Carseat Safety Series คาร์ซีทมีกี่แบบ และแบบไหนดีกว่ากัน

คาร์ซีท คืออุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยสำหรับเด็กในขณะที่เดินทางด้วยรถยนต์ ซึ่งแต่ละรุ่นก็มีราคา ฟังก์ชั่น ที่แตกต่างกัน ทำให้คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ คน ไม่แน่ใจว่าจะเลือกแบบไหนดีที่ลูกยอมนั่ง โดยเฉพาะคาร์ซีทแรกเกิด ที่ต้องให้ความสำคัญและใส่ใจในการเลือกเป็นพิเศษ เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายของเด็กบอบบางที่สุด ซึ่งการจะซื้อคาร์ซีทให้ปลอดภัย ต้องเลือกจากหลาย ๆ อย่าง เช่น เลือกประเภทคาร์ซีทให้เหมาะกับการใช้งาน เหมาะกับวัย ส่วนสูง และน้ำหนักของลูก
วันนี้ Baygift จึงจะพาพ่อแม่ทุกคน มารู้จักกันว่า คาร์ซีทมีทั้งหมดกี่แบบ แต่ละแบบมีข้อดี ข้อเสียอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลย
คาร์ซีท ระบบติดตั้งมีกี่แบบ
เป็นเรื่องที่ต้องดูเป็นอันดับแรก ว่ารถที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบันสามารถติดตั้งคาร์ซีทได้ด้วยระบบใด ซึ่งการติดตั้งจะมีอยู่ 2 ระบบ ดังนี้…
- คาร์ซีทระบบ Belt
ระบบนี้สามารถติดตั้งได้กับรถยนต์ทุกรุ่น ทุกคัน แต่ขั้นตอนการติดตั้งค่อนข้างจะยุ่งยาก จึงต้องศึกษาคู่มืออย่างละเอียด หรือ ให้พนักงานผู้เชี่ยวชาญช่วยติดตั้งให้เลย
- คาร์ซีทระบบ Isofix
คือ ระบบการติดตั้งตามมาตรฐานยุโรป ติดตั้งง่าย ISOFIX จะมีในรถที่ผลิตในปี 2014 ขึ้นไป บางรุ่นที่เก่ากว่าปี 2014 ก็อาจจะมีเช่นกัน ดังนั้น ให้ลองสังเกตสัญลักษณ์ ISOFIX ที่เบาะด้านหลังว่ามีหรือไม่ หรือ หากไม่แน่ใจ ก็สามารถเอารุ่นรถ ปีรถ ไปสอบถามพนักงานผู้เชี่ยวชาญได้
คาร์ซีทเด็กมีกี่แบบ เลือกแบบไหนดี
คาร์ซีทแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ คือ คาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิด และ คาร์ซีทสำหรับเด็กโต
คาร์ซีทเด็กแรกเกิด มีดังนี้

- คาร์ซีทกระเช้า
คาร์ซีทแบบตระกร้าหิ้ว New Born Only คาร์ซีทประเภทนี้จะมีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา สามารถถอดออกและถือหิ้วเหมือนตะกร้าได้ บางรุ่นสามารถนำไปใช้บนเครื่องบินหรือรถเข็นเด็กได้ด้วย แต่มักจะมีอายุการใช้งานที่สั้น ส่วนใหญ่แล้วจะนั่งได้ไม่เกิน 18 เดือน เพราะเมื่อลูกเริ่มโตขึ้น คาร์ซีทก็จะมีขนาดเล็กเกินไป จึงต้องรีบหาคาร์ซีทตัวใหม่มาทดแทน
ข้อดี
- มีน้ำหนักเบา ทำให้เคลื่อนย้ายได้ง่ายมาก
