Q&A ตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับ เครื่องอบยูวี รวมคำถามยอดฮิตที่พ่อแม่ควรรู้

คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ ที่กำลังจัดเตรียมอุปกรณ์ของใช้ต่างๆ สำหรับลูกน้อย อาจได้รับคำแนะนำจากเพื่อนๆ หรือแพทย์ สำหรับการจัดเตรียมอุปกรณ์ ฆ่าเชื้อโรคของใช้ต่างๆ ให้พร้อมก่อนคลอด จากในอดีตหลายๆ บ้าน อาจคุ้นเคยกับการลวกด้วยน้ำร้อน 100 องศาขึ้นไป ในการฆ่าเชื้อขวดนม ภาชนะ ไปจนถึงเสื้อผ้า ปลอกหมอนผ้าปูที่นอน ของเด็กได้ แต่ด้วยสถานการณ์การระบาดของโควิดในปัจจุบัน ทำให้คุณพ่อคุณแม่หลายบ้านอดห่วงไม่ได้ว่าเชื้อไวรัสนั้นจะหลุดรอดเข้ามาถึงตัวลูกน้อยของเราได้จากของใช้อื่นๆ ที่ไม่สามารถฆ่าเชื้อด้วยการ ลวก หรือการนึ่งได้ และมีบทความทางการแพทย์มากมาย ระบุว่า การนำพลาสติกไปลวกด้วยความร้อนสูง จะก่อให้เกิดการตกค้าง ปนเปื้อนของ ไมโครพลาสติก ที่สามารถเข้าสู่ร่างกายของลูกน้อยก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ จึงมีการผลิตคิดค้น และนำเข้า เครื่องอบยูวี สำหรับใช้ในบ้าน ซึ่งเป็นการใช้พลังงานจากรังสี UV-C ในการฆ่าเชื้อโรคร้ายที่อาจติดอยู่ตามข้าวของเครื่องใช้ของลูกน้อย และฆ่าเชื้อของใช้คุณพ่อคุณแม่ได้อีกด้วย

ประโยชน์ของรังสี UV-C
ส่วนประกอบสำคัญของ เครื่องอบ UV-C คือหลอด UV-C ซึ่งมีคุณสมบัติในการปล่อยรังสี UV-C มาใช้ในการฆ่าเชื้อโรคได้จริง แม้แต่เชื้อไวรัสโควิดก็ไม่รอด ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก และมีผลวิจัยต่างๆ จากหลากหลายสถาบันยืนยันแล้วว่า รังสี UV-C สามารถฆ่าเชื้อไวรัสโควิดได้ 99.99% ทั้งในของเหลว บนพื้นผิวต่างๆ และในอากาศ และนอกจากไวรัสแล้ว ยังช่วยกำจัดเชื้อโรคปนเปื้อนอื่นๆ ได้อีกด้วย เช่น เชื้ออีโคไล (E. Coli) ที่ทำให้ท้องเสีย สแตฟีโลคอกคัส (Staphylococcus aureus) ก่อให้เกิดอาหารเป็นพิษ ซาลโมเนลลา (Salmonella Typhimurium) ทำให้ติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร ไวรัส H1N1 เป็นต้น โดยรังสี UV-C จะเข้าไปทำลาย DNA และ RNA ของไวรัส
ในอุตสาหกรรมอาหาร ได้มีการนำเทคโนโลยีนี้มาใช้นานแล้ว และมีการพัฒนามาใช้ในการฆ่าเชื้อโรคให้กับสิ่งในครัวเรือน โดยทำให้มีขนาดเล็กลง และฟังก์ชั่นการใช้งานที่ง่ายขึ้น และประกอบกับสถานการณ์ไวรัสโควิดระบาด ทำให้ เครื่องอบ UV ฆ่าเชื้อสำหรับใช้ในบ้านเกิดดวามต้องการมากยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีการวางจำหน่ายมากมายหลากหลายยี่ห้อ ดังนั้น ก่อนที่คุณพ่อคุณแม่จะตัดสินใจซื้อ เบบี้กิ๊ฟขอมอบคำแนะนำ 7 ข้อสงสัยในการเลือกซื้อ เครื่องอบยูวี สำหรับฆ่าเชื้อของใช้ลูกน้อย เพื่อช่วยให้ตัดสินใจ และลดความกังวลจากการใช้งานได้ ดังนี้ค่ะ
1. หลอด UV ควรเลือกแบบไหนดี ใช้กี่หลอด หลอดUV ควรอยู่ตรงไหน?

สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ ให้คำแนะนำในการเลือกใช้หลอด UVC ว่า
- หากเป็นหลอด UV-C ประเภท LED ควรเลือกชนิดที่เปล่งรังสีในช่วง 240-313 นาโนเมตร หรือ 260-275 นาโนเมตร จะเป็นค่าที่ดี และมีประสิทธิภาพมากพอในการฆ่าเชื้อ โดยข้อดีของ หลอดไฟ UV-C LED คือ ใช้งานได้ยาวนาน ไม่มีการปล่อยก๊าซโอโซนออกมา ไม่ก่อให้เกิดกลิ่นตกค้างหลังจากฆ่าเชื้อโรคเสร็จ
- หากเป็นหลอด UV-C Lamp หรือ หลอดไอปรอท/อะมัลกัม แรงดันต่ำ (Ozone Free germicidal lamp) ควรเลือกที่ปราศจากก๊าซโอโซน (Ozone Free) และเปล่งรังสีในช่วง 254 นาโนเมตร ข้อดีคือ บำรุงดูแลรักษาได้ง่าย สามารถซื้อหลอดเปลี่ยนเองได้เหมือนหลอดไฟบ้าน
ที่สำคัญ ควรเลือกยี่ห้อที่ผ่านการทดสอบมาตรฐานสินค้า เช่น CE, RoHS, มอก., มาตรฐาน ISO 15858:2016, มาตรฐาน ISO 14644 -1: 1999 เป็นต้น
นอกจากหลอด UV-C ที่มากับ เครื่องอบยูวี จะต้องได้มาตรฐาน ควรมีผลวิจัยรับรองประสิทธิภาพการฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรียยืนยัน ประกอบกับการจดทะเบียนรับรองต่างๆ จากสถาบันระดับสากลที่น่าเชื่อถือ เอกสารการจดทะเบียนและนำเข้าอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และต้องผ่านมาตรฐานความปลอดภัยในการใช้งานด้วย
สำหรับจำนวนของหลอด UV-C Lamp นั้น ขึ้นอยู่กับขนาดของความจุภายในตู้ และค่าความยาวคลื่นแสงของรังสี UV-C ระยะเวลาในการฉายแสง วัดออกมาเป็นหน่วยไมโครวัตต์ต่อวินาที ต่อตารางเซนติเมตร (Ws/cm2) สำหรับบางเครื่องที่มีหลอดเดียวแต่ตู้มีขนาดเล็กอาจเพียงพอในการฆ่าเชื้อภายในตู้ แต่อาจใส่ของได้ไม่มากนัก หากเป็นตู้ที่มีขนาดใหญ่ และมีหลอดถึง 2 หลอด มีวัสดุที่กระจายแสงสะท้อนแสงได้ดี ก็จะช่วยให้ฆ่าเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่า ตามสูตรคำนวณที่อ้างอิง : https://bit.ly/2wFvbuN
สำหรับจุดวางหลอด UV-C นั้น ควรอยู่ด้านบน และด้านข้าง ไม่ควรอยู่บริเวณด้านล่าง หากใช้ในการอบแห้งสิ่งของที่ต้องมีการล้างน้ำ เพราะคราบน้ำอาจหยดใส่หลอดไฟ จนก่อให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้
2. เครื่องอบยูวี ที่เป็นประตูกระจก อันตรายไหม?


หลายคนอาจกังวลว่า หากเลือกซื้อ เครื่องอบยูวี ที่มีฝาประตูตู้บานหน้าเป็นกระจก เวลาใช้งานโหมดฆ่าเชื้อด้วยUV รังสี UV-C จะทะลุผ่านตู้อบออกมาเป็นอันตรายต่อดวงตาและผิวหนังได้ไหม สำหรับเรื่องนี้มีทั้งบทความ และการทดสอบยืนยันแล้วว่า ว่าคุณสมบัติของ UV-C ไม่สามารถทะลุผ่านกระจกได้ หากเป็นกระจกแท้ ไม่ใช่พลาสติกหนา เพื่อความสบายใจสามารถเลือก ชนิดที่เป็นกระจกเคลือบสีปรอท เพื่อเพิ่มความมั่นใจอีกชั้นในการป้องกันการทะลุ และเพิ่มการสะท้อนแสงภายในตู้ได้ดียิ่งขึ้น
ดูคลิปวิดิโอทดลอง การทะลุผ่านของรังสี UV-C Click
แหล่งที่มาข้อมูล UV-C ไม่สามารถทะลุผ่านกระจก Click
3. ทำไมความร้อนในการอบแห้ง ไม่ควรเกิน 50 องศา?

