รวมเรื่อง เครื่องอบ UV ฉบับพ่อแม่มือใหม่ พร้อมยี่ห้อแนะนำ

ความสะอาดของอุปกรณ์เครื่องใช้สำหรับลูกน้อยนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะเด็กเล็กยังร่างกายไม่แข็งแรง ระบบภูมิคุ้มกันก็ทำงานได้ยังไม่เต็มที่ หากสัมผัสกับเชื้อโรคก็จะมีโอกาสป่วยได้ง่าย คุณพ่อคุณแม่จึงต้องหาวิธีทำความสะอาดข้าวของเครื่องใช้ของลูกน้อย เพื่อให้มั่นใจว่าสะอาดปลอดภัยมากที่สุด ทั้งนี้ ได้มีการนำนวัตกรรมการฆ่าเชื้อด้วยพลังงานจากรังสี UV-C โดยการปรับเปลี่ยนเป็นเครื่องอบ UV ขนาดเล็กที่สามารถใช้ฆ่าเชื้อสิ่งของต่างๆ ภายในบ้านได้อย่างง่ายดาย ในบทความนี้ BabyGift ได้รวบรวมเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเครื่องอบยูวีพร้อมสินค้าแนะนำมาฝากกันแล้วค่ะ  

เครื่องอบ UV คืออะไร ?

เครื่องอบ UV หรือ ตู้อบ UV (UVC Sterilizer) เป็นการนำหลอดสังเคราะห์แสง UV-C หรือ Germicidal Lamp มาติดตั้งไว้ภายในเครื่องอบบริเวณด้านบน หรือบริเวณฝาปิดด้านบน เมื่อเครื่องทำงานด้วยโหมด UV จะเป็นการปล่อยรังสี UV-C จากหลอด UV ด้วยปริมาณค่าความยาวคลื่นแสงถึง 254 นาโนเมตร ลงไปตกกระทบกับพื้นผิวของสิ่งของต่างๆ ที่อยู่ภายในตู้ ในปริมาณที่สม่ำเสมอ และระยะเวลานานเพียงพอจนเข้าไปทำลาย DNA และ RNA ของเชื้อโรคได้

จากแต่เดิมการฆ่าเชื้อสิ่งของต่างๆ ด้วยการลวกน้ำร้อน หรือการนึ่งด้วยไอร้อน อาจเหมาะกับการฆ่าเชื้อแค่สิ่งของที่โดนน้ำและทนความร้อนได้ เช่น ขวดนม และภาชนะทานอาหาร แต่อาจไม่เหมาะกับการฆ่าเชื้อของใช้ภายในบ้านที่ลูกน้อยมักหยิบเข้าปากบ่อยๆ เช่น รีโมททีวี ของเล่นเด็ก ตุ๊กตา ฯลฯ เพื่อปกป้องลูกน้อยจากเชื้อโรคต่างๆ ได้อย่างมั่นใจ จึงได้มีการนำนวัตกรรมการฆ่าเชื้อด้วยพลังงานจากรังสี UV-C ที่จากเดิมใช้ในโรงพยาบาล หน่วยงาน หรืออุตสาหกรรมขนาดใหญ่ มาออกแบบปรับเปลี่ยนให้เป็นเครื่องอบยูวีที่มีขนาดเล็กที่สามารถใช้ฆ่าเชื้อสิ่งของต่างๆ ภายในบ้านได้อย่างง่ายดาย หลักๆ ที่คุณพ่อคุณแม่จะนำมาใช้งานก็คือ เอามาทำความสะอาดขวดนม จุกนม ยางกัดของลูก และอุปกรณ์ของใช้อื่นๆ สำหรับเด็กอ่อนเป็นหลัก

เครื่องอบยูวี จำเป็นมั้ย ? ต้องใช้หรือเปล่า ?!

