พาลูกขึ้นเครื่องบิน เตรียมอะไรบ้าง?

เมื่อต้องเดินทางหรือท่องเที่ยวพร้อมกับลูกวัยเบบี๋ อาจทำให้คุณแม่หลายๆ บ้านกังวลใจในการ พาลูกขึ้นเครื่อง ไม่ว่าจะเรื่องสุขภาพอนามัยความปลอดภัย ลูกน้อยจะเดินทางไหวไหม? ต้องเตรียมของใช้อะไรไปบ้าง? ลูกเดินทางได้อายุเท่าไร? มีอะไรที่เอาขึ้นเครื่องบินไปได้หรือไม่ได้บ้าง? จะนั่งตรงไหนให้ปลอดภัยเลี้ยงลูกได้สะดวก? ลูกหิวหรือร้องงอแงจะทำอย่างไรได้บ้างนะ? ทุกเรื่องที่คุณแม่กังวลใจจัดการได้ไม่ยาก แค่เพียงทำตามข้อมูลและคำแนะนำเหล่านี้ค่ะ
4 เรื่องต้องรู้ก่อน พาลูกขึ้นเครื่องบิน
เมื่อคุณแม่รู้ว่าจะต้องเพินทางพร้อมลูกวัยเบบี๋ สิ่งแรกที่ต้องทำคือการหาข้อมูล สอบถามกฎและรายละเอียดจากสายการบิน และวางแผนการเดินทางและอุปกรณ์ของใช้ให้ครบถ้วน อาทิ
» หาข้อมูลก่อนเดินทาง

ตรวจสอบกับสายการบิน ว่าอายุเด็กทารกที่เดินทางได้คือเท่าไร
เพราะแต่ละสายการบินอาจมีข้อกำหนดที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งตามความจริงและพัฒนาการของเบบี๋แล้ว ควรให้ลูกอายุประมาณ 3-4 เดือนขึ้นไปจึงเดินทางได้เพื่อสุขภาพ สุขอนามัยและความปลอดภัย แต่หากมีความจำเป็นก็สามารถพาลูกเล็กขึ้นเครื่องบินได้ โดยบางสายการบินเด็กทารกที่เดินทางได้ต้องอายุไม่น้อยกว่า 7 วัน หรือบางสายการบินอาจให้ทารกอายุตั้งแต่ 14 วันขึ้นไป หรืออาจอนุญาตให้อายุน้อยกว่านั้นขึ้นอยู่กับคำแนะนำของแพทย์
สอบถามหาข้อมูลเรื่องการจองตั๋ว การเลือกที่นั่ง และค่าโดยสารสำหรับเด็กเล็ก
- สอบถามข้อมูลการจองตั๋วเครื่องบินของเด็ก ซึ่งส่วนใหญ่การจองตั๋วให้ลูกคุณพ่อคุณแม่สามารถกดจองได้ แบบปกติ โดยจองตั๋วให้ตัวเองก่อนแล้วค่อยเลือกเพิ่มผู้โดยสารที่เดินทางด้วย อย่าลืมระบุให้ชัดเจนว่าเป็นเด็กทารก
- สำหรับค่าโดยสารหากลูกน้อยยังเป็นเด็กทารกส่วนใหญ่จะอนุโลมให้นั่งตักคุณพ่อคุณแม่ในการเดินทางได้ สายการบินอาจจะเก็บค่าธรรมเนียมเล็กน้อย แต่หากเด็กมีอายุ 2 ปีขึ้นไป ก็มักจะเก็บค่าโดยสารอัตราปกติ เหมือนผู้ใหญ่ และจะต้องจองที่นั่งแยกให้ลูก แต่อย่างไรก็ตามหากต้องเดินทางทริที่ใช้เวลานาน เพื่อความสะดวกในการดูแลลูกทารกบนเครื่องบิน แนะนำให้จองที่นั่งแยกอีก 1 ที่นั่ง เพื่อจะได้มีพื้นที่ให้ลูกนอนหลับ คุณแม่ไม่ต้องอุ้มลูกนั่งตักตลอดเวลา หรือจะได้มีพื้นที่วางของ หยิบจับของใช้ส่วนตัวต่างๆ เข้าออกได้ง่ายยิ่งขึ้น (แต่ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายสำหรับที่นั่งแยกเพิ่มขึ้นด้วย)