ข้อนี้ เกิดจากความสับสนระหว่างการฆ่าเชื้อด้วย น้ำร้อน หรือการนึ่ง ที่ต้องต้มน้ำให้เดือดถึง 100 องศา ในการฆ่าเชื้อโรค จึงคิดว่า การฆ่าเชื้อโรคด้วยเครื่องอบยูวี ก็ควรจะ 100 องศา เหมือนกันสิ? ซึ่งความจริงแล้ว การฆ่าเชื้อด้วยรังสี UV-C นั้น เป็นการใช้พลังงานแสงในการทำลาย DNA และ RNA ของเชื้อโรค ไม่ได้ใช้ความร้อนในการฆ่าเชื้อเหมือนกับ การลวกหรือนึ่ง แต่การอบแห้งขวดนม ด้วยโหมด DRY ต่างหาก ที่ใช้ความร้อนและลม ในการเป่าให้ขวดนมแห้ง การเลือกใช้ความร้อนที่ไม่เกิน 50 องศา ซึ่งไม่ร้อนมากเกินไป จะช่วยให้ขวดนมใช้งานได้ยาวนานตามอายุการใช้งานที่กำหนด ไม่กรอบแห้ง แตกร้าว เสียหายไว และไม่ก่อให้เกิดการระเหยของไมโครพลาสม่า จากพลาสติก ที่มักเกิดจากการต้มในน้ำร้อนด้วย
อ่านข่าวเรื่อง ไมโครพลาสติก เพิ่มเติมที่ Click
4. ขวดนม และของใช้อะไรบ้าง ไม่ควรนำเข้า เครื่องอบยูวี

สิ่งที่สามารถนำเข้าไปฆ่าเชื้อใน เครื่องอบยูวี ได้ ได้แก่ ขวดนมพลาสติกที่ได้มาตรฐาน ไม่มีสาร BBA หรือที่มีสัญลักษณ์ BPA FREE ได้แก่วัสดุ PP, PES, PPSU แก้ว และซิลิโคน สามารถนำเข้าฆ่าเชื้อด้วยเครื่องอบยูวี ได้ รวมไปถึงกรวยปั๊มนม ภาชนะทานอาหาร หรืออุปกรณ์อิเล็กโทรนิกส์ กุญแจบ้าน ธนบัตร กระเป๋าสตางค์ ที่สัมผัสเป็นประจำ ของคุณพ่อคุณแม่
แต่สิ่งที่ห้ามนำเข้าฆ่าเชื้อเด็ดขาด ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากลาเท็กซ์ พลาสติก PET และยางพาราธรรมชาติ ฟองน้ำ เพราะอาจทำให้ละลาย กรอบ หรือแข็งขึ้น เป็นอันตรายต่อการนำไปใช้งานต่อนั่นเองค่ะ
5. วางเรียงของใช้ใน เครื่องอบยูวี แบบไหนถูกต้อง
หลักการฆ่าเชื้อด้วยรังสี UV-C นั้น เกิดจากแสงที่ตกกระทบลงบนผิววัตถุนั้น การที่บริเวณโดยรอบตู้และฝาตู้ เป็นวัสดุสะท้อนแสง เช่น Stainless Steel หรือ กระจกเคลือบสีปรอท จะช่วยให้การกระจายแสง สะท้อนไปมาได้โดยรอบมากก็จริง แต่หากการวางของทับกัน หรือวางผิด อาจทำให้การฆ่าเชื้อโรคส่งไปไม่ถึงของชิ้นอื่นๆ ในเครื่องอบได้ เพราะรังสี UV-C ไม่สามารถทะลุจากขวดชั้นบน ลงไปยังขวดชั้นล่างได้นั่นเอง

ฉะนั้นการวางขวดนมที่ถูกต้อง ควรถอดแยกชิ้นส่วน ระหว่างจุกนม และขวดนม วางขวดนมหงายขึ้นด้านบนเพื่อให้แสงส่องเข้าไปภายในขวดนมได้ จุกนมให้วางด้านดูดขึ้นด้านบน เพื่อฆ่าเชื้อบริเวณที่ต้องนำเข้าปาก หากเป็นตุ๊กตาชิ้นใหญ่ อาจต้องสลับกลับด้าน เพื่อให้ได้รับรังสี UV-C ได้ครบรอบด้าน หากเข้าใจหลักการดังนี้ก็สามารถนำไปปรับใช้กับการฆ่าเชื้อสิ่งของอื่นๆ ได้ค่ะ
