6 เรื่องที่แม่ตั้งครรภ์ต้องระวัง

เดินทางมาเกินครึ่งทางแล้วขอคารวะให้กับความสตรองของแม่ๆ แต่ยิ่งใกล้วันครบกำหนดคลอดเท่าไหร่กลับยิ่งเครียดหนักกว่าเดิม แถมร่างกายของคุณแม่ช่วงนี้ก็จะเปลี่ยนแปลงแบบเยอะมากๆ คุณแม่บ้านไหนที่กำลังกังวลเรื่องท้องเล็ก ช่วง 6 เดือนนี่แหละค่ะ ที่ท้องของคุณแม่ๆ จะเริ่มใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แถมน้ำหนักก็ยังขึ้นพรวดๆ แบบก้าวกระโดด ช่วงนี้คุณแม่จะหิวเป็นพิเศษ แถมยังต้องทานอาหารเยอะขึ้นกว่าเดิมเพราะลูกน้อยของคุณแม่กำลังช่วยใช้พลังงาน
ตั้งแต่ช่วงนี้เป็นต้นไป คุณแม่อาจจะรู้สึกถึงอาการท้องแข็ง อาการท้องแข็งคือเวลาที่มดลูกของคุณแม่หดตัว ท้องของคุณแม่ก็จะแข็งนูนขึ้นมาค่ะ ซึ่งเป็นเรื่องปกตินะ ถ้าไม่ได้เกิดแบบถี่ๆ ติดต่อกัน และเพราะความเปลี่ยนแปลงเยอะแยะเหล่านี้นี่แหละ ทำให้คุณแม่อาจจะต้องดูแลช่วงครึ่งหลังนี้เป็นพิเศษ เรามาดู 6 เรื่องที่คุณแม่ท้อง 6 เดือนต้องระวังกันค่ะ
1.ความเครียดไม่ใช่เรื่องดี
อันที่จริงเรื่องความเครียดก็เป็นสิ่งที่ต้องระวังตั้งแต่ตั้งครรภ์แรกๆ แล้วเนอะ แต่อย่างที่บอกค่ะ ว่าช่วงนี้คุณแม่จะเปลี่ยนไปค่อนข้างมาก อาจจะทำให้เกิดความเครียดไม่รู้ตัว เช่น คุณแม่บางคนอาจจะเป็นกังวลกับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมาของตัวเอง หรือบางคนอาจจะมีอาการปวดชายโครงเพราะท้องที่ใหญ่ขึ้น ส่งผลให้เกิดอาการเครียดตามมา หากคุณแม่เกิดอาการเครียดมากๆ แล้ว จะส่งผลให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนและสารเคมี ซึ่งเจ้าสารเคมีตัวนี้จะส่งผลโดยตรงกับการเจริญเติบโตของลูกน้อยในครรภ์ค่ะ คุณแม่ที่เครียดมักจะคลอดก่อนกำหนด แถมยังทำให้ลูกมีน้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์อีกด้วย

2.ไม่ใช่เวลาของกิจกรรมผาดโผน
ด้วยขนาดท้องที่ใหญ่ขึ้น การทำกิจกรรมผาดโผนต่างๆ อาจเป็นการเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการกระแทกบริเวณหน้าท้อง ซึ่งเป็นอันตรายต่อลูกน้อยในครรภ์อย่างยิ่งค่ะ แถมการที่คุณแม่เคลื่อนไหวตัวอย่างรวดเร็วหรือทำอะไรแบบปุปปับ ยังเป็นสาเหตุทำให้มดลูกเกิดการบีบรัดตัว เกิดอาการท้องแข็ง และถ้าเกิดคุณแม่มีอาการท้องแข็งบ่อยๆ เข้าล่ะก็ เสี่ยงคลอดก่อนกำหนดอยู่นะ

3. นอนท่าไหนก็ได้?