- การเลือกที่นั่ง แนะนำให้เลือกที่นั่งติดกับทางเดิน เพื่อให้คุณแม่สะดวกในการดูแลลูกน้อย ลุกเดินหรือขอน้ำอุ่นน้ำร้อนกับพนักงานบริการบนเครื่องบินได้สะดวก จะหยิบจับสิ่งของหรืออุ้มลูก แขนขาจะได้ไม่ติดขัดหรือทำให้คนข้างๆ รู้สึกอึดอัดหรือรำคาญ และควรสอบถามสายการบินตอนจองตั๋ว เพื่อจะได้เลือกที่นั่งใกล้กับที่เปลี่ยนผ้าอ้อมที่บางสาบการบินมีติดตั้งเพื่อให้บริการไว้ หรือที่นั่งที่มีพื้นที่กว้างกว่าที่นั่งทั่วไป ก็จะได้เดินทางและดูแลลูกน้อยได้สะดวกขึ้น
แจ้งสายการบินล่วงหน้า สอบถามเรื่องเอกสารที่ต้องใช้สำหรับเด็ก
- เมื่อคุณพ่อคุณแม่จองตั๋วการเดินทาง ต้องอย่าลืมระบุว่ามีเด็กทารกเดินทางด้วย เพื่อที่ทางสายการบินจะได้รับทราบ และมีการเตรียมตัวเพื่ออำนวยความสะดวกให้คุณพ่อคุณแม่ในวันเดินทาง เพราะแม้ว่าจะมีสายการบินที่ไม่คิดค่าโดยสารเด็กทารก หรือจะให้ลูกนั่งตัก แต่การอุ้มลูกไปขึ้นเครื่องเลยดดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า ถือเป็นการไม่เหมาะสม สายการบินมีสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงการจองหรืออาจยกเลิกการเดินทางได้ ดังนั้นต้องแจ้งให้สายการบินทราบตอนที่จองตั๋วทันทีว่าเราจะมีเด็กทารกเดินทางไปด้วย
- สอบถามและจัดเตรียมเอกสารของลูกที่ใช้ในการเช็กอินขึ้นเครื่องบิน เนื่องจากการเดินทางดยเครื่องบินสำหรับผู้โดยสารที่เป็นเด็กหรือเด็กทารก พ่อแม่หรือผู้ปกครองจำเป็นจะต้องใช้ใบสูติบัตรฉบับจริง หรือพาสปอร์ตในการเช็คอินทุกครั้ง หรือผู้โดยสารที่เป็นเด็กอายุตั้งแต่ 7 ปี แต่ไม่ถึง 15 ปี ในวันเดินทาง จะใช้เอกสารได้ทั้งใบสูติบัตรฉบับจริง หรือบัตรประชาชนเด็ก หรือพาสปอร์ตในการเช็คอิน รวมถึงหากเดินทางไปต่างประเทศก็จะต้องมีทั้งสูติบัตรตัวจริง พาสปอร์ต และวีซ่าของประเทศปลายทางเหมือนผู้ใหญ่ทั่วไปอีกด้วย
ศึกษาข้อบังคับและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ บนเครื่องบิน
สอบถามหรือหาข้อมูลข้อกำหนดต่างๆ ในการขึ้นเครื่องบิน ว่าสามารถนำอุปกรณ์ของใช้อะไรบ้าง ที่ขึ้นเครื่องบินเพื่อดูแลลูกทารกระหว่างการเดินทางได้ เช่น
- สายการบินห้ามนำนมหรืออาหารเหลวขึ้นเครื่องบินจำนวนเท่าไร อาหารหรือของใช้แบบไหนขึ้นเครื่องไม่ได้ เพื่อจะได้ไม่ต้องทิ้งไว้หน้า Gate เพราะตามกฏของสายการบิน ของเหลวหรือนมที่พกพาไปต้องไม่เกิน 100 ml. ต่อชิ้น คุณแม่จะได้เตรียมนมผงแบ่งไว้ แล้วขอน้ำร้อนหรือน้ำอุ่นจากสายการบินเพื่อมาชงนมให้ลูก