6. วิธีการดูแลรักษา ทำเองได้ไหม? ดูแลยากรึเปล่า
ข้อดีของเครื่องอบยูวี นอกจากจะใช้งานง่ายไม่ยุ่งยากแล้ว ยังดูแลทำความสะอาดเองได้ง่ายมากๆ เพราะไม่ใช้น้ำในการอบจึงไม่มีคราบตะกรัน หรือเชื้อราเกิดขึ้น สามารถทำความสะอาดเพียงแค่ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเปล่าหมาดๆ เช็ดบริเวณที่น้ำหยดบ่อยๆ เท่านั้น เพื่อลดการเกิดคราบน้ำ โดยไม่ตอ้งใช้น้ำยาใดๆ มาเช็ด เพราะจะทำให้ความเงาวาวลดลง ทำให้การสะท้อนแสงเสื่อมประสิทธิภาพได้
VDO สาธิต วิธีการดูแลทำความสะอาด เครื่องอบยูวี รุ่น Baby UV Gen 3 แบรนด์ Prince&Princess
สำหรับหลอด UV-C สามารถติดต่อศูนย์บริการหลังการขายเพื่อสั่งซื้อ และเปลี่ยนได้เอง โดยสังเกตจากสัญลักษณ์ หรือไฟแจ้งเตือนเมื่อหลอดไฟขาด ก็สามารถถอดเปลี่ยนได้เองเหมือนการเปลี่ยนหลอดไฟทั่วไป และอีกสิ่งหนึ่งที่หลายคนไม่ทราบคือ การดูแลบริเวณพัดลมระบายอากาศ หมั่นล้างหรือเปลี่ยน Filter กรองอากาศไม่ให้ฝุ่นเกาะหนา ทุก 30 วัน เพื่อให้พัดลมทำงานได้ดี ลดการเกิดปัญหาเครื่องทำงานหนักได้ค่ะ
7. นำของกิน เข้าเครื่องอบยูวีได้ไหม?
หลายๆ บ้าน มีความกังวลว่า เชื้อไวรัส หรือแบคทีเรีย อาจปนเปื้อนอยู่ในอาหารที่ปรุงกึ่งสุกกึ่งดิบ เช่น ส้มตำ ปลาแซลมอน จึงอยากนำเข้าเครื่องอบยูวี เพื่อฆ่าเชื้อ ไม่มีข้อห้ามในการอบฆ่าเชื้ออาหาร หากเครื่องอบ UV มีขนาดใหญ่เพียงพอ ที่สามารถจะเทใส่จาน แล้ววางเพื่อรับรังสี UV-C ได้พอดี แต่สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือ กลิ่นอาหารที่ยังติดค้างอยู่ภายในเครื่อง หากนำไปใช้ฆ่าเชื้อขวดนมของลูกต่อ อาจทำให้กลิ่นไปติดที่ขวดนม ทำให้ลูกอาจไม่ยอมทานนมด้วยขวดนั้นไปเลยได้ และห้ามนำเข้าทั้งถุงพลาสติก ถุงร้อน โดยเด็ดขาด เพราะอาจละลาย หรือก่อให้เกิดการระเหยของสารพิษในพลาสติก เป็นอันตรายมากกว่าเดิมได้ค่ะ
แหล่งข้อมูลอ้างอิงเพิ่มเติม :
สำนักวิชาสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ https://arch.wu.ac.th/?p=6971
สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ (มว.) http://www.nimt.or.th/main/?p=31767
GET GET GOT https://www.getgetgot.com/blog/uv-sterilisers-best-for-baby-bottles
ประชาชาติธุรกิจ https://www.prachachat.net/rama-health/news-469601
MGR Online https://mgronline.com/qol/detail/9630000043446
ข่าวสารจุฬาฯ https://www.chula.ac.th/news/44406/

