รถเข็นเด็กยี่ห้อไหนดี แนะนำรถเข็นเด็ก พร้อมวิธีการเลือกซื้อ

การเลือกซื้อรถเข็นคันแรกให้ลูกน้อย อาจจะเป็นปัญหาชวนปวดหัวสำหรับคุณพ่อคุณแม่ เพราะปัจจุบันรถเข็นเด็กมีหลากหลายรูปแบบให้เลือกเยอะมากมาย จนหลายคนตัดสินใจไม่ถูก ว่าจะเลือกรถเข็นเด็กยี่ห้อไหนดี ? ต้องดูที่อะไรบ้าง ให้เหมาะกับลูกน้อยในวัยแรกเกิด และตรงตามไลฟ์สไตล์คุณพ่อคุณแม่ วันนี้ Baby Gift มีคำตอบ . . .

“ เพราะ รถเข็นเด็ก ทุกคัน
ไม่ได้เหมาะกับเด็กแรกเกิดทุกคัน ”
หลายคนยังเข้าใจผิดว่า รถเข็นเด็ก แต่ละคัน ดูๆแล้วก็คล้ายๆกัน น่าจะใช้เหมือนๆ กันแต่ในความเป็นจริง แล้วเด็กแรกเกิดมีความบอบบางและต้องการการดูแลเป็นพิเศษ รถเข็นเด็กสำหรับเด็กแรกเกิดจึงต้องมีคุณสมบัติเฉพาะที่นอกจากจะช่วยปกป้องสรีระของลูกน้อย แล้วยังช่วยเสริมพัฒนาการรอบด้าน สร้างสุขอนามัยที่ดี และสร้างรอยยิ้มแห่งความสุขให้ทั้งคุณแม่และลูกน้อยได้อีกด้วย
เลือกรถเข็นเด็ก ให้เหมาะกับช่วงวัยแรกเกิด
นอกจากคาร์ซีทแล้ว รถเข็นเด็ก ก็เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ต้องคำนึงถึงเรื่องของอายุเด็กเป็นสำคัญ เพราะรถเข็นเด็กทุกคันไม่ได้เหมาะกับเด็กทุกคนโดยเฉพาะเด็กในช่วงวัยแรกเกิด หรือเด็กทารกที่ต้องการการดูแลใส่ใจมากเป็นพิเศษ เราจึงควรเลือกรถเข็นเด็กที่มีคุณสมบัติต่อไปนี้ จะช่วยให้เด็กนอนหลับในรถเข็นเด็กได้อย่างสบายและมีสุขภาพดี

1. มีชุดหมอน Newborn Support ที่บริเวณคอและสะโพก
เด็กแรกเกิดช่วงคอและกระดูกสันหลังยังไม่แข็งแรง และต้องการได้รับการปกป้องเป็นพิเศษ การมีชุดหมอน Newborn Support เสริมบริเวณคอและสะโพก จะช่วยประคองให้ศีรษะและหลังยืดเป็นเส้นตรง ให้ลูกนั่งรถเข็นได้อย่างปลอดภัย ไม่ทำให้ลูกคอพับโงนเงน หรือเอนไปมา และยังช่วยให้ลูกน้อยหายใจได้สะดวก เติมออกซิเจนเข้าไปเลี้ยงสมองในขณะหลับได้อย่างเต็มที่
2. เลือกเบาะรถเข็นที่ปรับนอนได้ 170 องศา