- สามารถถอดคาร์ซีทออกมาเดินถือได้เลย เวลาที่ลูกนอนหลับไม่ต้องปลุกลูก หรืออุ้มลูกออกจากคาร์ซีท ทำให้ลูกนอนหลับได้อย่างเต็มที่
- บางรุ่นปรับใช้งานได้หลายแบบ เช่น ใช้งานกับรถเข็น ทำให้สะดวกมากขึ้น หรือบางรุ่นปรับเป็นเปลนอนได้ด้วย
ข้อเสีย
- จากน้ำหนักที่เบาและรูปทรงเล็ก ทำให้โครงคาร์ซีทมีความบอบบาง กว่าคาร์ซีทประเภทอื่น
- เบาะ Support เด็กแรกเกิด จะมีชิ้นเล็กและบอบบางกว่าคาร์ซีทรุ่นอื่น
- ด้วยโครงที่เล็ก จึงใส่วัสดุรองรับแรงกระแทกได้ไม่เยอะ
- ระยะเวลาการใช้งานสั้น คาร์ซีทกระเช้าจะใช้งานได้จริงกับเด็กอายุไม่เกิน 1 ปี เพราะเด็กจะเริ่มตัวโตขึ้น มีความสูงเพิ่มขึ้นมากแล้ว

2. คาร์ซีทแบบ Convertible
สามารถใช้งานกับเด็กได้หลายช่วงอายุ มีฟังก์ชั่นความปลอดภัยมากขึ้น โครงใหญ่ขึ้น และปรับการใช้งานได้ 2 รูปแบบ คือ ปรับคาร์ซีทหันหน้าเข้าหาเบาะรถ (Rear-Facing) สำหรับเด็กแรกเกิด และปรับหันหน้าไปหน้ารถ (Forward facing) สำหรับเด็กโต
ข้อดี
- ใช้งานได้ยาวนานกว่าแบบกระเช้า เช่น 0-4 ปี, 0- 9 ปี , 0-12 ปี ทำให้ไม่ต้องเปลี่ยนคาร์ซีทให้ลูกบ่อย
- โครงสร้างใหญ่ ตัวเบาะกว้าง ทำให้ใส่วัสดุรองรับแรงกระแทกได้มากกว่าแบบกระเช้า
- มีเทคโนโลยีความปลอดภัยเพิ่มขึ้น ทำให้มีความปลอดภัยสูง
- มีฟังก์ชั่นหลากหลาย ทั้ง ความปลอดภัยและความสะดวกสบาย เช่น มีขาค้ำยัน, ช่องระบายอากาศ, หมุนได้ 360 องศา , มีที่พักเท้า, มีที่วางแก้ว
ข้อเสีย
- โครงคาร์ซีทใหญ่ ต้องใช้พื้นที่ในการติดตั้ง
- คาร์ซีทมีน้ำหนักเยอะ ไม่สามารถถอดออกแล้วเดินถือได้เหมือนคาร์ซีทแบบกระเช้า
คาร์ซีทแบบ Convertible แบ่งย่อยได้อีก 3 ประเภท ดังนี้…

2.1 คาร์ซีทแบบหมุนได้
คาร์ซีทแบบหมุนได้ 360 องศา ส่วนใหญ่จะเป็นคาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิด เพราะเด็กแรกเกิดบอบบาง ต้องระมัดระวังในการพาเข้าหรือออกจากคาร์ซีท การหมุนหันมาหาแม่ได้ จะช่วยให้อุ้มลูกขึ้นลงรถได้สะดวก ไม่เสี่ยงหกล้ม แม้ที่จอดรถจะแคบ นอกจากนี้ ยังติดตั้งครั้งเดียวจบ สามารถปรับใช้งานได้ ทั้งแบบหันหน้าเข้าหาเบาะรถ (Rear-Facing) และหันหน้าไปหน้ารถ (Forward facing) ได้เลย

2.2 คาร์ซีทแบบหมุนไม่ได้
คาร์ซีทประเภทนี้ส่วนใหญ่จะออกแบบเพื่อรองรับการใช้งานของเด็กโตด้วย จึงไม่มีฟังก์ชั่นการหมุนมาให้ และจะต้องติดตั้งใหม่ จากการนั่งหันหน้าเข้าหาเบาะรถ (Rear-Facing) ไปเป็นการนั่งหันหน้าไปหน้ารถ (Forward facing) แต่คาร์ซีทแบบนี้ จะใช้งานได้นานขึ้นกว่าแบบที่หมุนได้ บางรุ่นใช้ได้ถึง 12 ปี เลย