สำหรับคุณพ่อคุณแม่คนไหนที่กำลังชั่งใจอยู่ว่าควรซื้อเครื่องอบยูวีหรือไม่ สามารถเข้ามาเลือกชมสินค้าได้ที่ร้าน BabyGift ร้านจำหน่ายสินค้าแม่และเด็กระดับคุณภาพ มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี สามารถมาเยี่ยมชมสินค้าต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องอบยูวีหรือสินค้าอื่นๆ ก็ตาม ทั้งยังสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ร้านเบบี้กิ๊ฟทั้ง 6 สาขา ใกล้บ้าน หรือสอบถามผ่านช่องทาง Online ทีมงาน BabyGift ยินดีให้คำแนะนำค่ะ
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
น้ำนมของแม่นั้นเป็นอาหารที่เปี่ยมคุณค่ามากที่สุดสำหรับลูกน้อย โดยเฉพาะในเด็กทารกที่อายุน้อยกว่า 6 เดือน ซึ่งจะต้องกินนมจากแม่เป็นหลัก สำหรับคุณแม่ที่อยู่บ้านเลี้ยงลูกเต็มเวลาก็อาจจะไม่ได้มีปัญหากับการสต็อกน้ำนมเอาไว้ เพราะเน้นการเอาลูกเข้าเต้าเป็นส่วนใหญ่ แต่สำหรับคุณแม่ที่ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน การทำสต็อกน้ำนมเอาไว้นั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะจะได้มีน้ำนมเอาไว้ให้ลูกน้อยอย่างเพียงพอ ในบทความนี้ BabyGift มีคำแนะนำดี ๆ เกี่ยวกับการเก็บรักษา นมแม่ มาฝากกันค่ะ จะเก็บน้ำนมอย่างไรให้ไม่เหม็นหืน ไม่บูด และคงคุณค่าทางอาหารเอาไว้ได้มากที่สุด มาดูกันเลยค่ะ ทำไมนมของแม่มีกลิ่นเหม็นหืน ? มีวิธีการเก็บรักษา นมแม่อย่างไรไม่ให้มีกลิ่นและคงคุณค่าได้นาน คุณแม่บางคนอาจพบว่านมที่ตนเองทำการสต็อกไว้นั้นมีกลิ่นเหม็นหืน ซึ่งมักจะเกิดกับนมที่เก็บไว้ในช่องแช่แข็งในตู้เย็นที่มีระบบละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ เนื่องจากในช่วงที่ระบบละลายน้ำแข็งทำงาน นมที่แช่แข็งเอาไว้ก็จะละลายไปด้วย และเมื่อช่องแช่แข็งกลับมาเย็นจัดใหม่ ก็ทำให้น้ำนมแข็งตัวอีกครั้ง กระบวนการนี้หากเกิดขึ้นซ้ำหลาย ๆ ครั้งก็จะทำให้ไขมันในน้ำนมมีการเปลี่ยนแปลงและทำให้นมมีกลิ่นเหม็นหืนได้นั่นเองค่ะ ดังนั้นแล้วการเก็บรักษานมแม่ ในตู้เย็นที่มีระบบละลายน้ำแข็งอัตโนมัติแบบนี้ ก็เสี่ยงจะทำให้น้ำนมที่เก็บเอาไว้มีกลิ่นเหม็นหืนได้ สาเหตุที่นมแช่แข็งละลายมาเป็นน้ำนมแล้วมีกลิ่นเหม็นหืน ก็เพราะว่าในน้ำนมของแม่มีเอ็นไซม์ไลเปส ที่จะช่วยย่อยไขมันในน้ำนมของแม่ให้แตกตัวเป็นโมเลกุลเล็กๆ เพื่อผสมกับโปรตีนเวย์ในน้ำนมได้ดี ทำให้ร่างกายของลูกน้อยดูดซึมวิตามิน A และวิตามิน D ได้มากขึ้น ถ้าในน้ำนมของแม่มีไลเปสมากก็จะย่อยไขมันได้มาก ทำให้น้ำนมมีกลิ่นหืนนั่นเองค่ะ ทั้งนี้ แม้ว่าจะมีกลิ่นหืนก็ไม่เป็นอันตรายต่อลูกน้อยแต่อย่างใด ยังสามารถกินได้ แต่ในเด็กบางคนอาจไม่ยอมกินนมที่มีกลิ่นหืน สามารถแก้ไขได้โดยการนำน้ำนมที่ปั๊มมาใหม่ๆ ผสมกับนมที่มีกลิ่น ก็จะช่วยเจือจางกลิ่นและลดความเหม็นหืนไปได้ […]