ปัญหาที่คุณแม่ต้องพบเมื่อมีอายุครรภ์มากขึ้นคือเรื่องของท่านอนค่ะ นอนท่านี้ก็ปวดหลัง นอนท่านั้นก็หายใจไม่สะดวก แถมยังนอนไม่หลับอีกต่างหาก พอคุณแม่ท้องใหญ่ขึ้น การนอนหงายก็อาจจะไม่โอเคซักเท่าไหร่ เพราะคุณแม่จะรู้สึกเหมือนมีอะไรกดทับตลอดเวลา เพราะงั้นท่านอนที่เราแนะนำคือการนอน “ตะแคงซ้าย” ค่ะ ทำไมต้องตะแคงซ้าย? เพราะว่าหลอดเลือดเส้นสำคัญของเราจะอยู่เยื้องไปทางขวาค่ะ ถ้านอนตะแคงขวา น้ำหนักก็อาจจะไปกดทับเจ้าหลอดเลือดเส้นนี้ ทำให้เลือดไหลเวียนไม่ค่อยสะดวก เพราะฉะนั้นการนอนตะแคงซ้ายจึงเป็นท่าที่ดีที่สุด เพราะจะเป็นการลดการกดทับหลอดเลือด ทำให้ลูกน้อยได้รับออกซิเจนและอาหารได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ คุณแม่อาจจะใช้หมอนรองระหว่างขาทั้งสองข้างเพื่อให้รู้สึกสบายเพิ่มขึ้นด้วยก็ได้นะคะ

4. รองเท้าส้นสูงหรอ…อย่าดีกว่า
คุณแม่บางคนติดใส่รองเท้าส้นสูง แต่เราขอแนะนำว่าช่วงนี้ใส่ส้นเตี้ยจะดีกว่า เพราะว่าการที่ท้องคุณแม่ใหญ่ขึ้นอาจจะทำให้คุณแม่ทรงตัวได้ไม่ดีเท่าเดิม เสี่ยงต่อการล้มเป็นอย่างยิ่งเลย แถมการใส่ส้นสูงยังอาจทำให้คุณแม่เกิดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อขา เผลอๆ อาจลามมาถึงหลัง ดีไม่ดีอาจทำให้เกิดตะคริวอีกต่างหาก

5. อย่าลืมเฝ้าระวังสัญญาณอันตราย
ช่วงนี้คุณแม่ต้องคอยระวังสัญญาณต่างๆ เอาไว้ให้ดีเลยล่ะค่ะ สัญญาณอันตรายที่สำคัญที่สุดคือการมีเลือดออกที่ช่องคลอด การมีเลือดออกที่ช่องคลอดไม่ว่าจะช่วงไหนของการตั้งครรภ์ล้วนไม่ใช่เรื่องดี นอกจากนี้ก็จะเป็นพวกอาการท้องแข็งถี่ มีมูกหรือมูกเลือด มีน้ำไหลออกมาจากช่องคลอด ลูกไม่ดิ้น หรือปวดท้องแบบติดต่อกัน ถ้าพบอาการแบบนี้ โปรดอย่านิ่งดูดายนะคะ รีบไปให้ถึงมือคุณหมอโดยเร็วจะดีที่สุดค่ะ

6. เรากินน้ำตาลมากเกินไปมั้ยนะ?
ช่วงนี้คุณแม่จะรู้สึกหิวมากกว่าเดิม แต่ก็อย่าตามใจปากจนเกินไปนะคะ คุณแม่ท้องจะเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวานมากกว่าปกติ ซึ่งหากเราเป็นเบาหวานในช่วงท้องนี้เค้าจะเรียกว่า “เบาหวานระหว่างตั้งครรภ์” ค่ะ ซึ่งไม่ใช่โรคที่ติดตัวเราไปตลอดแต่จะเป็นแค่ช่วงที่เราท้องอยู่ เพราะช่วงที่ท้องเนี่ย ร่างกายเราจะไม่สามารถผลิตอินซูลินออกมาได้เพียงพอ ก็เลยทำให้มีระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงกว่าปกติ ละถ้ายิ่งคุณแม่ทานพวกแป้งหรือน้ำตาลเพิ่มเข้าไปอีก ก็ยิ่งทำให้เสี่ยงต่อการเป็นเบาหวานค่ะ ซึ่งเจ้าเบาหวานนี้ก็อันตรายอยู่นะ เพราะอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ ได้ เช่น คลอดก่อนกำหนด ครรภ์เป็นพิษ ภาวะน้ำตาลในเลือดของทารกต่ำ (เพราะร่างกายของทารกผลิตอินซูลินออกมามากเกินไป) เป็นต้น

สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