2.3 คาร์ซีทปรับนอนราบได้ และหมุนได้
คาร์ซีทแรกเกิดประเภทนี้ จะมีความพิเศษกว่าแบบอื่น เพราะปรับนอนราบได้สูงสุด 170 องศา และยังหมุนได้ด้วย เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิด เด็กเล็ก ที่ต้องเดินทางบ่อย นอกจากนี้ยังเหมาะกับเด็กที่คลอดก่อนกำหนดด้วย เพราะการปรับนอนราบ จะช่วยทำให้เด็กนั่งคาร์ซีทได้สบายขึ้น หายใจสะดวกขึ้น
คาร์ซีทเด็กโต มีดังนี้

- คาร์ซีทเด็กโต Forward Facing หรือ Combination Seat
เหมาะใช้เป็นคาร์ซีทตัวที่ 2 ให้กับลูก ใช้งานแบบหันหน้าไปหน้ารถอย่างเดียว บางรุ่นมีเข็มขัดนิรภัย 5 จุด และปรับเป็นบูสเตอร์ซีทได้ในตัวเดียว จึงใช้งานได้ยาวนาน ส่วนใหญ่จะใช้ได้ตั้งแต่อายุ 1 ปี – 12 ปี ตัวคาร์ซีทจะมีลักษณะเบาะกว้าง พนักพิงใหญ่และสูง เพื่อทำให้เด็กนั่งได้สบายและเหมาะสมกับการเจริญเติบโตของเด็ก
ข้อดี
- โครงสร้างใหญ่ เบาะกว้าง ทำให้ลูกนั่งสบาย ไม่อึดอัด
- พนักพิงจะปรับความสูงได้เยอะ เพื่อรองรับสรีระเด็กได้ตามวัย
- บางรุ่นปรับเป็นบูสเตอร์ซีทได้ในตัวเดียว ใช้งานได้นาน
- วัสดุรองรับแรงกระแทกมีความแข็งแรง ทำให้คาร์ซีทมีความปลอดภัยสูง
ข้อเสีย
- บางรุ่นจะมีน้ำหนักเยอะ เคลื่อนย้ายไม่ค่อยสะดวก
- บางรุ่นไม่สามารถปรับเบาะเอนนอนได้ อาจทำให้เด็กนอนหลับไม่สบาย ควรเลือกแบบปรับเอนได้

- บูสเตอร์ซีท Booster seat
จะแบ่งย่อยได้ 2 แบบ คือ บูสเตอร์ซีทแบบมีพนักพิง และ บูสเตอร์ซีทแบบไม่มีพนักพิง
2.1 บูสเตอร์ซีท แบบไม่มีพนักพิง
จะเป็นเบาะรองนั่ง น้ำหนักเบา พกพาสะดวก ฟังก์ชั่นหลัก ๆ จะช่วยเพิ่มความสูงให้เด็ก ๆ เพื่อให้คาดเข็มขัดนิรภัยของรถยนต์ได้อย่างพอดี สายเข็มขัดไม่รัดคอ เหมาะกับเด็กอายุ 4 ปีขึ้นไป
ข้อดี
- น้ำหนักเบา พกพาสะดวก สามาถพกเดินทางไปต่างประเทศได้
ข้อเสีย
- ไม่มีพนักพิงรองรับสรีระ เด็กจะพิงเบาะรถยนต์แทน
- หากไม่มีตัวปรับสายเข็มขัด อาจทำให้เข็มขัดนิรภัยรัดจนเกินไป หรือ สายเข็มขัดอาจพาดที่คอของเด็กได้

2.2 บูสเตอร์ซีท แบบมีพนักพิง
บูสเตอร์ซีทมีพนักพิง จะช่วยให้นั่งสบายมากขึ้น นอกจากเพิ่มความสูงให้เด็ก ๆ คาดเข็มขัดนิรภัยของรถยนต์ได้อย่างพอดี สายเข็มขัดไม่รัดคอ ยังมีฟังก์ชั่นความปลอดภัยเสริมอีกด้วย เหมาะกับเด็กอายุ 4 ปีขึ้นไป
ข้อดี
- มีพนักพิงสูงใหญ่ หนานุ่ม จะช่วยให้เด็กนั่งพิงได้สบายมากขึ้น
