ปลอดภัยขึ้น! คาร์ซีทในประเทศไทย ใช้มาตรฐานใหม่ECE R129 (i-Size)

ปัจจุบัน คาร์ซีท (Car Seat) หรือ เบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็ก ทั้ง คาร์ซีทแรกเกิด คาร์ซีทเด็กโต บูสเตอร์ซีท มีเกณฑ์การทดสอบความปลอดภัยต่างกันและผ่านมาตรฐานมาจากหลายประเทศ แต่ทราบหรือไม่ว่า คาร์ซีทในประเทศไทย มีประกาศจากกระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) มาแล้ว ว่าคาร์ซีทจะต้องผลิตหรือนำเข้าเฉพาะคาร์ซีทที่ผ่านการทดสอบความปลอดภัยของยุโรปเท่านั้น 

ทั้งนี้ ยังมีประกาศเพิ่มข้อบังคับให้คาร์ซีทต้องผ่านการทดสอบการชนจากด้านข้างด้วย ซึ่งตรงกับข้อบังคับของ มาตรฐานคาร์ซีท R129 (i-Size) เป็นมาตรฐานฉบับใหม่ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่ามีความปลอดภัยสูงสุด 

ก่อนคุณพ่อคุณแม่จะตัดสินใจเลือกซื้อคาร์ซีทให้ลูกรัก แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดของ มาตรฐาน ECE R129 (i-Size) มาก่อน ว่าเพิ่มความปลอดภัยจุดไหนบ้าง เราจะพาไปทำความเข้าใจกันเลย 

คาร์ซีทในประเทศไทย ใช้มาตรฐานใหม่ ECE R129 (i-Size) 

จากเดิม ประกาศมาตรฐานความปลอดภัย (Safety Standards) ของคาร์ซีท จากกระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) จะเริ่มบังคับใช้ภายในปี 2566 ให้ผู้ประกอบการที่ทำหรือนำเข้าคาร์ซีท ต้องทำหรือนำเข้าเฉพาะคาร์ซีทที่ผ่านการทดสอบความปลอดภัยตามเกณฑ์มาตรฐาน มอก.3418-2565 โดยอ้างอิงมาจากมาตรฐานสากล ECE R44/04 (มาตรฐานยุโรป) ซึ่งเป็นมาตรฐานระหว่างประเทศด้านความปลอดภัยที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก 

ล่าสุด กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) สั่ง สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) คุมเพิ่ม เรื่องมาตรฐานความปลอดภัยที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก (Car Seat) และระบบติดตั้งแบบ Isofix ให้ได้ภายในปลายปี 2567 โดยคาร์ซีทต้องผ่านการทดสอบการชนด้านข้างด้วย (จากมาตรฐานเดิม ECE R44/04 ไม่มีข้อกำหนดว่าต้องทดสอบการชนด้านข้าง) เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานด้านความปลอดภัยล่าสุดของยุโรป ECE R129 (i-Size) โดยมีจุดประสงค์เพื่อความปลอดภัยที่สูงขึ้น 

มาตรฐานคาร์ซีท R129 (i-Size)คืออะไร 

มาตรฐาน ECE R129 หรือ i-Size คือ มาตรฐานหรือกฎระเบียบด้านความปลอดภัยฉบับใหม่ของยุโรป ที่ใช้ควบคุมการผลิตคาร์ซีทสำหรับเด็ก ให้มีความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น พร้อมเบาะต้องนั่งสบายมากขึ้นเนื่องจากมีข้อบังคับให้เด็กอายุ 15 เดือน ต้องนั่งหันหน้าเข้าเบาะรถยนต์ ซึ่งมาตรฐานฉบับใหม่นี้ได้ประกาศใช้ตั้งแต่ปี 2556 และยังเป็นมาตรฐานที่มีการทดสอบความปลอดภัยคาร์ซีทอย่างเข้มงวด พร้อมได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่ามีความปลอดภัยสูงสุดอีกด้วย 

ป้ายกำกับ มาตรฐาน ECE R129 (i-Size)

มาตรฐานความปลอดภัยคาร์ซีทแบบใหม่ ECE R129 (i-Size) มีระเบียบข้อบังคับกำหนดไว้ ดังนี้ 

  1. การทดสอบการชน

– การชนด้านหน้า ด้วยความเร็ว 50 กม./ชม. 