ความเชื่อแรกที่ต้องมี..คาร์ซีทคือสิ่งสำคัญ เคยคิดไหมว่าถ้าวันหนึ่งคุณขับรถประสบอุบัติเหตุจนทำให้ลูกน้อยๆ ของคุณได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิต คุณจะใช้ชีวิตต่อไปยังไง?? ผมถือว่าผมเป็นคนที่โชคดีคนหนึ่งที่ได้รับการปลูกฝังให้เห็นความสำคัญของคาร์ซีทสำหรับเด็กๆ ทั้งจากคุณหมอประจำตัวลูกๆ พี่สาว ภรรยา ตลอดจนเพื่อนๆของผมและภรรยาที่เคยมีลูกมาก่อน ที่พร่ำสอนว่า ต้องให้เด็กนั่งคาร์ซีททุกครั้งที่ขึ้นรถนะ… ทุกครั้งที่ผมเดินทางไม่ว่าจะใกล้หรือไกล ผมกับภรรยาจะให้ลูกๆนั่งคาร์ซีทตลอดเวลา ถึงแม้ช่วงแรกๆ (รวมถึงช่วงหลังๆด้วยบางเวลา) เค้าจะร้องไห้ฟูมฟายก็ตาม เราก็ต้องใจแข็งปล่อยให้ร้องไห้ไป เพราะถือคติว่า “safety first” พอนานๆเข้า เด็กๆก็จะเริ่มรู้เงื่อนไขเองว่า ถ้าไม่นั่งบนคาร์ซีทจะไม่ได้ขึ้นรถไปด้วย แม้แต่วันแรกที่พาลูกออกจากโรงพยาบาลหลังคลอด ผมและภรรยาก็ให้ลูกน้อยนั่งคาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิด …เชื่อว่าพ่อแม่หลายคนมักจะใจอ่อน และมักจะคิดว่านิดหน่อยคงไม่เป็นอะไร แต่อย่าลืมว่าอุบัติเหตุมันเกิดขึ้นได้ทุกวินาทีจริงๆ แข็งใจปล่อยให้ลูกร้องไห้ ดีกว่าไม่มีโอกาสให้เขาได้ร้องไห้นะครับ… กระนั้นก็ดี ด้วยความที่คาร์ซีทยี่ห้อดีๆมักจะมีราคาสูง(มาก) เดิมทีผมมีลูกชายคนเดียวก็มีสำหรับเด็กแรกเกิดถึงสองขวบ ต่อมาพอน้องปัณณ์โตขึ้นก็กัดฟันควักกระเป๋าซื้อสำหรับเด็ก 1-5 ขวบ มาอีกตัว จากนั้นพอผมมีน้องปุณณ์ ลูกสาวอีกคนที่อายุย่างเข้า 9 เดือน ภรรยาก็อยากได้ คาร์ซีทที่แข็งแรงๆ อีกอันไว้ให้น้องปัณณ์นั่ง ส่วนน้องปุณณ์จะขยับมานั่งอันที่สองแทน ผมก็คัดค้านเพราะเห็นว่าสิ้นเปลือง อันแรกยังใช้ได้อยู่เลย… แต่สุดท้ายก็ทนไม่ไหว ยอมควักเงินอีกสองหมื่นกว่าซื้อมาอีกตัวอย่างเสียไม่ได้ หลังจากซื้อมาได้เพียงเดือนเดียว เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันและร้ายแรงที่สุดในชีวิตผมก็เกิดขึ้นจนได้ ผมกับครอบครัวเดินทางไป กทม. โดยลูกชายผมนั่งคาร์ซีทตัวใหม่อยู่ด้านข้างคนขับ (ขยับเบาะให้ไกลจาก […]