จากเดิมเราคุ้นเคยกับการทำความสะอาดของใช้ของลูกด้วยการนึ่งหรือต้ม แต่จากสถานการณ์การเกิดโรคระบาด COVID – 19 ที่ผ่านมา ทำให้เครื่องอบ UV ได้รับความนิยมมากขึ้นและเป็นที่ยอมรับอย่างมาก เพราะมีผลวิจัยจากสถาบันทางการแพทย์ต่างๆ ออกมายืนยันว่า รังสี UV-C สามารถยับยั้งเชื้อไวรัส ที่ทำให้เกิดโรค COVID-19 ได้ถึง 99.99% ทั้งในของเหลว บนพื้นผิวต่างๆ และในอากาศ และนอกจากไวรัสแล้ว ยังช่วยกำจัดเชื้อโรคปนเปื้อนอื่นๆ ได้อีกด้วย เช่น เชื้ออีโคไล (E. Coli) ที่ทำให้ท้องเสีย สแตฟีโลคอกคัส (Staphylococcus aureus) ก่อให้เกิดอาหารเป็นพิษ ซาลโมเนลลา (Salmonella Typhimurium) ทำให้ติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร และไวรัส H1N1 เป็นต้น  

สำหรับคุณพ่อคุณแม่คนไหนที่กังวลว่าจะใช้วิธีฆ่าเชื้อขวดนม จานชามอาหาร ช้อนส้อม จุกนม ของเล่น และของใช้ของลูกอย่างไรให้ปลอดเชื้อมากที่สุด การใช้เครื่องอบยูวีเพื่อทำความสะอาดขวดนมและอุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้สำหรับลูกน้อยจึงส่งผลดีต่อสุขภาพและความปลอดภัยของลูกเรามากๆ ค่ะ โดยเฉพาะในเด็กบางคนที่ป่วยง่าย ภูมิคุ้มกันต่ำ มีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย ก็ต้องดูแลรักษาในเรื่องของความสะอาดเป็นพิเศษ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ฆ่าเชื้ออุปกรณ์ของใช้อื่นๆ ของคุณพ่อคุณแม่ได้ด้วยนะคะ มั่นใจในเรื่องของความสะอาดปลอดเชื้อได้เลยค่ะ 

แนะนำวิธีเลือกเครื่องอบ UV สำหรับคุณแม่มือใหม่ 

ตอนนี้เราก็ได้รู้จักเครื่องอบยูวีกันมากขึ้นแล้วนะคะ คุณพ่อคุณแม่หลายๆ คนก็อาจจะกำลังมองหาเครื่องอบยูวีอยู่ เพราะช่วยทำความสะอาดอุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ของลูกน้อยได้อย่างถูกสุขอนามัยและปลอดภัยจากเชื้อโรคเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ แล้วเราจะเลือกเครื่องอบยูวีอย่างไรดี BabyGift มีคำแนะนำเพิ่มเติมมาฝากกันค่ะ 

1. เลือกที่หลอด UV-C มีความยาวคลื่นได้มาตรฐาน

ก่อนจะเลือกซื้อเครื่องอบยูวีต้องตรวจสอบก่อนว่า หลอด UV-C ที่อยู่ในตัวเครื่องนั้น มีความยาวคลื่นที่ได้มาตรฐานหรือไม่ หากใช้แสง UV-C ในช่วงความยาวคลื่น 200 ถึง 313 นาโนเมตร จะมีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรคสูงถึง 99.99 เปอร์เซ็นต์ โดยสามารถกำจัดได้ทั้งเชื้อไวรัส แบคทีเรีย ยีสต์ เห็ด และรา ซึ่งรวมถึงเชื้อ COVID – 19 ทั้งนี้ ค่าความยาวคลื่นของแสง UV-C ที่สามารถฆ่าเชื้อได้ดีที่สุดจะอยู่ที่ 260 นาโนเมตร จึงควรเลือกเครื่องอบยูวีที่หลอด UV-C ภายในเครื่องมีความยาวคลื่นประมาณ 240 – 260 นาโนเมตร นอกจากนี้ มีนวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่มีการคิดค้นหลอด UV-C LEDs ขึ้นมา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการฆ่าเชื้อได้สูงขึ้น โดย UV-C LED สามารถปล่อยค่าความยาวคลื่นแสงได้สูงถึง 260 – 280 นาโนเมตร และไม่ก่อให้เกิดโอโซน (O3) ซึ่งเป็นก๊าซพิษ จึงเป็นที่นิยมแพร่หลายมากขึ้น 