– การชนด้านหลัง ด้วยความเร็ว 30 กม./ชม. 

– การชนด้านข้าง ด้วยความเร็ว 24 กม./ชม. 

(มาตรฐานเดิม ECE R44/04 ไม่มีข้อกำหนดว่าต้องทดสอบการชนด้านข้าง)

  1. การติดเซ็นเซอร์บนหุ่นจำลอง เพื่อทดสอบการกระแทก

การใช้เซ็นเซอร์ติดหุ่นจำลองที่สรีระเหมือนเด็ก จำนวน 32 จุด เพื่ออ่านค่าความรุนแรงจากการกระแทก และจะรายงานผลออกมาเป็นความเสียหายตามจุดต่าง ๆ ของร่างกาย และต้องไม่เกินเกณฑ์ที่มาตรฐานกำหนดไว้ 

(มาตรฐานเดิม ECE R44/04 ติดเซ็นเซอร์เพียง 4 จุด)

  1. ข้อบังคับทิศทางการติดตั้ง

มีข้อบังคับให้เด็กอายุต่ำกว่า 15 เดือน ต้องหันหน้าเข้าเบาะรถยนต์ (Rear-Facing) เท่านั้น

(มาตรฐานเดิม ECE R44/04 มีข้อบังคับ 9 เดือน)

  1. ระบบการติดตั้ง

จากเดิมครอบคลุมคาร์ซีทที่ติดตั้งด้วย ระบบไอโซฟิก (ISOFIX) เท่านั้น ล่าสุดปรับเปลี่ยนให้ เข็มขัดนิรภัยรถยนต์ (Belt) สามารถผ่านการทดสอบได้ พร้อมข้อบังคับต้องมี ตะขอเกี่ยวเบาะรถยนต์ (Top Tether) หรือ ขำค้ำยัน (Support Leg) เสริมความปลอดภัยด้วย

  1. การใช้งาน

แบ่งตามอายุและส่วนสูง เช่น 

แรกเกิด – 15 เดือน ส่วนสูง 40-83 cm.

แรกเกิด – 4 ปี ส่วนสูง 70 – 105 cm.

15 เดือน – 12 ปี ส่วนสูง 70 – 150 cm.

3.5 ปี – 12 ปี ส่วนสูง 100 – 150 cm. 

(มาตรฐานเดิม ECE R44/04 แบ่งการใช้งานตามอายุและน้ำหนัก) 

มาตรฐานคาร์ซีท ECE R44/04 และ ECE R129 (i-SIZE) แตกต่างกันจุดไหนบ้าง เราสรุปในตารางเพื่อให้คุณพ่อคุณแม่เข้าใจได้ง่ายขึ้น ดังนี้ 

เลือกใช้คาร์ซีทมาตรฐาน ECE R129 (i-Size) มีข้อดีอย่างไร 

  1. ปลอดภัยมากขึ้น เนื่องจากคาร์ซีท R129 ผ่านการทดสอบการชนด้านข้างด้วย
  2. กรณีเกิดอุบัติเหตุไม่คาดคิด จะทำให้มั่นใจได้ว่าเด็กจะไม่ได้รับบาดเจ็บมากเกินไป เนื่องจากใช้เซ็นเซอร์ติดหุ่นจำลองแบบทั่วตัว 32 จุด และผ่านการทดสอบหุ่นจำลองไม่ได้รับความเสียหายเป็นไปตามมาตรฐานกำหนดไว้
  3. ติดตั้งง่ายและรวดเร็วขึ้น ด้วยระบบ ISOFIX (คาร์ซีท R129 ส่วนใหญ่จะเป็นระบบ Isofix)
  4. คาร์ซีทได้รับการออกแบบให้เบาะนั่งสบายมากขึ้น เนื่องจากต้องส่งเสริมให้ทารกอายุต่ำกว่า 15 เดือน ต้องนั่งคาร์ซีทหันหน้าเข้าเบาะรถยนต์ (Rear-Facing) เท่านั้น
  5. เลือกคาร์ซีทได้ง่ายขึ้น เหมาะกับสรีระเด็กมากขึ้น ด้วยการวัดส่วนสูงแทนการใช้น้ำหนัก