Q: ขวดนม อุปกรณ์ปั๊มนม ต้องต้ม หรือนึ่ง ให้ปราศจากเชื้อทุกวัน ? A: การนึ่ง หรือต้มฆ่าเชื้อขวดนมและจุกนมหลังใช้งานทุกวันจะทำให้ขวดนมพลาสติกและจุกนมเสื่อมสภาพเร็วขึ้นกว่าปกติ และไม่ได้ช่วยป้องกันโรคให้ทารกเพิ่มขึ้นมากไปกว่าล้างด้วยน้ำสบู่อุ่น ๆ หรือล้างด้วยน้ำร้อนผสมน้ำยาล้างขวดนมหลังใช้งาน การขยันทำให้ปลอดเชื้อมากเกินไป (over-sterilize) ไม่มีประโยชน์กลับเป็นการสร้างสิ่งแวดล้อมให้เชื้อที่ทนความร้อน และสร้างสปอร์ได้เพิ่มมากขึ้น (เพราะคุณไม่ได้ใช้หม้อความดัน หรือฉายรังสี) และทารกจะอาจได้สารพวกโพลีเมอร์ หรือฟอร์มัลดีไฮด์ปนเปื้อนออกมาจากพลาสติกที่เสื่อมสภาพแทน สมาคมกุมารแพทย์อเมริกัน และ USFDA แนะนำให้ต้มหรือนึ่งฆ่าเชื้อขวดนม และอุปกรณ์ปั๊มนมเฉพาะครั้งแรกที่ใช้งานจากนั้นให้ล้างด้วยน้ำสบู่ หรือน้ำยาล้างขวดนมผสมน้ำอุ่น ทุกครั้งหลังใช้งานก่อนผึ่งให้แห้ง โดยไม่ให้้ใช้ผ้าเช็ด กรณีที่ต้องต้มหรือนึ่งฆ่าเชื้อทุกวันคือช่วงทารกป่วย เช่น ท้องร่วง หรือ เป็นฝ้าขาวในปาก คุณแม่ที่กังวลอาจนึ่งหรือต้ม ทุก 3-4 วัน สำหรับนมชง ทุก 1 สัปดาห์สำหรับนมแม่ทั้งนี้ จะต้องไม่มีการปล่อยให้นมบูดคาขวด (ถ้านมบูดคาขวดต้องต้มหรือนึ่งฆ่าเชื้อใหม่เสมอ) อย่างไรก็ตามไม่มีกฎตายตัว หากบ้านมีสภาพแวดล้อมที่ไม่สะอาด อยู่ใกล้แหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรค อาจพิจารณาต้มหรือนึ่งให้บ่อยขึ้น สำหรับประเทศไทยที่มีภูมิอากาศร้อนชื้นมีโรคเขตร้อนที่เป็นโรคทางเดินอาหารมาก และประชากรมีสุขอนามัยไม่แน่นอน กุมารแพทย์ไทยหลายท่านอาจแนะนำให้คุณแม่ต้มหรือนึ่งขวดนมทุกวัน และกรณีที่ห้องครัวมีความสกปรกอับชื้นท่อน้ำไม่สะอาด หรือมีกระบะทรายแมวในห้องครัว (ซึ่งไม่ควรมี) คุณแม่อาจเลี่ยงไปตากขวดนม และจุกนมที่อื่นที่มีอากาศถ่ายเทคุณแม่ที่ปั๊มนมห้ามใช้สบู่เหลวในห้องน้ำที่ทำงานล้างขวดนม หรือ […]
หลังจากที่ได้เห็นข่าวที่เกี่ยวกับลูกน้อย วัยกำลังเริ่มแสบซน เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนเกี่ยวกับรถที่ผู้ปกครองขับ ไม่ว่าเค้าจะชนเรา หรือเราจะชนอะไรก็ตาม มีความเสี่ยงไปหมดดดดดด คาร์ซีท หรือเบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็ก เป็นวิธีที่ดีที่สุดเพื่อความปลอดภัยในการเดินทางของเด็ก โดยเฉพาะเด็กเล็กและทารก เพราะคาร์ซีทช่วยลดความเสี่ยงการเสียชีวิตและการบาดเจ็บร้ายแรงอื่น ๆ จากอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้ ความเสี่ยงในที่นี้ คือ เจ้าตัวน้อยของเราสามารถกระเด็น พุ่งหลุดออกจากอ้อมอกอ้อมกอดเราได้ทุกเมื่อ เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ทุกเวลา ต่อให้ระวังแค่ไหนก็เกิดขึ้นได้ หากเด็กไม่ได้อยู่ในระบบยึดเหนี่ยวภายในรถอย่างเหมาะสมและเหตุนี้หลากหลายประเทศถึงมีกฎหมายออกมาเพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ที่เดินทางโดยใช้รถ จำเป็นต้องติดตั้งคาร์ซีท ก่อนจะได้ออกจากโรงพยาบาล อ้อมกอดของคุณจะปลอดภัยไปทุกครั้ง เพราะเด็กน้อย จำเป็นต้องมีคาร์ซีท การเลือกคาร์ซีทให้ลูกน้อย มีมาฝากเพียง 5 ข้อ คือ 1. มาตรฐานความปลอดภัย2. เข็มขัดนิรภัย 5 จุด3. ความใหม่ของผลิตภัณฑ์4. ราคา5. ความเหมาะสมกับรถยนต์ อย่างไรก็ตาม ความสำคัญของคาร์ซีทก็มีมากมาย หากไปดูหลายๆ เคสหรือหลายๆ ข่าว ก็จะมีให้เราผู้เป็นพ่อเป็นแม่เห็น ครั้งต่อไปจะมาเล่าเรื่องฝึกการนั่งคาร์ซีทให้กับลูกน้อยให้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ ได้ลองศึกษาดูนะคะ ขอขอบคุณบทความจาก : monkeykids
ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ เชื้อไวรัสโคโรน่า มีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง คนเป็นเพิ่มขึ้นวันละ 30 กว่าคนทุกวัน ลักษณะการแพร่ระบาดอยู่ในระยะที่ 2 และคนส่วนใหญ่ก็เพียงแค่ตามหาหน้ากากอนามัยที่ตอนนี้ราคาแพงขึ้นเป็นเท่าตัว หรือแม้แต่เจลแอลกอฮอล์ที่มีการทำปลอมแปลงออกมาอีกมากมายเพราะหวังกอบโกยเงิน ในช่วงวิกฤต แบบนี้ แต่บริษัทประกันต่างๆ กลับออกกรมธรรม์ประกัน เชื้อไวรัสโคโรน่า เพื่อช่วยเหลือสำหรับผู้ที่เกิดการติด เชื้อไวรัสโคโรน่า อย่างแท้จริง และทุกประกันก็ให้ความสะดวกสบายยิ่งขึ้น เมื่อตรวจพบเจอโรค ก็จ่ายทันที (Update 15/03/63) สินทรัพย์ประกันภัย แผน4 ** นอกจากนี้ ยังได้รับความคุ้มครองเพิ่ม กรณีประสบอุบัติเหตุ หากเสียชีวิต หรือ ทุพพลภาพ จะได้รับเงินประกัน และค่าปลงศพ 2,000-8,000 บาท ตามข้อกำหนดของแต่ละกรมธรรม์ โดยเงื่อนไขสำหรับผู้เอาประกันภัย ต้องมีอายุระหว่าง 1-99 ปี แต่จะไม่คุ้มครองสภาพที่เป็นมาก่อนการเอาประกันภัย (Pre-Existing Condition) ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต SCB แผน B – Covid 19 Plus แผน 3 สินมั่นคงประกันภัย ประกันภัยการติด เชื้อไวรัสโคโรน่า กรุงเทพประกันภัย ประกัน เชื้อไวรัสโคโรน่า วิริยะประกันภัย Covid Shield แผน […]

ร้านสินค้าแม่และเด็กที่คัดสรรนวัตกรรมของใช้แม่และเด็กที่มี
คุณภาพให้คำปรึกษาและบริการ อย่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อช่วยให้การเลี้ยงลูกเป็นเรื่องง่าย ปลอดภัย และมีความสุข
Online Shopping
สาขา ปิ่นเกล้า ราชพฤกษ์
สาขา Mega บางนา
สาขา Central World
สาขา The Crystal รามอินทรา
สาขา BTS วงเวียนใหญ่ (Outlet)
Copyright 2024 © Baby Gift (Retail) Co., Ltd.