ไม่ควรเลือกเบาะรองนอนที่ปรับนอนได้น้อยเกินไปหรือมากเกินได้ แต่ควรเลือกเบาะปรับได้ 170 องศา เพราะเด็กทารกมีกิจกรรมหลักคือ การทานนมและนอน เบาะที่ปรับให้ศีรษะสูงขึ้นเล็กน้อย (ในระดับ 170 องศา) จะช่วยลดโอกาสเกิดภาวะกรดไหลย้อนในเด็กได้ ยิ่งสมัยนี้มีการออกแบบเบาะรถเข็นเด็กตามหลัก Baby Ergonomic Design ทำให้เราสามารถปรับระดับองศาเบาะนอนแบบแยกส่วนตั้งแต่ศีรษะ กลางลำตัวและปลายเท้าได้ ตามพัฒนาการของลูกรัก ทำให้ช่วยปกป้องต้นคอ กระดูกสันหลัง และปลายเท้าได้อย่างสมบูรณ์มากขึ้น

3. เข็นได้นิ่ง ไม่สั่นสะเทือนจนทำให้ลูกน้อยสะดุ้งตกใจ
รถเข็นเด็กส่วนใหญ่ใช้เวลาเดินทางออกนอกบ้าน บางครั้งอาจเจอพื้นผิวถนนที่ขรุขระ ให้ลองจินตนาการว่าถ้าเราต้องนั่งรถไปในที่ขรุขระ รถที่เรานั่งจะเขย่าเราจนมืนและเวียนหัวได้เลยทีเดียว เด็กก็เช่นกัน ดังนั้นรถเข็นเด็กควรมีระบบกันกระแทกอย่างดี จะช่วยไม่ให้เกิดการสั่นสะเทือน ทำให้ลูกน้อยนอนหลับได้สนิท ไม่รู้สึกถูกเขย่าหรือสั่นตลอดเวลา ซึ่งปัจจุบันก็มีรถเข็นเด็กหลายๆรุ่นที่มีโช๊คบริเวณล้อ หรือเสริมระบบลดแรงสั่นสะเทือนใต้ที่นั่งเพื่อให้ลูกน้อยรู้สึกแฮปปี้ตลอดการเดินทาง
4. มีหลังคาที่ปกป้องลูกน้อยได้จาก รังสี UV
เพราะเด็กมีผิวบอบบาง และดวงตาที่ยังไม่พร้อมสู้แสงจ้า หลังคาบังแดดที่สามารถคลุมได้มิดชิดจะช่วยปกป้องผิวและดวงตาลูกน้อยจากแสง UV ได้ดี และแม้ไม่ได้อยู่กลางแดดหลังคา ก็ยังมีความสำคัญเพราะช่วยปกป้องดวงตาลูกน้อยที่กำลังนอนหงายมิให้ปะทะกับแสงจ้าจากหลอดไฟบนเพดานได้
5. รถเข็นมีความสูงจากพื้น ไม่น้อยกว่า 50 ซม.
นอกจากจะช่วยให้ลูกรักอยู่ไกลจากฝุ่นและสิ่งสกปรกบนพื้นถนนซึ่งเป็นแหล่งของเชื้อโรคได้แล้ว เบาะรองนอนที่สูงยังช่วยให้ลูกน้อยอยู่ห่างจากพื้นที่มีความร้อนสะสมได้อีกด้วย

6. รถเข็นที่สามารถปรับเข็นได้ 2 ทิศทาง
พ่อและแม่คือบุคคลที่เด็กให้ความไว้วางใจมากที่สุด เมื่อนำลูกลงนอนในรถเข็นเด็กคุณพ่อคุณแม่ควรอยู่ในตำแหน่งด้านหน้า เพื่อให้ลูกน้อยได้เห็นหน้าตลอดเวลา ซึ่งจะช่วยให้ลูกมั่นใจว่าแม้คุณพ่อคุณแม่ไม่ได้อุ้มอยู่แต่ก็ยังอยู่ใกล้ๆ เสมอ หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเด็กร้องไห้เพราะไม่ชอบนั่งรถเข็นเด็กโดยไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วเค้าแค่กำลังร้องเรียกหาคุณพ่อคุณแม่ที่หายไปจากสายตาเค้าต่างหาก