แนะนำ คาร์ซีท R129 (i-Size) จาก ร้านเบบี้กิ๊ฟ

1.Ailebebe รุ่น Kurutto R The First 

  • ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ล่าสุดจากยุโรป ECE R129 (i-Size)  
  • ซัพพอร์ตข้างศีรษะหนาที่สุด 100 mm. 
  • ผ้า AG Pure ต้านแบคทีเรีย 99%
  • ช่องระบายอากาศด้านหลัง 1,695 ช่อง
  • หมุนได้ 360 องศา ด้วยมือเดียว หมุนลื่น 
  • หลังคา 98 cm. คลุมถึงปลายเท้า 
  • เทคโนโลยีความปลอดภัย Baby Catch Technology หรือ ระบบพนักพิงยุบตัวอัตโนมัติ 
  • made in Japan 

2. Ailebebe รุ่น Kurutto R Grance 

  • ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ล่าสุดจากยุโรป ECE R129 (i-Size)  
  • ซัพพอร์ตข้างศีรษะหนาที่สุด 100 mm. 
  • ช่องระบายอากาศด้านหลัง 1,695 ช่อง
  • หมุนได้ 360 องศา ด้วยมือเดียว หมุนลื่น 
  • ขาค้ำยัน มีระบบ Sensor เสียงแจ้งเตือน 
  • เทคโนโลยีความปลอดภัย Baby Catch Technology หรือ ระบบพนักพิงยุบตัวอัตโนมัติ 
  • made in Japan 

การใช้งาน : เด็กแรกเกิดความสูง 40-100 cm. หรือ อายุ 0- 4 ปี

การติดตั้ง : ระบบ ISOFIX 

3. Aprica รุ่น Fladea Grow 360 Premium

  • ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ล่าสุดจากยุโรป ECE R129 (i-Size)  
  • ปรับคาร์ซีทให้นอนราบได้ ถึง 170 องศา 
  • เด็กคลอดก่อนกำหนดใช้ได้อย่างปลอดภัย 
  • หมุนได้ 360 องศา พาลูกขึ้น-ลงรถสะดวก  
  • มี Support สำหรับเด็กแรกเกิดโดยเฉพาะ

การใช้งาน : เด็กแรกเกิดความสูง 40-100 cm. หรือ อายุ 0 – 4 ปี  

การติดตั้ง : ระบบ ISOFIX

4. Renolux รุ่น Gaia

  • ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ล่าสุดจากยุโรป ECE R129 (i-Size)  
  • ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยจาก ADAC เยอรมัน และ TCS สวิตเซอร์แลนด์  
  • เทคโนโลยี Softness Cushion ทำให้เบาะนุ่มพิเศษ นั่งสบายเหมือนโซฟา  
  • ปรับเลื่อนระดับเพิ่มพื้นที่วางขาได้ นั่งหันหน้าเขาเบาะได้จนส่วนสูง 105 cm.  
  • หมุนง่ายได้ถึง 360°
  • มี Side Protection ป้องกันการชนด้านข้าง

การใช้งาน : เด็กแรกเกิดความสูง 40-105 cm. หรือ อายุ 0 – 4 ปี  

การติดตั้ง : ระบบ ISOFIX

5. คาร์ซีทเด็กโต Kinderkraft รุ่น Comfort Up

  • ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ล่าสุดจากยุโรป ECE R129 (i-Size)  
  • น้ำหนักเบา 6 kg. ติดตั้งง่าย เคลื่อนย้ายสะดวก  
  • ผ้า MESH เรียบนุ่ม เย็นสบาย 
  • ปรับเอนนอนได้ตามเบาะรถยนต์ 100 องศา 
  • Head Support หนา 3 ชั้น 

การใช้งาน : เด็กอายุ 15 เดือน – 12 ปี หรือ ส่วนสูง 76 – 150 cm.  

