเครื่องบินได้หรือไม่ ? ตอบ รถเข็นบางรุ่นสามารถพับและนำขึ้นเก็บบน Cabinได้ มีความเป็นไปได้ที่ทางสายการบินจะอนุญาติหรืออาจจะปฎิเสธไม่อนุญาติให้นำขึ้นไปเก็บบน Cabin […]

Menu
All Categories
All Brands
All Ages
Promotions
Locations
BabyGift Family
BabyGift Care
Parents Guide
News & Event

All Categories

All Categories
All Brands
All Ages