- เบาะนั่งของลูกบนเครื่องบิน สายการบินส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครื่องบินลำใหญ่ จะมีเปลไว้อำนวยความสะดวกสำหรับเด็กทารก รวมทั้งมีที่นั่งคาร์ซีตให้สำหรับเด็กที่อายุมากกว่า 2 ขวบ และมีการเสียค่าโดยสารแบบผู้ใหญ่ ในขณะที่บางสายการบินผู้ปกครองจะต้องอุ้มเด็กทารกไว้ หรือบางสายการบินก็มีที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กต่ำกว่า 6 เดือนไว้บริการ ฉะนั้นหากคุณแม่ลองเช็กกับสายการบินไว้ล่วงหน้าก็จะทำให้ไม่ต้องเตรียมอุปกรณ์บางอย่างไปให้ยุ่งยาก
- เช็กโควตาน้ำหนัก สัมภาระ ที่โหลดหรือนำขึ้นเครื่องบินว่าสามารถนำไปได้แค่ไหน? เพื่อจะได้จัดเตรียมของใช้สำหรับลูกน้อยตัวเองให้เหมาะสมพอดี ไม่ต้องหอบของพะรุงระรังเดินในสนามบินหรือหิ้วขึ้นเครื่อง หรือมีสัมภาระน้ำหนักเกินจนต้องมายุ่งยากเสียเวลาและเสียค่าธรรมเนียมเพิ่มอีกในวันเดินทางจริง
» เตรียมพร้อมอุปกรณ์ของใช้ในการเดินทางให้ลูกทารก

รถเข็นเด็ก เลือกที่พับได้สะดวก ขนาดเล็กคล่องตัว
รถเข็นเด็กถือเป็นตัวช่วยสำคัญในการเดินทางทุกเวลาและทุกสถานที่ เพื่อช่วยให้ลูกน้อยได้นั่งหรือนอนพักผ่อนในรถเข็นได้ เป็นอุปกรณ์ช่วยทุ่นแรงให้คุณพ่อคุณแม่สะดวก ไม่ต้องอุ้มลูกจนเมื่อยล้าตลอดเวลา ฉะนั้นแน่นอนว่าเมื่อต้องพาลูกเบบี๋เดินทางจะขาดรถเข็นเด็กไม่ได้ เพราะไม่มีใครจะอุ้มลูกเดินไปเดินมาได้ในตลอดทริป คุณพ่อคุณแม่จึงควรรถเข็นเด็ก ประจำติดบ้านไว้ ไม่ใช่แค่เวลามีทริปต้องไปเที่ยวที่ไหน แต่เพราะเราจะต้องใช้เสมอเวลาพาลูกไปนอกบ้านรวมถึงไปโรงพยาบาลเพื่อพาลูกไปหาหมอตรวจสุขภาพและฉีดวัคซีน
เลือกรถเข็นเด็กเล็กให้เหมาะกับการเดินทาง
คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกรถเข็นให้ลูกที่สามารถใช้ได้คุ้มค่าตั้งแต่แรกเกิด โดยควรเลือกซื้อรถเข็นที่มีคุณภาพ แข็งแรง สามารถพับได้มีขนาดเล็ก หรือหิ้วพกพาได้ง่าย เผื่อไว้สำหรับการเดินทาง เพื่อนำติดไปด้วยเวลาเดินทางและขึ้นเครื่องบินทุกที่ ซึ่งรถเข็นจะสามารถเช็คอินแล้วโหลดขึ้นเครื่องพร้อมกระเป๋าเดินทางของครอบครัวได้เลย แต่กรณีเราต้องใช้เข็นลูกน้อยในสยามบิน ก็สามารถใช้รถเข็นจนถึงที่หน้า Gate หรือประตูทางเข้าเครื่องบินได้ โดยที่เมื่อถึงเวลาขึ้นเครื่องจะมีเจ้าหน้าที่ของสายการบินเอารถเข็นไปเก็บใต้ท้องเครื่องให้ และนำออกมาให้อีกครั้งเมื่อถึงจุดหมายปลายทาง