2. เลือกเครื่องอบยูวีที่สามารถกระจายแสงได้ทั่วถึง 

นอกจากจะเลือกหลอดไฟที่มีความยาวคลื่นได้มาตรฐานแล้ว จำนวนของหลอดไฟก็มีความสำคัญเช่นกัน ควรเลือกเครื่องอบยูวีที่มีหลอดไฟเพียงพอ สามารถกระจายแสงได้อย่างทั่วถึงทั้งตู้ เพื่อการฆ่าเชื้อโรคได้อย่างครอบคลุม และควรเลือกตู้อบยูวีที่ผนังภายในตู้ทำจากวัสดุที่เป็นกระจกหรือเป็นโลหะสะท้อนแสง ซึ่งจะช่วยกระจายแสงยูวีได้อย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้น ทำให้สามารถฆ่าเชื้อโรคได้อย่างหมดจดนั่นเองค่ะ

3. เลือกจากความจุที่เหมาะสม และตอบโจทย์วัตถุประสงค์การใช้งาน

ก่อนจะซึ่งเครื่องอบยูวี ต้องคำนึงถึงวัตถุประสงค์ของการใช้งานด้วยว่า เราจะนำมาทำความสะอาดสิ่งใดบ้าง ในกรณีที่มีลูก 2 คนขึ้นไป และยังใช้ขวดนมอยู่ ก็ควรพิจารณาเป็นเครื่องอบขนาดใหญ่ซึ่งมักจะจุขวดนมได้ตั้งแต่ 10 – 20 ขวด สำหรับขวดนมที่ใช้กับตู้อบ UV ได้ก็คือ ขวดนมที่ผลิตจากพลาสติกทุกประเภท ขวดนมที่ผลิตจากแก้ว และขวดนมที่ผลิตจากซิลิโคนที่มีขอบเกลียวเป็นพลาสติกแบบถอดแยกชิ้นส่วนได้ ทั้งนี้ เครื่องอบขนาดใหญ่ยังสามารถใช้อบฆ่าเชื้อสิ่งของต่างๆ ของลูกน้อยให้เตรียมพร้อมก่อนไปคลอด ได้แก่ ขวดนม จุกนม ผ้าอ้อม ไปจนถึงกรวยอุปกรณ์ปั๊มนมต่างๆ และยังสามารถใช้อบสิ่งของที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เช่น ตุ๊กตา ไปจนถึงกระเป๋าสตางค์ หรือกระเป๋าถือขนาดเล็กของคุณแม่ได้อีกด้วย แต่ถ้ามีเด็กคนเดียวในบ้าน ปริมาณขวดนมไม่มาก การใช้เครื่องอบยูวีขนาดเล็ก ไซส์ 8 -10 ลิตร ที่จุได้ประมาณ 8-12 ขวด ก็เป็นที่นิยมเช่นกัน หรือบางบ้านนิยมใช้เป็นเครื่องที่ 2 สำรองในกรณีที่ต้องเดินทางไปพักต่างที่ หรือแยกอบระหว่างขวดนมกับของใช้อื่นๆ ของลูกน้อยก็ได้เช่นกัน 