7. เลี้ยวได้ง่าย ล้อหมุนได้ดีเวลาเลี้ยว ไม่ใช้แรงเยอะจนเกินไป
ล้อรถเข็นเด็กทั่วไปจะหมุนได้ 360 องศาเฉพาะคู่หน้า ซึ่งถ้าคุณต้องเข็นลูกจากด้านหลังของลูกก็คงไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าในกรณีที่คุณพ่อคุณแม่ต้องดูแลลูกในวันแรกเกิด การเข็นลูกในตำแหน่งจากด้านหน้าของลูกจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก รถเข็นเด็กที่มีล้อสามารถหมุนได้ 360 องศาทั้ง 4 ล้อจะช่วยให้คุณสามารถควบคุมทิศทางการเข็นได้ง่ายมากๆ แต่ข้อควรระวังคือควรเลือกซื้อรถเข็นที่หมุนครั้งละ 2 ล้อเท่านั้น (เมื่อยืนอยู่ด้านหลัง ปล่อยให้ล้อหมุนเฉพาะคู่หน้า และเมื่อยืนอยู่ด้านหน้าก็ควรให้ล้อหมุนเฉพาะคู่หลัง) มิเช่นนั้นจะควบคุมทิศทางไม่ได้เลย
8. เบาะรถเข็นระบายอากาศได้ดี ลูกนั่งไม่ร้อน
เพราะเด็กทารกมีรูขุมขนเล็กและระบบการปรับอุณหภูมิในร่างกายยังทำงานได้ไม่เต็มที่ จึงทำให้การระบายเหงื่อเป็นไปได้ช้า ความร้อนในตัวถูกกักเก็บไว้ใต้ผิวหนังเด็กจึงเหงื่อออกได้มากโดยเฉพาะในเวลานอน บริเวณศีรษะและหลังจึงมักชุ่มเหงื่อตลอดเวลาแม้จะอยู่ในห้องแอร์ก็ตาม
รถเข็นเด็กทารกที่ดีควรจะมีช่องระบายอากาศที่หลังเบาะและแผ่นฉนวนกันความร้อนสีเงิน ที่นอกจากจะช่วยระบายเหงื่อจากหลังเด็กเพื่อระบายความอับชื้นแล้วยังช่วยสะท้อนความร้อนจากภายนอกไม่ให้สะสมที่หลังเด็กได้ดีอีกด้วย
วัสดุของเบาะรถเข็น ที่สัมผัสผิวหนังของเด็กโดยตรง ควรมีคุณสมบัติระบายอากาศได้ดี จะช่วยลดความอับชื้นช่วยให้ศีรษะและหลังของลูกไม่เปียกแฉะในเวลานอน

เลือกรถเข็นเด็ก ตามไลฟ์สไตล์พ่อแม่
นอกจากการเลือกรถเข็นเด็กตามวัยของลูกรักแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงถึงคือ ไลฟสไตล์ ของคุณพ่อคุณแม่ ซึ่งในปัจจุบันมีการออกแบบรถเข็นออกมาหลายรูปแบบให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมหลายแบบหลายสไตล์ จะมีอะไรบ้างไปดูกันค่ะ . . .