แต่ในเฉพาะบางสายการบิน มีการอนุญาตให้นำเรถเข็นเด็กแบบที่พับได้ มีขนาดและน้ำหนักเล็กไม่เกินตามที่กำหนด สามารถนำขึ้นเครื่องไปด้วยได้ ฉะนั้นหากเลือกซื้อรถเข็นเด็กที่พับได้ง่ายมีขนาดเล็ก ก็อาจจะนำไปเก็บบนเคบินในเครื่องได้ ไม่ต้องกังวลเรื่องความเสียหายเมื่อโหลใต้ท้องเครื่อง ขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละครอบครัว

เป้อุ้มเด็ก เลือกที่แข็งแรงปลอดภัย อุ้มลูกทั้งวันได้สบายๆ ไม่ปวดหลังปวดไหล่ ไม่ทำให้ลูกและคุณแม่อึดอัด
เป้อุ้มเด็กเป็นอุปกรณ์ช่วยผ่อนแรงที่สำคัญอย่างหนึ่งในการเดินทาง เป็นตัวเลือกที่ใช้ได้สะดวกและไม่ต้องใช้พื้นที่หรือหิ้วให้ยุ่งยากไม่คล่องตัวเหมือนรถเข็น เนื่องจากสำหรับบางครอบครัวการนำรถเข็นโหลดไปกับเครื่องบิน และนำติดตัวไปในการเดินทาง อาจยุ่งยากหรือมีสัมภาระมากเกินไป จึงไม่อยากจะพกพาไปด้วย หรือจะใช้เป้อุ้มเด็กสลับกับรถเข็นในการเดินทาง ก็จะช่วยให้ปรับเปลี่ยนได้ง่ายตามสถานการณ์ในแต่ละสถานที่
ฉะนั้นคุณแม่จึงควรมองหาเป้อุ้มเด็กคุณภาพติดไว้ใช้ประจำบ้าน เพื่อจะได้เดินทางหรือทำสิ่งต่างๆ ไปพร้อมกับมีลุกน้อยติดตัวไว้อย่างมั่นใจ โดยควรเลือกเป้อุ้มเด็กที่มีมาตรฐาน ผลิตจากวัสดุที่ปลอดภัย ทนทานแข็งแรง มีเนื้อหาหรือผิวสัมผัสนุ่ม สวมใส่สบาย ไม่ระคายคืองผิวลูกน้อย

กระเป๋าสัมภาระลูก เลือกที่เก็บอุณหภูมิหรือความเย็นได้ มีขนาดกำลังดี พกพาสะดวก
คุณแม่ควรมีกระเป๋าสำหรับใส่สัมภาระของกินของใช้ให้ลูก ในแบบที่สามารถพกพาหรือสะพายขึ้นเครื่องบินได้สะดวก มีช่องสำหรับใส่ขวดนม ชวดแบ่งนม ใส่ทิชชูเปียก ใส่ผ้าอ้อมและของใช้ลูกได้หลายช่อง ควรเป็นกระเป๋าที่มีขนาดไม่ใหญ่หรือเล็กเกินไป เปิดปิดสะดวกหยิบของใช้ได้ง่าย ยิ่งหากมีช่องหรือสามารถเก็บอุณหภูมิได้ ก็จะได้นำอาหารหรือเก็บของกินที่ต้องรักษาอุณหภูมิให้ลูกได้ไปพร้อมกัน เท่านี้ก็จะนำของใช้จำเป็นของลูกใส่ไปในกระเปาใบนี้ได้ทั้งหมด
อุปกรณ์การกินบนเครื่อง เลือกที่เก็บได้ถูกสุขอนามัย ไม่เลื่อนหลุดตกแตกง่าย พกพาสะดวก
แนะนำให้คุณแม่จัดเตรียมอุปกรณ์การกินบนเครื่องบินให้ลูกน้อยไว้ด้วย เช่น ช้อนตักอาหารแบบพับได้ มีกล่องเก็บ กล่องจานหรือชามอาหารแบบพกพาที่มีฝาปิด แบบที่ไม่แตกหักได้ ไม่เลื่อนหลุดจากมือหรือจากโต๊ะอาหารเวลาป้อนลูกทารก และควรเลือกอุปกรณ์การกินที่ไม่เกิดเสียงกระทบกันจนเกิดความรำคาญหรือมีเสียงดังหนวกหู กับผู้โดยสารคนอื่น
» เตรียมพร้อมเมื่อต้องเดินทาง
- พาลูกตรวจสุขภาพ ปรึกษาคุณหมอก่อนพาลูกเดินทาง เพื่อมั่นใจว่าลูกแข็งแรงพอที่จะเดินทางได้