การติดตั้ง : ระบบ Belt 

6.คาร์ซีทกระเช้า Kinderkraft รุ่น I-Care

  • ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ล่าสุดจากยุโรป ECE R129 (i-Size) 
  • ติดตั้งกับรถเข็นเด็ก ที่มี Adapter ได้ 
  • หนักเบา 4.2  kg ถอดและถือหิ้วได้สะดวกมาก  
  • เข็มขัดนิรภัย 5 จุด พร้อมนวมหุ้มสายเข็มขัดหนานุ่ม 
  • พนักพิงแข็งแรง หนา 3 ชั้น
  • Side Protect ป้องกันการกระแทกด้านข้าง 

การใช้งาน : เด็กแรกเกิด – 15 เดือน หรือ ส่วนสูง 40 – 87 cm. 

การติดตั้ง : ระบบ Belt (ฐาน Isofix จำหน่ายแยก) 

7. คาร์ซีทกระเช้า Kinderkraft รุ่น Mink Pro

  • ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ล่าสุดจากยุโรป ECE R129 (i-Size) 
  • ติดตั้งกับรถเข็นเด็ก ที่มี Adapter ได้ 
  • ปรับพนักพิงศีรษะและเข็มขัดนิรภัย ได้ 5 ระดับ  
  • น้ำหนักเบา 3.5 kg. ถอดและถือหิ้วได้สะดวก 
  • Head Support หนา 3 ชั้น เสริม EPS โฟม รองรับแรงกระแทกได้ดี 
  • Side Protect ป้องกันการกระแทกด้านข้าง

การใช้งาน : เด็กแรกเกิด – 15 เดือน หรือ ส่วนสูง 40-87 cm.  

การติดตั้ง : ระบบ Belt 

8. คาร์ซีทแรกเกิด Kinderkraft รุ่น I-Grow

  • ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ล่าสุดจากยุโรป ECE R129 (i-Size) 
  • ติดตั้งปลอดภัยสูง ด้วยระบบ ISOFIX และ TOP TETHER 
  • คาร์ซีทหมุนได้ 360 องศา
  • ปรับเอนนอนได้ 5 ระดับ 
  • ปรับความสูงพนักพิงศีรษะได้ 12 ระดับ 

การใช้งาน : เด็กแรกเกิด – 12 ปี หรือ ความสูง 40 – 150 cm.  

การติดตั้ง : ระบบ ISOFIX

9. คาร์ซีทแรกเกิด Kinderkraft รุ่น I-360

  • ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ล่าสุดจากยุโรป ECE R129 (i-Size) 
  • ติดตั้งง่ายด้วยระบบ ISOFIX และ Support leg 
  • คาร์ซีทหมุนได้ 360 องศา
  • Head Support หนา 3 ชั้น 
  • Side Protect ป้องกันการกระแทกได้อย่างปลอดภัย  
  • ปรับเอนนอนได้ 5 ระดับ จนถึงส่วนสูง 150 cm.

การใช้งาน : เด็กแรกเกิด – 12 ปี หรือ ความสูง 40 – 150 cm.  

การติดตั้ง : ระบบ ISOFIX 

10. คาร์ซีทเด็กโต Renolux รุ่น Olymp

  • ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ล่าสุดจากยุโรป ECE R129 (i-Size)  
  • เบาะนั่งสบายเหมือนโซฟา ด้วยเทคโนโลยี Softness Cushion  
  • ผ่านการทดสอบความปลอดภัยจาก ADAC เยอรมัน และ TCS สวิตเซอร์แลนด์  
  • Side Protection รองรับแรงกระแทกจากด้านข้าง   
  • ปรับเอนนอนได้ในตัว 108°   
  • ปรับพนักพิงได้ตามความสูงของเด็ก (ความสูงถึง 150 cm.)   
  • Made in France  