1. คุณพ่อคุณแม่ที่ชื่นชอบเดินทางท่องเที่ยว
คุณพ่อคุณแม่ ที่รักการเดินทางท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ เมื่อมีลูกน้อยก็อยากพาลูกน้อยไปเปิดประสบการณ์ใหม่ไปพร้อมๆกัน การที่มีรถเข็นที่มีขนาดไม่ใหญ่จนเกินไป ก็จะทำให้เก็บเข้าด้านหลังรถได้แม้จะเป็นรถเล็ก หรือนำขึ้นเครื่องได้อย่างสบาย ส่วนแม่ๆที่ตัวเล็กแถมสัมภาระของตัวเองก็เยอะแล้ว การมีรถเข็นที่น้ำหนักเบา ยกง่าย พับสะดวก ก็จะช่วยให้การเดินทางพาลูกเที่ยว สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นค่ะ
สำหรับบ้านไหนที่มีแพลนพาลูกขึ้นเครื่องบิน ไม่ต้องกังวลเรื่องรถเข็นใหญ่เกินไป เอาขึ้นเครื่องไม่ได้แล้วค่ะ เพราะปัจจุบันหลายๆสายการบินสามารถนำรถเข็นลงไปเก็บใต้ท้องเครื่องแ ละเมื่อถึงปลายทางก็ไปที่จุดรับคืนได้เลยสะดวกสบายมากๆ แต่ควรเลือกรถเข็นที่พับเก็บได้ง่าย และมีน้ำหนักเบา เพราะเวลาขึ้นเครื่องจะต้องพับและกางอยู่บ่อยครั้ง ตรงนี้ก็จะช่วยให้คุณแม่คล่องตัวในการเดินทางมากขึ้น




2. เลือกรถเข็นที่มีดีไซน์และสีสัน ถูกใจคุณพ่อคุณแม่
ปัจจุบันมีรถเข็นนอกจากจะมีฟังชั่นให้ความสะดวกสบายแล้ว ยังมีสีสันเยอะแยะมากมายให้คุณพ่อคุณแม่ได้เลือกตามความชอบ ไม่ว่าจะเป็น สีดำเทาเรียบหรูดูเท่ หรือสีชมพูที่ให้ความหวานๆ คุณพ่อคุณแม่สามารถเลือกรถเข็นตามสไตล์ที่ชอบ รวมถึงสีที่ถูกใจได้เลยค่ะ
ส่วนคุณสมบัติรถเข็นเด็กอื่นๆที่ คุณพ่อคุณแม่อาจพิจารณาเพิ่มเติม มีอะไรบ้าง ไปดูกันค่ะ . . .
- เบาะที่นั่ง สามารถถอดซักทำความสะอาดได้เองง่ายๆที่บ้าน หรือนำเข้าซักเครื่องซักผ้าได้
- พื้นที่ใส่ของด้านล่าง ขนาดใหญ่ ที่สามารถเก็บสัมภาระลูกน้อยและคุณแม่ได้ครบ
- ราคาขายต่อ เมื่อลูกน้อยโตพอที่จะไม่ใช้งานแล้ว
- การรับประกันสินค้า และการบริการหลังการขาย รวมถึงความพร้อมของทีมงานและอะไหล่ทดแทน
เป็นยังไงกันบ้างคะ กับเคล็ดลับวิธีการเลือกรถเข็นเด็ก ที่เบบี้กิ๊ฟนำมาฝาก บ้านไหนกำลังวางแผนซื้อรถเข็นให้ลูกสักคัน ลองเอาไปปรับใช้กันดูนะคะ หรือ พาลูกน้อยมาลองรถเข็นเด็ก ได้ที่ BabyGift ทั้ง 5 สาขา ใกล้บ้านคุณ เรายินดีให้คำแนะนำ พร้อมสาธิตการใช้รถเข็นเด็กอย่างถูกวิธี
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
เชื่อว่าปัญหาที่หลายๆ บ้านจะต้องเจอก็คือ การที่ลูกรักไม่ยอมกินข้าว โดยเฉพาะในเด็กเล็กที่อายุ 1 ขวบขึ้นไป เมื่อเริ่มเดินได้คล่อง เริ่มวิ่งได้บ้าง ก็จะติดเล่น ไม่ค่อยยอมกินข้าวหรือกินได้น้อย บางคนก็อมข้าว ไม่ยอมเคี้ยว หรือหันหน้าหนี กว่าจะป้อนหมดชามก็ใช้เวลานานเกินไป ซึ่งทำให้คุณพ่อคุณแม่หลายๆ คนเป็นกังวล เพราะการที่ลูกเราไม่ยอมกินข้าวก็อาจส่งผลต่อสุขภาพและการเติบโตของลูกได้ แต่ปัญหาการกินของลูกรับมือได้ไม่ยากเลยค่ะ เพียงแค่ต้องให้เวลา ใช้ความเข้าใจ และต้องใจแข็งนิดหน่อย ก็จะทำให้ลูกมีวินัยในการกินมากขึ้น ลูกไม่ยอมกินข้าว 1 ขวบ จะแก้ปัญหาอย่างไรดี ? มาลองฝึกลูกน้อยไปพร้อม ๆ กันกับ BabyGift ได้เลยค่ะ ลูกไม่ยอมกินข้าว 1 ขวบ ทำยังไงดี ? ชวนดูเทคนิคดีๆ ที่ทำให้ลูกกินได้มากขึ้น การได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอในปริมาณที่เหมาะสมนั้นเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากสำหรับลูกน้อย เพราะส่งผลต่อการเจริญเติบโตตามวัย หากได้รับสารอาหารไม่เพียงพอนั้นอาจทำให้ลูกมีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์และสุขภาพไม่แข็งแรงได้ โดยทั่วไปแล้ว เมื่อเด็กอายุครบ 1 ขวบจะเริ่มเรียนรู้การปฏิเสธอาหารหรือคายอาหาร เนื่องจากมีพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวร่างกาย สามารถหยิบจับอาหารเข้าปากได้เอง การปฏิเสธ หรือคายอาหารจึงเป็นสัญชาตญาณอย่างหนึ่งที่ช่วยป้องกันไม่ให้ตัวเองกินสิ่งที่เป็นพิษหรือสิ่งแปลกปลอมเข้าไป โดยส่วนใหญ่แล้ว การที่ลูกไม่ยอมกินข้าว 1 ขวบนั้นจะเกิดขึ้นไม่นานและหายไปได้เอง แต่เด็กบางคนอาจมีพฤติกรรมกินยาก […]
วันนี้เรามีประสบการณ์จริง จากประโยชน์ของการใช้คาร์ซีท ที่คุ้มค่ามากเท่าชีวิต คุณปีใหม่ คุณแม่มือใหม่ที่ศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับคาร์ซีท ตั้งแต่เธอเมื่อเริ่มตั้งครรภ์ เธอให้ลูกนั่งคาร์ซีทตั้งแต่วันแรกที่ออกจากโรงพยาบาล ช่วงนั้นค่อนข้างมีปัญหากับทางบ้านนิดหน่อย เนื่องจากคุณแม่ของเธอเป็นคนหัวโบราณ ไม่เข้าใจเรื่องคาร์ซีท และคิดว่าจะอุ้มหลานเองน่าจะปลอดภัยอยู่แล้ว เธอจึงต้องอธิบายให้คุณแม่เข้าใจอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่ค่อยเป็นผลเท่าไหร่ จนมาวันหนึ่งเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เธอเล่าว่า วันนั้นเธอ สามีและน้องบีน่าลูกสาววัยเพียง 2 เดือน กำลังเดินทางกลับจากจังหวัดชลบุรี อยู่บนทางด่วนบูรพาวิถี สามีใช้ความเร็วปกติ เธอนั่งที่เบาะหลัง ส่วนน้องบีน่า นอนหลับปุ๋ยอยู่ในคาร์ซีท เมื่อสามีขับออกมาจากช่องเก็บค่าทางด่วน สังเกตเห็นว่ารถคันหน้าที่ขับอยู่เลนขวา ขับช้าผิดปกติ สามีจึงจะแซงซ้ายขึ้นไป ทันใดนั้นรถคันหน้าก็เปลี่ยนเลนมาทางซ้ายกะทันหัน เลยชนเข้าอย่างแรง เมื่อรู้ตัวอีกทีคุณปีใหม่กระเด็นไปอยู่ที่เบาะหน้า เพราะไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย มีรอยฟกช้ำ ระบมไปทั้งตัว Airbag แตกรอบคัน พอมีสติก็รีบเปิดประตูรถไปดูน้องบีน่าก่อนเลย