- ให้ลูกพักผ่อนเต็มที่มากๆ ก่อนเดินทาง โดนเฉพาะเมื่อต้องเดินไฟลต์ยาวๆ เพื่อลดอาการงอแงหงุดหงิด และไม่ทำให้ลูกรู้สึกเหนื่อยกับการเดินทาง เมื่อต้องปรับตัวกับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ
- เตรียมของใช้จำเป็นให้ลูกน้อยครบถ้วน เช่น ของในกระเป๋าใบเล็กถือขึ้นเครื่องต้องมี ผ้าอ้อมไว้ให้เพียงพอ มีนมที่แบ่งไว้ มีอาหาร หรือขนมขบเคี้ยวใหลูก ทิชชู่เปียก ยาประจำตัว จุกนมหลอก และของเล่นหรือตุ๊กตาที่ลูกชอบ เพื่อแก้เบื่อ โดยให้ลูกเล่นได้แบบไม่รบกวนผู้โดยสารท่านอื่น
- คุณแม่ควรแต่งกายให้สะดวกกับการให้นมลูก และสะดวกกับการลุกนั่งเดินทาง หากมีเครื่องปั๊มนมก็นำไปด้วยได้ ส่วนลูกน้อยควรแต่งตัวให้เหมาะสมกับสภาพอากาศ ไม่ให้ลูกร้อนหรือหนาวเกินไป
- บอร์ดดิ้งหรือเข้าเครื่องบินเป็นคนท้ายๆ เพื่อจะได้ไม่ต้องยืนรอผู้โดยสารคนอื่นจัดเก็บของ หรือให้ลูกต้องนั่งรอนานๆ ก่อนเครื่องบินขึ้นจนงอแง แต่หากสายการบินประกาศให้ผู้ที่เดินทางกับเด็กเล็กสามารถเข้าเครื่องบินก่อนได้ ก็ควรเข้าไปก่อนได้เลย
- ควรเปลี่ยนผ้าอ้อมที่โต๊ะเปลี่ยนผ้าอ้อมที่มีให้บริการในห้องน้ำ หรือตำแหน่งบริเวณที่สายการบินจัดไว้ให้เสมอ
- ช่วงเวลาเครื่องบินขึ้น-ลง หรือปรับระดับการบิน จะมีเสียงดังและความกดอากาศ ควรให้ลูกดูดนม น้ำ น้ำผลไม้ หรือดูดจุกนมหลอก เพื่อลดปัญหาความกดอากาศและแรงดันที่อาจทำให้ลูกปวดหู กลัวหรือร้องไห้งอแง
บ้านไหนที่มีแพลน พาลูกขึ้นเครื่องบิน เร็วๆนี้ ก็หวังว่าจะได้นำทริคที่ BabyGift นำมาฝากไปใช้ไม่มากก็น้อยนะคะ และแม่ๆที่กำลังหาตัวช่วยดีๆอย่างรถเข็นเด็ก เป้อุ้ม กระเป๋าสัมภาระต่างๆ สามารถสัมผัสสินค้าตัวจริงได้ที่ BabyGift ทุกสาขาใกล้บ้านได้เลยค่ะ
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
ปัจจุบัน คาร์ซีท (Car Seat) หรือ เบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็ก ทั้ง คาร์ซีทแรกเกิด คาร์ซีทเด็กโต บูสเตอร์ซีท มีเกณฑ์การทดสอบความปลอดภัยต่างกันและผ่านมาตรฐานมาจากหลายประเทศ แต่ทราบหรือไม่ว่า คาร์ซีทในประเทศไทย มีประกาศจากกระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) มาแล้ว ว่าคาร์ซีทจะต้องผลิตหรือนำเข้าเฉพาะคาร์ซีทที่ผ่านการทดสอบความปลอดภัยของยุโรปเท่านั้น ทั้งนี้ ยังมีประกาศเพิ่มข้อบังคับให้คาร์ซีทต้องผ่านการทดสอบการชนจากด้านข้างด้วย ซึ่งตรงกับข้อบังคับของ มาตรฐานคาร์ซีท R129 (i-Size) เป็นมาตรฐานฉบับใหม่ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่ามีความปลอดภัยสูงสุด