- มีฟังก์ชั่นความปลอดภัยเสริม เช่น ซัพพอร์ตข้างศีรษะหนา กันกระแทกได้อย่างปลอดภัย
ข้อเสีย
- บางรุ่นมีน้ำหนักเยอะ อาจเคลื่อนย้ายบ่อยไม่สะดวก
- บูสเตอร์ซีทที่มีพนักพิง ตัวเบาะจะกว้าง ต้องใช้พื้นที่ในการติดตั้ง

สำหรับ ตำแหน่งที่ควรติดตั้งคาร์ซีทมากที่สุด
ในประเทศไทย ตำแหน่งในรถยนต์ที่ควรติดตั้งคาร์ซีทมากที่สุดก็คือ “เบาะหลังฝั่งคนนั่ง” ด้วยเหตุผลดังนี้…
- รถยนต์ในประเทศไทยขับฝั่งขวา ซึ่งก็จะทำให้ฝั่งขวาหรือฝั่งคนขับนั้น จะอยู่ฝั่งเดียวกันกับเกาะกลางถนน ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้มากกว่าฝั่งซ้ายที่จะอยู่ฝั่งเดียวกับฟุตบาท และในขณะที่พาลูกน้อยขึ้น-ลงรถฝั่งด้านซ้ายที่ติดกับฟุตบาทก็จะมีความสะดวกและปลอดภัยมากยิ่งกว่า
- ระยะห่างระหว่างเบาะกับคาร์ซีท ปกติแล้วคนขับควรจะปรับเบาะให้มีความสบายมากที่สุดสำหรับการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องความความสูงต่ำของเบาะ หรือการเอนหลังของพนักพิงเพื่อให้การขับขี่เป็นไปได้อย่างราบรื่นมากที่สุด และการปรับเบาะก็มีโอกาสที่จะทำให้ช่องว่างระหว่างคาร์ซีทกับเบาะติดกันเกินไป จึงไม่ควรที่จะติดตั้งคาร์ซีทในฝั่งที่นั่งด้านหลังของคนขับ เพราะจะทำให้ลูกน้อยเสี่ยงได้รับแรงกระแทกจากเบาะหน้าของคนขับไปด้วย
มาถึงตรงนี้ คุณพ่อคุณแม่คงเลือกได้แล้วใช้ไหมคะ ว่าจะให้ลูกใช้คาร์ซีทแบบไหนดี หากยังไม่แน่ใจ สามารถพาลูกน้อยมาลองนั่งคาร์ซีทได้ทุกรุ่น หรือ สอบถามเพิ่มเติมได้ ที่ร้านเบบี้กิ๊ฟ 5 สาขา ใกล้บ้าน หรือสอบถามผ่านช่องทาง Online ทีมงาน BabyGift ยินดีให้คำแนะนำค่ะ
คาร์ซีท มีกี่แบบ แบบไหนดี รับชมได้ที่นี่
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
ใครกำลังคิดว่ากระเป๋าใส่ของแม่ ไม่ได้จำเป็นอะไร ใช้อะไรก็ได้ ลองแวะมาอ่านบทความนี้กันก่อนค่ะ พอเป็นคุณแม่แล้วก็มีของใช้มากมายต่างๆ ทั้งของเรา ของลูกเยอะแยะไปหมดใช่มั้ยคะ เพราะฉะนั้นการมีกระเป๋าใส่ของลูกก็จะทำให้คุณแม่มีความสะดวก หยิบของง่าย เป็นระเบียบมากขึ้น และในบทความนี้ BabyGift จะพาคุณแม่มาทำความรู้จักกระเป๋าของคุณแม่กันให้มากขึ้นค่ะ จำเป็นแค่ไหน ? กระเป๋าคุณแม่ ต่างจากกระเป๋าปกติยังไง ? กระเป๋าใส่ของคุณแม่มีความแตกต่างจากกระเป๋าทั่วไปในหลายๆ อย่างค่ะ ไม่ว่าจะเป็นขนาดและความจุ ซึ่งโดยมากมักมีขนาดใหญ่ และมีช่องเก็บของหลายช่อง เพื่อบรรจุของใช้สำหรับทั้งคุณแม่และลูกน้อย