การใช้งาน : เด็กตั้งแต่ความสูง 76-150 cm. หรือ อายุ 15 เดือน – 12 ปี 

การติดตั้ง : ระบบ ISOFIX

ปัจจุบันคาร์ซีทในประเทศไทย ยังมีมาตรฐานความปลอดภัยของคาร์ซีทหลากหลายประเทศ ก่อนจะซื้อคาร์ซีทให้ลูกน้อย อย่าลืมตรวจสอบมาตรฐาน หรือ ฟังก์ชั่นความปลอดภัย เพื่อให้ได้คาร์ซีทที่มีความปลอดภัยสูงสุด ที่จะช่วยปกป้องลูกน้อยให้ปลอดภัยตลอดการเดินทาง 

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00

บทความแนะนำ

เมื่อลูกน้อยของเราเริ่มโตขึ้นและมีอายุ 6 เดือนขึ้นไป นอกจากการให้นมแม่แล้ว คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ คนอาจจะกำลังมองหาอาหารเสริมอื่น ๆ ให้กับเด็ก ๆ เพื่อรับประทานร่วมกับนมแม่ เป็นการเพิ่มคุณค่าทางโภชนการให้ลูกน้อย ให้ลูกน้อยได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากขึ้น และยังเป็นการฝึกให้เริ่ม  กินอาหารชนิดอื่นนอกจากนมแม่อีกด้วย โดยทั่วไปแล้วเรามักจะคุ้นเคยกับวิธีการเตรียมอาหารบดละเอียดให้ลูก แต่ปัจจุบันมีการกินที่เรียกว่า BLW (Baby-Led Weaning) ที่เป็นการฝึกให้ลูกน้อยของเราได้ช่วยเหลือตัวเองตั้งแต่เล็ก และยังส่งผลดีต่อการพัฒนาการของลูกอีกด้วย BLW คืออะไร มีความสำคัญอย่างไร ส่งผลดีต่อเด็กอย่างไร และคุณแม่จะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง มาดูกันเลยค่ะ BLW คืออะไร ? ชวนรู้จักวิธีการฝึกลูกน้อยกินข้าวมื้อแรกด้วยตัวเอง ผู้ปกครองหลายคนอาจเกิดความสงสัยว่า BLW คืออะไร ? Baby – Led Weaning หรือ BLW คือการฝึกให้ลูกของเรากินอาหารได้ด้วยตัวเองตั้งแต่มื้อแรก โดยที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องเตรียมอาหารปั่นหรืออาหารบดให้ลูกน้อย แต่เป็นการให้ลูกน้อยใช้มือหยิบจับอาหารนิ่ม ๆ เป็นชิ้นเล็ก ๆ และกินด้วยตัวเอง ให้ลูกได้ฝึกหยิบจับอาหาร ฝึกเคี้ยว และช่วยเหลือตัวเองตั้งแต่เด็ก จะนั่งกินเองหรือนั่งกินไปพร้อมกับคุณพ่อคุณแม่ก็ได้เช่นกัน โดยสามารถฝึกให้ลูกกินแบบนี้ได้ตั้งแต่อายุ 6 […]