ก่อนคุณพ่อคุณแม่จะตัดสินใจเลือกซื้อคาร์ซีทให้ลูกรัก แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดของ มาตรฐาน ECE R129 (i-Size) มาก่อน ว่าเพิ่มความปลอดภัยจุดไหนบ้าง เราจะพาไปทำความเข้าใจกันเลย คาร์ซีทในประเทศไทย ใช้มาตรฐานใหม่ ECE R129 (i-Size) จากเดิม ประกาศมาตรฐานความปลอดภัย (Safety Standards) ของคาร์ซีท จากกระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) จะเริ่มบังคับใช้ภายในปี 2566 ให้ผู้ประกอบการที่ทำหรือนำเข้าคาร์ซีท ต้องทำหรือนำเข้าเฉพาะคาร์ซีทที่ผ่านการทดสอบความปลอดภัยตามเกณฑ์มาตรฐาน มอก.3418-2565 โดยอ้างอิงมาจากมาตรฐานสากล ECE R44/04 (มาตรฐานยุโรป) ซึ่งเป็นมาตรฐานระหว่างประเทศด้านความปลอดภัยที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ล่าสุด กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) […]
เปลนอนทารก ถือเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญมาก ๆ สำหรับทารก ที่ต้องเตรียมซื้อตั้งแต่ก่อนคลอด เพราะทารกวัย 0-9 เดือน จะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการนอนและอยู่บนที่นอน ดังนั้น ก่อนที่คุณพ่อคุณแม่จะเลือกเปลนอนทารกให้ลูกน้อย ควรเลือกดูจากหลาย ๆ ด้าน เช่น ความปลอดภัย การระบายอากาศ ฟังก์ชั่นการใช้งาน รวมถึงอายุการใช้งาน เพราะการเลือก เปลนอนทารก ที่ไม่เหมาะสมกับทารกอาจส่งผลถึงเสียถึงชีวิตของลูกน้อยได้ วิธีเลือกเปลนอนทารกให้ลูกน้อย เปลนอนทารกมีกี่แบบ มีข้อดี ข้อเสีย อะไรบ้าง ? 1. เปลนอนทารก BEDSIDE CRIB แบบชิดเตียงแม่ เป็นเตียงสำหรับทารกแรกเกิด ที่มีฟังก์ชั่นเปิดด้านข้างเตียงเพื่อต่อชิดกับเตียงของคุณพ่อคุณแม่ได้ ทำให้สะดวกในการดูแลลูกน้อยมากขึ้น ข้อดีเตียง Bedside Crib ข้อเสียเตียง Bedside Crib 2. เตียงไม้ เป็นเตียงที่ถูกออกแบบมาเพื่อความแข็งแรง เน้นการใช้งานแบบคุ้มค่า ใช้ได้ในระยะยาวหลายปี สามารถรองรับน้ำหนักได้มาก ข้อดีเตียงไม้ ข้อเสียเตียงไม้ 3. เปลนอนทารกแบบ PLAYPEN เตียงนอนทารกปรับฟังก์ชั่นเป็นคอกกั้นให้ลูกน้อยได้ ฝึกพัฒนาการคลาน ยืน เป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับคุณแม่ ข้อดี Playpen ข้อเสีย Playpen 4. เปลไกวไฟฟ้า เป็นเตียงที่ได้ความนิยมมาก เพราะปรับการใช้งานได้หลายแบบ พร้อมไกวอัตโนมัติกล่อมลูกหลับได้ง่ายและสนิทมากขึ้น ถือว่าเป็นตัวช่วยในการเลี้ยงลูกน้อยได้ดี ข้อดีเปลไกวไฟฟ้า ข้อเสียเปลไกวไฟฟ้า เมื่อคุณพ่อคุณแม่ทราบถึงข้อดีและข้อแตกต่างของเปลทารกแต่ละประเภทแล้ว เบบี้ กิ๊ฟ มีเปลนอนทารกรุ่นขายดีที่สุด มาแนะนำคุณพ่อคุณแม่กันค่ะ […]
คาร์ซีทนั้นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับลูกน้อย และต้องใช้ตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึงวัยที่สามารถรัดเข็มขัดนิรภัยขณะนั่งรถได้อย่างปลอดภัย และคาร์ซีทเองก็มีอยู่หลายแบบ หลายยี่ห้อ และหลายราคาเช่นกัน ซึ่งคาร์ซีทที่เป็นของใหม่นั้น คุณพ่อคุณแม่บางท่านก็อาจจะมองว่ามีราคาสูงเกินไป และต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย ก็เลยมองหาคาร์ซีทมือสองที่มีราคาย่อมเยากว่า โดยเฉพาะคาร์ซีทแบรนด์ดังจากประเทศญี่ปุ่นแบบมือสองที่มีราคาย่อมเยากว่าของใหม่มาก และดูจากสภาพภายนอกก็ยังมีความใหม่ ไม่เก่า และน่าใช้ แต่ความจริงแล้ว เราควรใช้คาร์ซีทแบบมือสองหรือเปล่า ? จะเลือกอย่างไร ? คุณภาพจะดีหรือไม่ ต้องพิจารณาอย่างไร มาอ่านเพิ่มเติมกันเลยค่ะ ควรซื้อไหม คาร์ซีทมือสอง ? แชร์สิ่งต้องรู้ก่อนซื้อคาร์ซีทแบบมือสอง ในบทความนี้กัน ! เคยสงสัยกันมั้ยคะว่า ทำไมคาร์ซีทแบรนด์ดังนำเข้าจากญี่ปุ่นทั้งหลายที่ขายกันตามท้องตลาดในราคาสองสามหมื่นบาทนั้น เมื่อเป็นคาร์ซีทมือสองก็ยังคงมีสภาพเยี่ยมเหมือนใหม่แถมยังดูน่าใช้ ที่สำคัญคือขายกันในราคาแค่ไม่กี่พันบาทเท่านั้น เรียกได้ว่าทั้งสภาพ และราคาดูมีความน่าสนใจ ดูมีความคุ้มค่ามากๆ จนหลายคนอยากซื้อมาใช้ให้ลูกนั่งกันเลยทีเดียว แต่ความจริงก็คือ คาร์ซีทมือสองญี่ปุ่นเป็นสิ่งที่คนญี่ปุ่นเค้าไม่ใช้กันแล้ว เรียกง่ายๆ ก็คือ เป็นของที่เค้าเอาทิ้งกันแล้วนั่นเอง แต่ด้วยเทคนิคการทำความสะอาดขั้นเทพของคนญี่ปุ่นที่ไม่ว่าของจะเก่า เลอะเทอะ เปรอะเปื้อนแค่ไหน ไม่ว่าจะมีคราบเลือด คราบอาเจียน มีเชื้อรา มีกลิ่นเหม็นจากปัสสาวะเด็ก หรือมีคราบสิ่งสกปรกอื่นๆ หรือสีซีดจางขนาดไหนก็สามารถนำมาทำความสะอาดให้ดูเหมือนใหม่ได้ ทำให้คาร์ซีทที่ถูกใช้มานานหลายปียังดูสะอาดและสวยสภาพดีไม่ต่างจากของใหม่นั่นเองค่ะ และถ้าเป็นแบบนี้ะถ้าเป็นแบบนี้ คาร์ซีทมือสอง ปลอดภัยจริงหรือ ? ควรซื้อมาใช้หรือไม่ เรามาดูกันต่อเลยค่ะ ในขั้นตอนการทำความสะอาดคาร์ซีทที่สกปรกมากๆ […]