มีฟังก์ชันการใช้งานที่ถูกออกแบบมาให้สามารถบรรจุของที่จำเป็นต่อการดูแลลูกได้อย่างครบครัน เช่น มีช่องสำหรับใส่ขวดนม ผ้าอ้อม แผ่นรองเปลี่ยนผ้าอ้อม เป็นต้นค่ะ แล้วเราจะเลือกกระเป๋าใส่ของลูกยังไงให้เหมาะกับเรา ใช้ได้นาน มาดูรายละเอียดกันต่อค่ะ เลือก กระเป๋าคุณแม่ ยังไงดี ? การเลือกกระเป๋าที่เหมาะกับตัวคุณแม่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งาน คุณแม่จึงควรเลือกให้เหมาะกับพฤติกรรมและความต้องการใช้งาน เรามาดูวิธีการเลือกซื้อกันค่ะ 1. ขนาด และความจุ : ควรเลือกขนาดที่เหมาะสมกับความต้องการ ไม่ใหญ่หรือเล็กเกินไป รวมถึงมีช่องเก็บของเพียงพอสำหรับใส่ของใช้ของคุณแม่และลูกของเรา 2. น้ำหนัก ความสะดวกในการพกพา และความปลอดภัย : ให้เลือกวัสดุที่แข็งแรงแต่มีน้ำหนักเบา และมีสายสะพายที่นุ่ม และปรับความยาวได้ […]
Aprica ก่อตั้งเมื่อปี 1947 ปี โดยทีมกุมารแพทย์จากประเทศญี่ปุ่น ด้วยความห่วงใยและใส่ใจเกี่ยวกับเด็กทารก เพราะถือว่าเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเด็ก จึงได้ช่วยกันคิดค้นและวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นอย่างพิถีพิถัน โดยมีเป้าหมายคือการมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเด็กและพ่อแม่ ด้วยความเชี่ยวชาญและการพัฒนาอย่างต่อเนื่องกว่า 70 ปี Aprica จึงได้รับการยอมรับและไว้ว่างใจอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น Aprica เป็นบริษัทแรกในโลก ที่มีการใช้หุ่นจำลองเด็กทารกขนาด 5 kg. ที่มีมูลค่าสูงถึง 30 ล้านบาท โดยหุ่นจำลองนี้มีข้อต่อและอวัยวะในร่างกายเช่นเดียวกับเด็กทารก ติดตั้งเซ็นเซอร์ตัวรับสัญญาณในส่วนต่างๆ ทั่วร่างกาย เพื่อตรวจวัดการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นจากการกระแทกในอุบัติเหตุจำลองรูปแบบต่างๆ ได้รับรางวัลทรงเกียรติจากสถาบันนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็น
เบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็กในรถยนต์ทุกที่นั่งจะต้องมีป้ายรับรองมาตรฐาน ECE R44/04 เป็น มาตรฐานความปลอดภัยคาร์ซีท เพื่อบ่งชี้ว่าเบาะตัวนั้นๆได้ผ่านตามข้อกำหนดมาตรฐานความปลอดภัย ป้ายรับรองมาตรฐาน ECE R44/04 จะเป็นป้ายสีส้ม มาตรฐานความปลอดภัยคาร์ซีท ECE 44/03 และ ECE R 44/04 แบ่งตาม Group และแบ่งแยกเป็นประเภทต่างๆ ทั้งหมด 4 ประเภท (4 Categories) ตามการติดตั้งและการใช้งาน