น้องบีน่ายังหลับปุ๋ยอยู่ในคาร์ซีทเหมือนเดิม ไม่มีร่องรอยบาดเจ็บใดๆ นี่ถ้าอุ้มลูกไว้เองจะเป็นยังไงไม่อยากนึกเลย ตัวเองยังเอาไม่รอด ขอบคุณคาร์ซีทมากๆ ลูกรอดตายเพราะคาร์ซีทจริงๆ หลังจากเหตุการณ์นี้ คุณยายของน้องบีน่าก็เข้าใจประโยชน์ของคาร์ซีทแล้วว่าสำคัญมากเพียงใด ในวันนั้นคาร์ซีทได้ทำหน้าที่ปกป้องชีวิตหลานตัวน้อยเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด และได้นำเรื่องนี้ไปบอกต่อ กับคนรู้จักว่า “หลานฉันรอดมาได้เพราะคาร์ซีทแท้ๆ” คุณปีใหม่ใช้คาร์ซีท Ailebebe ที่ซื้อจากร้าน Baby Gift ซึ่งทางเรามีบริการ รับประกันสินค้า เปลี่ยนคาร์ซีทตัวใหม่ให้ลูกค้า หากเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝัน ทาง Baby […]
จากเหตุการณ์ครั้งนี้ คุณนานาอยากฝากไปถึงคุณพ่อคุณแม่ทุกท่าน ให้ตระหนักถึงความสำคัญของการใช้คาร์ซีท ในทุกครั้งที่เดินทาง ไม่ว่าใกล้หรือไกล ก็ต้องให้ลูกนั่งคาร์ซีทเสมอ เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ขอปรบมือให้กับคุณนานาและคุณเวย์ ที่เป็นครอบครัวตัวอย่าง ฝึกให้น้องบีน่าและน้องบรู๊คลีน มีวินัยในการนั่งคาร์ซีททุกครั้งที่อยู่บนรถ คาร์ซีท หรือเบาะนั่งนิรภัยในรถยนต์สำหรับเด็ก ช่วยลดโอกาสการบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้ การใช้ คาร์ซีท จะช่วยรองรับศีรษะ คอ กระดูกสันหลัง ที่ยังไม่แข็งแรงของเด็กเล็ก ช่วยไม่ให้สมองและไขสันหลังถูกทำลายจากการกระแทกในขณะเกิดอุบัติเหตุ และสิ่งสำคัญควรติดตั้งคาร์ซีทอย่างถูกต้อง ให้ลูกคาดเข็มขัดนิรภัยที่ตัวคาร์ซีทด้วยทุกครั้ง และปรับสายให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง ไม่ให้ลูกอึดอัดและไม่หลวมเกินไป เพราะถ้าหลวมเกินไป เมื่อเกิดอุบัติเหตุที่ร้ายแรงและไม่คาดฝัน ก็อาจทำให้เด็กหลุดออกจากคาร์ซีท และหลุดออกนอกตัวรถไปจนเป้นอันตรายถึงชีวิต ครอบครัวตัวอย่างเดินทางอย่างปลอดภัย คุณพ่อคุณแม่คาดเบลล์ ลูกๆนั่งคาร์ซีท ว้าว เยี่ยมไปเลย !!! น้องบีน่าและน้องบรู๊คลิน เดินทางอย่างปลอดภัยและหลับสบ๊ายสบายด้วยค่ะ
การเดินทางด้วยรถยนต์เป็นสิ่งที่แม่มือใหม่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่การที่ลูกน้อยยังไม่สามารถนั่งในรถได้อย่างปลอดภัยด้วยเข็มขัดนิรภัยธรรมดา การเลือกซื้อคาร์ซีทที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อความปลอดภัยในทุกการเดินทางของลูกน้อย วันนี้เรามีคำแนะนำเกี่ยวกับการเลือกคาร์ซีทอย่างไรให้เหมาะสมกับลูกน้อยและปลอดภัยที่สุดค่ะ 1. รู้จักประเภทของคาร์ซีท ก่อนที่จะเลือกคาร์ซีทให้ลูกน้อย สิ่งแรกที่ต้องทำความเข้าใจก็คือประเภทของคาร์ซีทที่มีในตลาด ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ ดังนี้: คาร์ซีทสำหรับทารก (Rear-Facing Seat): เหมาะสำหรับเด็กที่อายุต่ำกว่า 1 ขวบ หรือมีน้ำหนักไม่เกิน 10 กิโลกรัม คาร์ซีทประเภทนี้จะติดตั้งหันหลังและรองรับศีรษะและคอของเด็กให้ดีเยี่ยม ช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุ คาร์ซีทแบบหันหน้า (Forward-Facing Seat): ใช้ได้เมื่อเด็กมีอายุ 1 ปีขึ้นไป หรือมีน้ำหนักประมาณ 9-18 กิโลกรัม ตัวคาร์ซีทจะหันหน้าไปข้างหน้าและมีเข็มขัดนิรภัยในตัว คาร์ซีทแบบบูสเตอร์ (Booster Seat): เหมาะสำหรับเด็กที่มีอายุ 4 ปีขึ้นไป หรือมีน้ำหนัก 15 กิโลกรัมขึ้นไป เพื่อเสริมให้เข็มขัดนิรภัยของรถยนต์สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยกับเด็กที่โตขึ้น 2. เลือกคาร์ซีทที่เหมาะสมกับช่วงวัยของลูก การเลือกคาร์ซีทที่เหมาะสมกับวัยของลูกเป็นสิ่งสำคัญมาก เพื่อให้ลูกน้อยได้รับการรองรับที่ดีในขณะนั่งในรถ หากเลือกคาร์ซีทผิดประเภทอาจทำให้ลูกไม่สามารถได้รับความปลอดภัยที่ดีที่สุดในกรณีเกิดอุบัติเหตุ 3. ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ ความปลอดภัยต้องมาเป็นอันดับหนึ่งเมื่อเลือกซื้อคาร์ซีท คาร์ซีทที่ดีจะต้องมีการทดสอบด้านความปลอดภัยผ่านมาตรฐานต่างๆ เช่น มาตรฐาน […]
หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าคาร์ซีทก็มีอายุการใช้งานไม่ต่างจากผลิตภัณฑ์ของใช้อื่น เพราะคาร์ซีททุกตัวมีโครงสร้างพลาสติกเป็นส่วนประกอบหลัก เมื่อผ่านการใช้งานเป็นเวลานาน ความร้อนจะทำให้พลาสติกเสื่อมสภาพ กรอบ แตกหักง่าย นอกจากนี้แสง UV ยังทำให้วัสดุรองรับแรงกระแทกและเบาะรองตัว หมอนรองศีรษะทารกที่เคยนุ่มกลับแข็งและขาดความยืดหยุ่นไม่สามารถใช้ปกป้องทารกได้ดีพอ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไร ว่าคาร์ซีทที่เลือกใช้เพื่อช่วยปกป้องลูกน้อยให้ปลอดภัยจากอุบัติเหตุผลิตขึ้นเมื่อไร และหมดอายุแล้วหรือยัง??? ในหลายๆ ประเทศชั้นนำอย่าง USA, Canada, ญี่ปุ่น, Australia รวมถึงประเทศในกลุ่มEurope มีการกำหนดกฎหมายบังคับให้ผู้ผลิตคาร์ซีททุกรายต้องระบุวันที่ผลิตไว้อย่างชัดเจนเพื่อให้คุณพ่อคุณแม่สามารถตรวจสอบอายุของคาร์ซีทได้ โดยส่วนใหญ่จะแนะนำให้ใช้คาร์ซีทที่มีอายุไม่เกิน 7-10 ปี นับจากวันที่ผลิต แต่เนื่องจากคาร์ซีทแต่ละแบรนด์และแต่ละรุ่นมีจุดสังเกตุวันที่ผลิตต่างกัน จึงทำให้ยากต่อการตรวจสอบ วันนี้Baby Gift มีคำแนะนำที่ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่สามารถตรวจสอบวันที่ผลิตได้ด้วยตัวเอง Aprica แบรนด์ผลิตภัณฑ์เด็กอ่อนระดับ premium ยอดนิยมอันดับ 1 จากญี่ปุ่น กับคาร์ซีทรุ่น Fladea Grow ที่สามารถปรับใช้ได้ถึง 3 รูปแบบสำหรับวัยแรกเกิด – 4 ปีนี้มีจะมีวันเดือนปีที่ผลิตฉีดขึ้นบล๊อกอยู่ที่ฐานพลาสติกของคาร์ซีทเป็นแนวตั้ง โดยจะใช้สัญญลักษณ์วงกลมพร้อมลูกศรอยู่ข้างในชี้ตามตัวเลขเรียงตามลำดับ คาร์ซีทสำหรับเด็กวัย 9 เดือน – 12 ปี รุ่น Air Groove STD , Air […]