ว่าด้วยเรื่องความปลอดภัยของคาร์ซีท#คาร์ซีทมือสอง ตามที่พ่อหมอเคยเขียนเรื่องการเลือกซื้อคาร์ซีทไว้แล้วตั้งแต่ตอนเปิดเพจครับ คลิกอ่านได้ครับที่https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1318721458224835&substory_index=0&id=1312969582133356 ก็เริ่มมีลูกเพจเริ่มถามเรื่อง “การซื้อคาร์ซีท” ในหัวข้อนอกเหนือจากคำถามเบื้องต้นครับ โดยเฉพาะเรื่อง “การซื้อคาร์ซีทมือสอง” หรือ “คาร์ซีทเก่า” ตามคำแนะนำของราชวิทยาลัยกุมาร ฯ ของสหรัฐอเมริกา … บอกไว้ว่า เรื่องความปลอดภัย … หมอย้ำเสมอตั้งแต่เปิดเพจครับ เป็นเรื่องที่ผ่อนปรนไม่ได้#หมอวินเพจเลี้ยงลูกตามใจหมอ References: การใช้คาร์ซีทมือสอง
คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ ที่กำลังจัดเตรียมอุปกรณ์ของใช้ต่างๆ สำหรับลูกน้อย อาจได้รับคำแนะนำจากเพื่อนๆ หรือแพทย์ สำหรับการจัดเตรียมอุปกรณ์ ฆ่าเชื้อโรคของใช้ต่างๆ ให้พร้อมก่อนคลอด จากในอดีตหลายๆ บ้าน อาจคุ้นเคยกับการลวกด้วยน้ำร้อน 100 องศาขึ้นไป ในการฆ่าเชื้อขวดนม ภาชนะ ไปจนถึงเสื้อผ้า ปลอกหมอนผ้าปูที่นอน ของเด็กได้ แต่ด้วยสถานการณ์การระบาดของโควิดในปัจจุบัน ทำให้คุณพ่อคุณแม่หลายบ้านอดห่วงไม่ได้ว่าเชื้อไวรัสนั้นจะหลุดรอดเข้ามาถึงตัวลูกน้อยของเราได้จากของใช้อื่นๆ ที่ไม่สามารถฆ่าเชื้อด้วยการ ลวก หรือการนึ่งได้ และมีบทความทางการแพทย์มากมาย ระบุว่า การนำพลาสติกไปลวกด้วยความร้อนสูง จะก่อให้เกิดการตกค้าง ปนเปื้อนของ ไมโครพลาสติก ที่สามารถเข้าสู่ร่างกายของลูกน้อยก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ จึงมีการผลิตคิดค้น และนำเข้า เครื่องอบยูวี สำหรับใช้ในบ้าน ซึ่งเป็นการใช้พลังงานจากรังสี UV-C ในการฆ่าเชื้อโรคร้ายที่อาจติดอยู่ตามข้าวของเครื่องใช้ของลูกน้อย และฆ่าเชื้อของใช้คุณพ่อคุณแม่ได้อีกด้วย ประโยชน์ของรังสี UV-C ส่วนประกอบสำคัญของ เครื่องอบ UV-C คือหลอด UV-C ซึ่งมีคุณสมบัติในการปล่อยรังสี UV-C มาใช้ในการฆ่าเชื้อโรคได้จริง แม้แต่เชื้อไวรัสโควิดก็ไม่รอด ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก และมีผลวิจัยต่างๆ จากหลากหลายสถาบันยืนยันแล้วว่า รังสี UV-C สามารถฆ่าเชื้อไวรัสโควิดได้ 99.99% […]

ร้านสินค้าแม่และเด็กที่คัดสรรนวัตกรรมของใช้แม่และเด็กที่มี
คุณภาพให้คำปรึกษาและบริการ อย่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อช่วยให้การเลี้ยงลูกเป็นเรื่องง่าย ปลอดภัย และมีความสุข
Online Shopping
สาขา ปิ่นเกล้า ราชพฤกษ์
สาขา Mega บางนา
สาขา Central World
สาขา The Crystal รามอินทรา
สาขา BTS วงเวียนใหญ่ (Outlet)
Copyright 2024 © Baby Gift (Retail) Co., Ltd.