ซึ่งจะช่วยให้เราทราบว่าเบาะนั้นๆออกแบบมาสำหรับรถเราหรือไม่ มาตรฐานความปลอดภัยคาร์ซีท ECE 44/03 และ ECE R 44/04 แบ่งตามภูมิภาค จากข้อมูลในหัวข้อนี้คงพอให้ท่านผู้อ่านเข้าใจความหมายและทราบถึงรายละเอียด ข้อมูลของเบาะนั้นจากป้ายมาตรฐาน ตลอดจนเป็นประโยชน์กับผู้ปกครองในการเลือกซื้อเบาะให้เหมาะกับลูกหลานและรถ ที่มีแนวทางการใช้งานเบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็ก ในครั้งแรกๆ เด็กๆอาจจะร้องเพราะกลัวการถูกล็อค แต่ถ้าเขาคุ้นเคยเสียก่อน ก็จะลดการร้องไม่ยอมของเด็กได้ การที่เด็กๆร้องก็จะทรมาณใจพ่อแม่เพราะสงสารลูกๆและเป็นสาเหตุทำให้ละเลยการใช้งานเบาะนิรภัยในครั้งต่อๆไป เพราะว่าเด็กที่นั่งอยู่ในเบาะนิรภัยจะมีการป้องกันการชนด้านข้างต่ำ การนั่งในตำแหน่งกลางจะช่วยเพิ่มพื้นที่ในการดูดซับแรงกระแทก แต่ทั้งนี้รถควรจะเป็นรถขนาดใหญ่ที่เบาะกลางมีเข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด อย่างไรก็ตามหากไม่สามารถติดตั้งตรงเบาะกลางได้ การติดตั้งทางฝั่งซ้ายหรือขวาก็สามารถทำได้ โดยที่ฝั่งตรงข้ามคนขับ (ฝั่งเดียวกับฟุตบาท) จะปลอดภัยกว่าฝั่งคนขับ สำหรับการใช้งานเบาะนิรภัยร่วมกับรถปิกอัพให้ติดตั้งด้านหน้าข้างคนขับและห้ามใช้ถุงลมในที่นั่งด้านข้างคนขับ 1. เด็กสูงเพียงพอที่ขาและเข่าของเขาสามารถนั่งห้อยขาได้เบาะนั่งรถได้พอดี2. เด็กโตพอที่จะสามารถนั่งตัวตรง หลังพิงพนักพิงได้ตรง3. เข็มขัดนิรภัยของรถส่วนล่างจะต้องรัดได้ตรงส่วนกระดูกเชิงกรานไม่ใช้รัดตรงท้อง4. เข็มขัดที่พาดส่วนบ่าจะต้องพาดผ่านมาตรงส่วนหน้าอก […]
เครื่องปั๊มนมเป็นตัวช่วยอันดับหนึ่งของคุณแม่ลูกอ่อน โดเฉพาะคุณแม่ที่ต้องการให้ลูกน้อยได้กินนมแม่อย่างต่อเนื่องยาวนานที่สุด เครื่องปั๊มนมจะช่วยให้คุณแม่ปั๊มนมได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ไม่ทำให้เกิดอาการคัดเต้านม ซึ่งการที่คุณแม่ปั๊มนมอย่างสม่ำเสมอนั้น เป็นการช่วยกระตุ้นให้ร่างกายผลิตน้ำนมได้มากยิ่งขึ้น ทำให้คุณแม่สามารถสต็อกน้ำนมได้ตามความต้องการ ปัจจุบันในท้องตลาดมีเครื่องปั๊มนมหลากหลายยี่ห้อมากมาย และก็มีหลายประเภทให้เลือกซื้อ คุณแม่บางคนอาจสงสัยว่าควรเลือกแบบไหน จะเลือกเครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ? BabyGift มีเครื่องปั๊มนมน่าใช้ในปี 2024 มาแนะนำให้เหล่าคุณแม่ได้เลือกใช้ตามความเหมาะสมกันเลยค่ะ เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ? เครื่องปั๊มนมแบบไหนที่ถูกใจคุณแม่บ้าง ? เครื่องปั๊มนมนั้นจำเป็นสำหรับคุณแม่อย่างมาก โดยเฉพาะคุณแม่ที่เพิ่งคลอดลูกและต้องกลับไปทำงานหลังลาคลอดทำให้ไม่ได้ให้ลูกกินนมจากเต้าเหมือนตอนอยู่บ้าน เครื่องปั๊มนมนั้นก็มีประโยชน์มากมาย อย่างเช่น ทำให้คุณแม่ปั๊มนมเก็บลงสต็อกได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ช่วยกระตุ้นน้ำนม เสมือนว่ามีทารกดูดน้ำนมอย่างเสมอซึ่งช่วยให้ร่างกายคุณแม่ผลิตน้ำนมได้มากยิ่งขึ้น ทั้งช่วยบรรเทาอาการคัดเต้านม และทำให้คุณแม่ได้มีเวลาพักผ่อนหรือมีเวลาทำกิจกรรมส่วนตัวเพิ่มขึ้นในระหว่างที่ลูกดูดนมสต็อกในขวดแทนการดูดจากเต้า เรียกว่าเครื่องปั๊มนมนั้นมีความจำเป็นมากทีเดียวเลยค่ะ แล้วจะเลือกเครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ? ก็ต้องดูว่าแต่ละรุ่นแต่ละแบบนั้น ตอบโจทย์การใช้งานของคุณแม่ได้มากน้อยอย่างไร สำหรับคุณแม่ที่อาจจะกำลังสงสัยว่าเครื่องปั๊มนม มีกี่แบบ ? โดยหลัก ๆ แล้วจะมีอยู่ 2 แบบด้วยกันดังนี้ค่ะ BabyGift แนะนำเครื่องปั๊มนม 10 อันดับน่าใช้ประจำปี 2024 รู้กันแล้วว่ามีกี่ประเภท ตอนนี้เราลองมาดูยี่ห้อน่าใช้กันต่ะค่ะ ปัจจุบันตามท้องตลาดก็มีเครื่องปั๊มนมจำหน่ายมากมาย ทั้งแบบปั๊มมือ และแบบไฟฟ้า มีฟังก์ชั่นให้เลือกอย่างหลากหลาย […]
แม่ใบเตย-พ่อแมน ปลื้มใจ ที่ได้ตัวช่วยดีๆอย่างรถเข็น Aprica เข็นพาลูกออกไปไหนมาไหนก็ลื่นสมูทไม่มีสะดุด ช้อปปิ้งนานแค่ไหน น้องเวทมนต์ ก็นอนสบายหลับสนิทไม่งอแง การมีรถเข็นเด็กแรกเกิดดีๆสักคันที่แม่ไว้วางใจ การพาลูกออกไปเดินเล่นนอกบ้าน ก็ไม่ใช่เรื่องยากคุณแม่ใบเตยเลือก รถเข็น Aprica รุ่น Optia Cushion Premuim พา น้องเวทมนต์ ไปข้างนอกแบบสบายๆ ปรับเป็นแบบเข็นไปเห็นหน้าลูกไปก็ได้ สบายใจหายห่วงสุดๆ ตามมาส่องความน่ารัก ” น้องเวทมนต์ “ ลูกสาวตัวน้อยของแม่ใบเตย-พ่อแมนสุดน่ารักกันเลยค่า BabyGift ยินดีแนะนำรถเข็นที่เหมาะกับลูกน้อยและไลฟ์สไตล์คุณพ่อคุณแม่ ทักมาปรึกษาได้เลยค่า

ร้านสินค้าแม่และเด็กที่คัดสรรนวัตกรรมของใช้แม่และเด็กที่มี
คุณภาพให้คำปรึกษาและบริการ อย่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อช่วยให้การเลี้ยงลูกเป็นเรื่องง่าย ปลอดภัย และมีความสุข
Online Shopping
สาขา ปิ่นเกล้า ราชพฤกษ์
สาขา Mega บางนา
สาขา Central World
สาขา The Crystal รามอินทรา
สาขา BTS วงเวียนใหญ่ (Outlet)
Copyright 2024 © Baby Gift (Retail) Co., Ltd.