คาร์ซีทนั้นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับลูกน้อย และต้องใช้ตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึงวัยที่สามารถรัดเข็มขัดนิรภัยขณะนั่งรถได้อย่างปลอดภัย และคาร์ซีทเองก็มีอยู่หลายแบบ หลายยี่ห้อ และหลายราคาเช่นกัน ซึ่งคาร์ซีทที่เป็นของใหม่นั้น คุณพ่อคุณแม่บางท่านก็อาจจะมองว่ามีราคาสูงเกินไป และต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย ก็เลยมองหาคาร์ซีทมือสองที่มีราคาย่อมเยากว่า โดยเฉพาะคาร์ซีทแบรนด์ดังจากประเทศญี่ปุ่นแบบมือสองที่มีราคาย่อมเยากว่าของใหม่มาก และดูจากสภาพภายนอกก็ยังมีความใหม่ ไม่เก่า และน่าใช้ แต่ความจริงแล้ว เราควรใช้คาร์ซีทแบบมือสองหรือเปล่า ? จะเลือกอย่างไร ? คุณภาพจะดีหรือไม่ ต้องพิจารณาอย่างไร มาอ่านเพิ่มเติมกันเลยค่ะ ควรซื้อไหม คาร์ซีทมือสอง ? แชร์สิ่งต้องรู้ก่อนซื้อคาร์ซีทแบบมือสอง ในบทความนี้กัน ! เคยสงสัยกันมั้ยคะว่า ทำไมคาร์ซีทแบรนด์ดังนำเข้าจากญี่ปุ่นทั้งหลายที่ขายกันตามท้องตลาดในราคาสองสามหมื่นบาทนั้น เมื่อเป็นคาร์ซีทมือสองก็ยังคงมีสภาพเยี่ยมเหมือนใหม่แถมยังดูน่าใช้ ที่สำคัญคือขายกันในราคาแค่ไม่กี่พันบาทเท่านั้น เรียกได้ว่าทั้งสภาพ และราคาดูมีความน่าสนใจ ดูมีความคุ้มค่ามากๆ จนหลายคนอยากซื้อมาใช้ให้ลูกนั่งกันเลยทีเดียว แต่ความจริงก็คือ คาร์ซีทมือสองญี่ปุ่นเป็นสิ่งที่คนญี่ปุ่นเค้าไม่ใช้กันแล้ว เรียกง่ายๆ ก็คือ เป็นของที่เค้าเอาทิ้งกันแล้วนั่นเอง แต่ด้วยเทคนิคการทำความสะอาดขั้นเทพของคนญี่ปุ่นที่ไม่ว่าของจะเก่า เลอะเทอะ เปรอะเปื้อนแค่ไหน ไม่ว่าจะมีคราบเลือด คราบอาเจียน มีเชื้อรา มีกลิ่นเหม็นจากปัสสาวะเด็ก หรือมีคราบสิ่งสกปรกอื่นๆ หรือสีซีดจางขนาดไหนก็สามารถนำมาทำความสะอาดให้ดูเหมือนใหม่ได้ ทำให้คาร์ซีทที่ถูกใช้มานานหลายปียังดูสะอาดและสวยสภาพดีไม่ต่างจากของใหม่นั่นเองค่ะ และถ้าเป็นแบบนี้ะถ้าเป็นแบบนี้ คาร์ซีทมือสอง ปลอดภัยจริงหรือ ? ควรซื้อมาใช้หรือไม่ เรามาดูกันต่อเลยค่ะ ในขั้นตอนการทำความสะอาดคาร์ซีทที่สกปรกมากๆ […]
เมื่อลูกน้อยถึงวัยเริ่มกินอาหารเสริมนอกจากนมแม่ ซึ่งก็คือในช่วงอายุ 6 เดือนขึ้นไป หากลูกเริ่มนั่งได้เก่งขึ้น สามารถนั่งได้เองโดยที่ไม่ต้องประคอง และเริ่มชอบเอามือหยิบจับสิ่งต่าง ๆ เข้าปาก นั่นแสดงว่าลูกน้อยของเราพร้อมที่จะกินอาหารเสริมได้แล้ว ในบางบ้านอาจจะคุ้นเคยกับการเตรียมอาหารเด็กอ่อนโดยการปั่นหรือบดละเอียดและป้อนให้ลูก แต่หลาย ๆ บ้านก็อาจจะใช้วิธีฝึกให้ลูกกินอาหารด้วยตัวเองที่เรียกว่า BLW (Baby-Led Weaning) แต่ไม่ว่าจะเป็นวิธีไหนก็ตาม อุปกรณ์สำคัญอย่างโต๊ะกินข้าวเด็กก็เป็นของที่ต้องมี และถ้าเลือกให้ดีก็จะใช้งานได้อย่างยาวนานตั้งแต่เล็กจนโต แล้วจะมีวิธีการเลือกอย่างไร ควรเลือกแบบไหนดี ? BabyGift มีคำแนะนำดี ๆ มาฝากแล้วค่ะ โต๊ะกินข้าวเด็ก สำคัญอย่างไร ? ควรเลือกแบบไหนดี ? โต๊ะกินข้าวสำหรับเด็กนั้นมีความแตกต่างจากโต๊ะทั่ว ๆ ไป โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นโต๊ะที่เรียกว่า High Chair โดยเป็นชุดเก้าอี้กินข้าวเด็กที่มีโต๊ะพับมาให้แบบครบชุด สามารถใช้งานได้หลายแบบ บางรุ่นสามารถพกพาออกไปข้างนอกได้ด้วย และยังมีเข็มขัดนิรภัยเพื่อป้องกันเด็กพลัดตกเก้าอี้ ทำให้มีความปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งบางที่อาจเรียกว่าโต๊ะกินข้าวเด็ก หรือบางที่ก็เรียกว่าเก้าอี้กินข้าวเด็ก หรือ อาจเรียกรวม ๆ ว่าชุดโต๊ะเก้าอี้กินข้าวของเด็ก แต่จะเรียกแบบไหน ก็หมายถึง High Chair ที่นั่งกินข้าวของเด็กเล็กโดยเฉพาะนั่นเองค่ะ โต๊ะกินข้าวสำหรับเด็กนั้นเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นมาก โดยเฉพาะคุณพ่อคุณแม่ที่อยากฝึกลูกให้กินข้าวด้วยตัวเองแบบ BLW ซึ่งการฝึกลูกกินข้าวเอง […]
การเตรียมความพร้อมให้กับลูกน้อยนั้นมีสิ่งที่จำเป็นอยู่หลายอย่าง เริ่มตั้งแต่ก่อนคลอดไปจนถึงการเลี้ยงดูลูกตามช่วงวัยต่าง ๆ และสิ่งที่จำเป็นอย่างหนึ่งก็คือ คาร์ซีทสำหรับลูกน้อย อย่างคาร์ซีทเด็กแรกเกิด ที่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับเด็ก ๆ ขณะนั่งรถยนต์ เพื่อช่วยลดโอกาสในการบาดเจ็บรุนแรงแก่เด็ก ๆ หากเกิดอุบัติที่ไม่คาดคิด ซึ่งปัจุบันมีคาร์ซีทหลากหลายรูปแบบมากมาย ทั้ง คาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 2 ปี คาร์ซีทสำหรับเด็กอายุ 3 ปีขึ้นไป คาร์ซีทที่ใช้สำหรับเด็กโตอายุ 4 – 12 ปี รวมถึง คาร์ซีทแบบกระเช้า ที่นิยมใช้กันมากขึ้น คาร์ซีทกระเช้าคืออะไร เป็นแบบไหน เหมาะกับเด็กช่วงวัยใด ควรเลือกซื้ออย่างไรบ้าง มารู้จักให้มากขึ้นผ่านบทความนี้กันค่ะ คาร์ซีทแบบกระเช้า เลือกยังไง ให้เหมาะกับลูกน้อย หาคำตอบได้ในบทความนี้ คาร์ซีทกระเช้า คืออะไร ? คาร์ซีทแบบกระเช้า (Infant Car Seat) หรือคาร์ซีทแบบ Newborn Only เป็นคาร์ซีทที่ใช้สำหรับเด็กแรกเกิดจนถึงอายุไม่เกิน 24 เดือน เหมาะสำหรับการติดตั้งหันหน้าเข้าหาเบาะรถยนต์ มีลักษณะรูปร่างคล้ายกับตะกร้า และมีที่สำหรับจับถือหิ้ว สามารถวางไว้ในรถได้ และยกออกได้เลยโดยที่ไม่ต้องอุ้มเด็กออกจากคาร์ซีท ทำให้ไม่รบกวนการนอนหลับของลูกน้อยรวมถึงเคลื่อนย้ายได้ง่ายไม่ยุ่งยาก […]
เคล็ดลับการฝึกลูกนั่งคาร์ซีท car seat จากประสบการณ์จริงคุณแม่ลูกสอง โดย แม่ป่าน เพจ เลี้ยงลูกอย่างมีความสุข by mommy Arpan 1. ฝึกเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ : ถ้าเป็นไปได้จัดเตรียมคาร์ซีท car seat ไว้ก่อนคลอด และให้ลูกนั่งตั้งแต่วันแรกที่ออกจากโรงพยาบาล จะช่วยสร้างความคุ้นเคยให้กับทั้งตัวลูกและพ่อแม่ 2. ต่อเนื่อง และสม่ำเสมอจนกลายเป็น routine (กิจวัตร) : ไม่ว่าจะไปไหน ใกล้หรือไกลต้องให้เด็กนั่ง