เพราะความปลอดภัยคือเหตุผลอันดับ 1 ที่พ่อแม่ต้องควักเงินซื้อคาร์ซีทให้ลูกน้อย ก็เพื่อปกป้องลูกจากการบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ปัจจัยที่รองลงมาคือ ลูกนอนสบาย ใช้งานง่าย และงบประมาณ มาตรฐานความปลอดภัยของคาร์ซีท จริงๆแล้ววัดจากอะไร ก็ต้องเป็นวัสดุที่รองรับแรงกระแทกด้านใน ซึ่งคาร์ซีทแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อใช้วัสดุภายในที่ไม่เหมือนกัน แบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ ดังนี้ 1. EPS Foam และ EPP Foam EPS Foam (Polystyrene Foam)  เป็นวัสดุที่ช่วยลดแรงกระแทก ที่ใช้ใน หมวกกันน๊อค ช่วยปกป้องชีวิต ผู้สวมใส่ โฟมชนิดนึ้จึงถูกนำไว้ในคาร์ซีท ใช้รองรับแรงกระแทกสำหรับศีรษะและส่วนบนของร่างกายเด็ก ในกรณีที่เกิดการกระแทกโฟมจะแตกและจะกระจายแรงกระแทกออกไปโดยแทบไม่มีแรงสะท้อนกลับ จึงทำให้ได้เด็กปลอดภัย ดังนั้นผู้ผลิตคาร์ซีทระดับมาตรฐานสากลส่วนใหญ่ จึงนำโฟมชนิดนี้มาใช้ในคาร์ซีทเพื่อรองรับแรงกระแทกโดยเฉพาะ ส่วน EPP Foam (Polypropylene Foam) เป็นวัสดุที่คล้ายกับ EPS Foam แต่มีความยืดหยุ่น ไม่แตกหักง่าย และทนความร้อนดีกว่า  จึงนำไปผลิตเป็นภาชนะบรรจุอาหาร ที่สามารถเข้าไมโครเวฟได้ ข้อมูลอ้างอิงจาก http://www.carseatsite.com/FAQ.htm 2. Urethane […]

หลากหลายฟังก์ชั่น ช่วงอายุการใช้งานยาวนาน รองรับเด็กมีความสูง 76 ถึง 150 ซมผ่านมาตรฐานความปลอดภัย I-size R 129 และการรับรองจากสภาบันชั้นนำ เบาะกว้าง นั่งสบาย นุ่มกว่าที่เคยสัมผัสรองรับเด็กน้ำหนัก 15 ถึง 36 กิโลกรัมผ่านมาตรฐาน  ECE R44-04และการทดสอบจากสถาบันชั้นนำในยุโรป พกพาสะดวก ติดตั้งง่ายรองรับเด็กน้ำหนัก 15 ถึง 36 กิโลกรัมผ่านมาตรฐานความปลอดภัย ECE R44-04 

เปลนอนทารก ถือเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญมาก ๆ สำหรับทารก ที่ต้องเตรียมซื้อตั้งแต่ก่อนคลอด เพราะทารกวัย 0-9 เดือน จะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการนอนและอยู่บนที่นอน ดังนั้น ก่อนที่คุณพ่อคุณแม่จะเลือกเปลนอนทารกให้ลูกน้อย ควรเลือกดูจากหลาย ๆ ด้าน เช่น ความปลอดภัย การระบายอากาศ ฟังก์ชั่นการใช้งาน รวมถึงอายุการใช้งาน เพราะการเลือก เปลนอนทารก ที่ไม่เหมาะสมกับทารกอาจส่งผลถึงเสียถึงชีวิตของลูกน้อยได้ วิธีเลือกเปลนอนทารกให้ลูกน้อย  เปลนอนทารกมีกี่แบบ มีข้อดี ข้อเสีย อะไรบ้าง ?  1. เปลนอนทารก BEDSIDE CRIB แบบชิดเตียงแม่ เป็นเตียงสำหรับทารกแรกเกิด ที่มีฟังก์ชั่นเปิดด้านข้างเตียงเพื่อต่อชิดกับเตียงของคุณพ่อคุณแม่ได้ ทำให้สะดวกในการดูแลลูกน้อยมากขึ้น  ข้อดีเตียง Bedside Crib  ข้อเสียเตียง Bedside Crib  2. เตียงไม้ เป็นเตียงที่ถูกออกแบบมาเพื่อความแข็งแรง เน้นการใช้งานแบบคุ้มค่า ใช้ได้ในระยะยาวหลายปี สามารถรองรับน้ำหนักได้มาก  ข้อดีเตียงไม้  ข้อเสียเตียงไม้  3. เปลนอนทารกแบบ PLAYPEN เตียงนอนทารกปรับฟังก์ชั่นเป็นคอกกั้นให้ลูกน้อยได้ ฝึกพัฒนาการคลาน ยืน เป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับคุณแม่ ข้อดี Playpen  ข้อเสีย Playpen  4. เปลไกวไฟฟ้า เป็นเตียงที่ได้ความนิยมมาก เพราะปรับการใช้งานได้หลายแบบ พร้อมไกวอัตโนมัติกล่อมลูกหลับได้ง่ายและสนิทมากขึ้น ถือว่าเป็นตัวช่วยในการเลี้ยงลูกน้อยได้ดี ข้อดีเปลไกวไฟฟ้า  ข้อเสียเปลไกวไฟฟ้า  เมื่อคุณพ่อคุณแม่ทราบถึงข้อดีและข้อแตกต่างของเปลทารกแต่ละประเภทแล้ว เบบี้ กิ๊ฟ มีเปลนอนทารกรุ่นขายดีที่สุด มาแนะนำคุณพ่อคุณแม่กันค่ะ  […]