4. เลือกเครื่องอบยูวีที่มีฟังก์ชั่นหลากหลาย

โดยทั่วไปแล้วเครื่องอบยูวีจะมีฟังก์ชั่นการทำงานหลักๆ ก็คือ อบฆ่าเชื้อโรค แต่หลายๆ รุ่นก็มีฟังก์ชั่นเสริมต่างๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานมากยิ่งขึ้น เช่น ฟังก์ชั่นเป่าลมร้อนที่ทำให้อุปกรณ์ที่ล้างทำความสะอาดมาแห้งสนิทโดยที่ไม่ต้องเอาไปตากลมด้านนอกซึ่งอาจมีการปนเปื้อนของเชื้อโรคได้ รวมถึงฟังก์ชั่นจัดเก็บ (Storage) ที่เปรียบเสมือนห้องจัดเก็บปลอดเชื้อ และยังช่วยฆ่าเชื้อโรคทุกๆ 1 – 2 ชั่วโมง ทำให้คุณพ่อคุณแม่มั่นใจได้ว่าข้าวของเครื่องใช้ของลูกนั้นสะอาดถูกสุขอนามัยอย่างแน่นอนค่ะ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นอื่นๆ เช่น ฟังก์ชั่นเตือนเวลาทำความสะอาด มีหน้าจอ LCD บอกผลการใช้งาน มีระบบเตือนหากปิดตู้ไม่สนิท ฯลฯ หากเลือกเครื่องอบยูวีที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย ก็จะทำให้ใช้ประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่า

5. เลือกจากความน่าเชื่อถือ มีการรับประกันสินค้า และมีบริการหลังการขาย

ปัจจุบันมีเครื่องอบยูวีจำนวนมากมายให้เลือกซื้อ การเลือกซื้อเครื่องอบยูวีที่ไม่เป็นที่รู้จักหรือเป็นเครื่องหิ้วมาจำหน่าย อาจไม่ได้มาตรฐานทั้งประสิทธิภาพ และความปลอดภัยในการใช้งาน ปัจจุบันหน่วยงาน สวทช. และ สคบ. จึงเข้ามาช่วยเหลือผู้บริโภคในการตรวจสอบและออกกฎเพื่อควบคุมการนำเข้าอย่างผิดกฎหมาย เครื่องอบยูวีที่เลือกซื้อควรมีเอกสารรับรองการนำเข้าอย่างถูกต้อง และควรเลือกจากแบรนด์หรือตัวแทนจำหน่ายที่น่าเชื่อถือเท่านั้น อาจเลือกจากรุ่นที่มีเอกสารใบรับรองการฆ่าเชื้อ มีการทดสอบมาตรฐานความปลอดภัยในการใช้งานต่างๆ เป็นต้น

นอกจากนี้ ควรเลือกซื้อสินค้าที่มีบริการหลังการขาย มีระยะเวลารับประกันสินค้าที่แน่นอน ที่ตั้งของศูนย์บริการซ่อมควรเลือกที่อยู่ใกล้บ้านหรืออยู่ภายในประเทศ เพื่อที่จะสามารถดูแลซ่อมบำรุงหากเกิดการชำรุดเสียหาย ซึ่งจะสร้างความสะดวกสบายในการดูแลบำรุงรักษาตู้อบ UV ของเราเพื่อให้ใช้งานได้อย่างยาวนานค่ะ

BabyGift แนะนำ เครื่องอบ UV น่าใช้ ฆ่าเชื้อทำความสะอาดของลูกได้เต็มประสิทธิภาพ

สำหรับคุณพ่อคุณแม่คนไหนที่กำลังชั่งใจอยู่ว่าควรซื้อเครื่องอบยูวีหรือไม่  สามารถเข้ามาเลือกชมสินค้าได้ที่ร้าน BabyGift ร้านจำหน่ายสินค้าแม่และเด็กระดับคุณภาพ มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี สามารถมาเยี่ยมชมสินค้าต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องอบยูวีหรือสินค้าอื่นๆ ก็ตาม ทั้งยังสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ร้านเบบี้กิ๊ฟทั้ง 6 สาขา ใกล้บ้าน หรือสอบถามผ่านช่องทาง Online ทีมงาน BabyGift ยินดีให้คำแนะนำค่ะ