car seat ทุกครั้ง เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ ปฏิบัติจนคุ้นชิน และทุกอย่างจะง่ายขึ้นเองค่ะ 3. ปรับทัศนคติให้ตรงกัน (ปัญหาหลักที่หลายบ้านพบเจอ) : โดยเฉพาะผู้ใหญ่ในบ้านที่อาจจะยังไม่เข้าใจ หรือยังมองไม่เห็นความสำคัญ ลองนั่งพูดคุยบอกเล่าเหตุการณ์ๆต่างๆในข่าว ที่เวลาเกิดอุบัติเหตุและเด็กที่นั่ง car seat รอดชีวิต เปรียบเทียบกับเด็กที่ไม่ได้นั่งและเกิดความสูญเสียร้ายแรงตามมา และลองคุยปรับความเข้าใจกับท่านดู เชื่อว่าถ้าท่านรักและห่วงหลานๆเป็นทุน ยังไงวันหนึ่งท่านจะเข้าใจค่ะ อีกวิธีหนึ่งที่แนะนำคือลองหาวิดิโอใน Youtube สาธิตแรงกระแทกที่เกิดขณะรถชน (จะมีสาธิตเปรียบเทียบระหว่างมีคนอุ้มเด็ก กับเด็กนั่งคาร์ซีท ….หวังว่าภาพที่เห็นจะสามารถเปลี่ยนใจของบรรดาผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านได้นะคะ […]
สำหรับคนที่ชอบการเข้าครัว ทำอาหาร ถนอมอาหาร คงรู้จัก อลูมิเนียมฟอยล์ (Aluminium foil) กันอย่างแน่นอน เพราะเป็นอุปกรณ์ในการถนอมอาหารและใช้ในการนำความร้อนปรุงอาหาร ปัจจุบันได้มีนวัตกรรมใหม่ ๆ นำอลูมิเนียมฟอยล์ไปแปรรูปเป็น ถุงเก็บน้ำนม อลูมิเนียมฟอยล์ เพื่อช่วยในการเก็บรักษาน้ำนมแม่ ไม่ให้มีกลิ่นเหม็นหืน และยังช่วยให้อุ่นนมได้รวดเร็วขึ้น ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจมาก ๆ เราจึงได้หาข้อมูลคุณสมบัติทั้งข้อดีและข้อเสียมาบอกกัน จะน่าใช้หรือไม่ ตอบโจทย์คุณแม่นักปั๊มแค่ไหน ไปดูกันเลย ถุงเก็บน้ำนม อลูมิเนียมฟอยล์ คืออะไร ? คือ การใช้แผ่นอลูมิเนียมฟอยล์ เป็นวัสดุหลักในการผลิตถุงเก็บน้ำนม แทนการใช้พลาสติก โดยการขึ้นรูปถุงนมด้วยอลูมิเนียมฟอยล์ ผ่านการเคลือบด้วย Polyethylene, Polyamide และ Polyester รวม 4 ชั้น ให้ถุงเก็บน้ำนมแข็งแรงทนทานกว่าถุงเก็บน้ำนมพลาสติกใสทั่วไป รวมถึงอลูมิเนียมฟอยล์จะมีคุณสมบัติทึบแสง 100% เพื่อรักษาคุณภาพของน้ำนมแม่ให้คงรสชาติ กลิ่นไม่เหม็นหืน แบบเดียวกันกับการห่ออาหาร ถนอมอาหารในครัวเรือน ทดลองอุ่นนมแม่แช่แข็ง ด้วยเครื่องอุ่นนม Baby Bottle Warmerถุงเก็บน้ำนม อลูมิเนียมฟอยล์ VS ถุงเก็บน้ำนมพลาสติก ถุงเก็บน้ำนมอลูมิเนียมฟอยล์ *อลูมิเนียมฟอยล์นำความร้อนได้ดี จะไม่ต้องใช้โหมดละลายน้ำแข็ง (Defrost) เพราะจะทำให้อุณหภูมิของน้ำนมสูงเกินไป* ถุงเก็บน้ำนมพลาสติก *ความร้อน 60 […]

ร้านสินค้าแม่และเด็กที่คัดสรรนวัตกรรมของใช้แม่และเด็กที่มี
คุณภาพให้คำปรึกษาและบริการ อย่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อช่วยให้การเลี้ยงลูกเป็นเรื่องง่าย ปลอดภัย และมีความสุข
Online Shopping
สาขา ปิ่นเกล้า ราชพฤกษ์
สาขา Mega บางนา
สาขา Central World
สาขา The Crystal รามอินทรา
สาขา BTS วงเวียนใหญ่ (Outlet)
Copyright 2024 © Baby Gift (Retail) Co., Ltd.