Ailebebe รุ่น Kurutto R The First 1 และ Kurutto R The First 2 เป็นคาร์ซีทเด็กแรกเกิดที่ผลิตจากประเทศญี่ปุ่น ที่มีนวัตกรรมความปลอดภัยล้ำสมัย ช่วยให้การเดินทางของลูกน้อยทั้งปลอดภัยและสะดวกสบาย และทั้ง 2 รุ่น มีคุณสมบัติที่เด่นและแตกต่างกัน ซึ่งสามารถตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย เราจะพาคุณพ่อคุณแม่มาทำความรู้จักกับความแตกต่างเพื่อให้คุณพ่อคุณแม่เลือกคาร์ซีทที่เหมาะสมกับความต้องการของครอบครัวได้ค่ะ  เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจเลือกซื้อคาร์ซีท Ailebebe รุ่น Kurutto R ได้อย่างเหมาะสมกับลูกน้อยมากที่สุด มาเริ่มต้นด้วยการทำความเข้าใจกันก่อนว่าทำไมรุ่นนี้ถึงเป็นที่นิยมและมีจุดเด่นอะไรบ้างนะคะ    ทำไมต้องเลือก Ailebebe รุ่น Kurutto R ?  1. มาตรฐานความปลอดภัยระดับสูงสุด : ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจากสหภาพยุโรป R129 (i-Size)  2. การทดสอบที่แม่นยำ : ใช้เซ็นเซอร์วัดแรงกระแทกสูงสุดถึง 32 จุดบนหุ่นจำลอง และหุ่นไม่ได้รับการบาดเจ็บ  3. ทดสอบการชนที่เข้มงวด : ทดสอบการชนที่ความเร็ว 70-100 กม./ชม. เพื่อความปลอดภัยสูงสุด  […]

คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังเตรียมตัวพบกับเจ้าตัวน้อยในอีก 9 เดือนข้างหน้านี้ เชื่อว่าหลายๆท่าน น่าจะกำลังเตรียมให้พร้อมก่อนที่คุณแม่จะคลอด เมื่อเจ้าตัวน้อยเกิดมา จะได้มีทุกอย่างไว้อย่างครบครัน ดังนั้น BabyGift จึงได้นำ Baby Checklist ฉบับสมบูรณ์ มาฝากกัน ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้นตามมาดูกันเลยค่า หมวดของใช้คุณแม่ คุณแม่ตั้งครรภ์ คุณแม่หลังคลอด คุณแม่ให้นม หมวดสุขอนามัย หมวดอาบน้ำ หมวดเดินทาง หมวดทานอาหาร หมวดนอนหลับ หมวดอเนกประสงค์ หมวดเวชภัณฑ์ ยา อาหารเสริม หมวดทำความสะอาด หมวดเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย เคล็ดลับในการเลือกของใช้ การเตรียมของใช้จำเป็นสำหรับแม่มือใหม่เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้การดูแลลูกน้อยเป็นเรื่องง่ายและราบรื่น อย่าลืมเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับความต้องการของครอบครัวและคำนึงถึงคุณภาพเป็นหลัก เพื่อความสุขและความปลอดภัยของทั้งแม่และลูก

Menu
All Categories
All Brands
All Ages
Promotions
Locations
BabyGift Family
BabyGift Care
Parents Guide
News & Event

All Categories

All Categories
All Brands
All Ages