คาร์ซีทนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับลูกน้อย และคุณพ่อคุณแม่ควรเตรียมพร้อมคาร์ซีทให้เรียบร้อยก่อนที่ลูกน้อยจะคลอด เพราะเมื่อออกจากโรงพยาบาลมาแล้วก็ต้องนั่งคาร์ซีทกลับบ้าน ทั้งเพื่อความปลอดภัยสำหรับลูกน้อยเอง และเพื่อปฏิบัติตามกฏหโมายเรื่องการกำหนดที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก (คาร์ซีท) ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม 2566 เป็นต้นไป สำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกคาร์ซีท เด็กแรกเกิดอย่างไรดี ควรเลือกแบบไหน คาร์ซีทสำหรับเด็กมีกี่ประเภท เลือกอย่างไร BabyGift มีคำแนะนำดี ๆ มาฝากกันแล้วค่ะ เลือกคาร์ซีท เด็กแรกเกิด อย่างไรดี ? ต้องรู้อะไร ? เลือกยังไงดี หาคำตอบได้จากบทความนี้ ! คาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิด เป็นหนึ่งในสิ่งที่ต้องเตรียมไว้ให้กับลูกตั้งแต่ก่อนคลอด และควรที่จะให้ลูกได้ใช้ตั้งแต่วันแรกที่ออกจากโรงพยาบาล เนื่องจากร่างกายของเด็กทารกยังไม่แข็งแรง ยังไม่สามารถรับแรงกระแทกได้มากเท่าไหร่ อีกทั้งเราไม่รู้ว่าอุบัติเหตุจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ จึงควรป้องกันไว้ก่อนและเตรียมความพร้อมในทุกสถานการณ์ คาร์ซีท เด็กแรกเกิด จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ไม่รู้จะเลือกอย่างไรดี ต้องเลือกแบบไหน คาร์ซีท มีกี่แบบ ต้องเลือกอย่างไร ? ในบทความนี้ BabyGift มีเคล็ดลับดีๆ ในการเลือกซื้อคาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิดมาฝากกันค่ะ เรามารู้จักประเภทของคาร์ซีทกันก่อนเลย ซึ่งสามารถแบ่งประเภทของคาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิดได้ดังนี้ 1. New Born Only : หรือคาร์ซีทแบบกระเช้า คาร์ซีทประเภทนี้จะมีขนาดเล็ก […]

ร้านสินค้าแม่และเด็กที่คัดสรรนวัตกรรมของใช้แม่และเด็กที่มี
คุณภาพให้คำปรึกษาและบริการ อย่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อช่วยให้การเลี้ยงลูกเป็นเรื่องง่าย ปลอดภัย และมีความสุข
Online Shopping
สาขา ปิ่นเกล้า ราชพฤกษ์
สาขา Mega บางนา
สาขา Central World
สาขา The Crystal รามอินทรา
สาขา BTS วงเวียนใหญ่ (Outlet)
Copyright 2024 © Baby Gift (Retail) Co., Ltd.