เลือกโต๊ะกินข้าวเด็ก ต้องดูอะไรบ้าง ? แจกวิธีเลือกโต๊ะแบบตัวเดียวจบใช้ได้จนโต !

เมื่อลูกน้อยถึงวัยเริ่มกินอาหารเสริมนอกจากนมแม่ ซึ่งก็คือในช่วงอายุ 6 เดือนขึ้นไป หากลูกเริ่มนั่งได้เก่งขึ้น สามารถนั่งได้เองโดยที่ไม่ต้องประคอง และเริ่มชอบเอามือหยิบจับสิ่งต่าง ๆ เข้าปาก นั่นแสดงว่าลูกน้อยของเราพร้อมที่จะกินอาหารเสริมได้แล้ว ในบางบ้านอาจจะคุ้นเคยกับการเตรียมอาหารเด็กอ่อนโดยการปั่นหรือบดละเอียดและป้อนให้ลูก แต่หลาย ๆ บ้านก็อาจจะใช้วิธีฝึกให้ลูกกินอาหารด้วยตัวเองที่เรียกว่า BLW (Baby-Led Weaning) แต่ไม่ว่าจะเป็นวิธีไหนก็ตาม อุปกรณ์สำคัญอย่างโต๊ะกินข้าวเด็กก็เป็นของที่ต้องมี และถ้าเลือกให้ดีก็จะใช้งานได้อย่างยาวนานตั้งแต่เล็กจนโต แล้วจะมีวิธีการเลือกอย่างไร ควรเลือกแบบไหนดี ? BabyGift มีคำแนะนำดี ๆ มาฝากแล้วค่ะ
โต๊ะกินข้าวเด็ก สำคัญอย่างไร ? ควรเลือกแบบไหนดี ?
โต๊ะกินข้าวสำหรับเด็กนั้นมีความแตกต่างจากโต๊ะทั่ว ๆ ไป โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นโต๊ะที่เรียกว่า High Chair โดยเป็นชุดเก้าอี้กินข้าวเด็กที่มีโต๊ะพับมาให้แบบครบชุด สามารถใช้งานได้หลายแบบ บางรุ่นสามารถพกพาออกไปข้างนอกได้ด้วย และยังมีเข็มขัดนิรภัยเพื่อป้องกันเด็กพลัดตกเก้าอี้ ทำให้มีความปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งบางที่อาจเรียกว่าโต๊ะกินข้าวเด็ก หรือบางที่ก็เรียกว่าเก้าอี้กินข้าวเด็ก หรือ อาจเรียกรวม ๆ ว่าชุดโต๊ะเก้าอี้กินข้าวของเด็ก แต่จะเรียกแบบไหน ก็หมายถึง High Chair ที่นั่งกินข้าวของเด็กเล็กโดยเฉพาะนั่นเองค่ะ
โต๊ะกินข้าวสำหรับเด็กนั้นเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นมาก โดยเฉพาะคุณพ่อคุณแม่ที่อยากฝึกลูกให้กินข้าวด้วยตัวเองแบบ BLW ซึ่งการฝึกลูกกินข้าวเอง BLW ต้องเตรียมอะไรบ้าง อย่างแรกที่ต้องมีก็คือ โต๊ะกินข้าวเด็กนั่นเองค่ะ เพื่อให้ลูกน้อยของเรานั่งกินข้าวได้ด้วยตัวเอง และทำให้เด็กนั่งอยู่กับที่ ไม่คลานหรือเล่นซนขณะกินข้าว เป็นการฝึกวินัยในการกินอีกด้วย แล้วเราควรเลือกโต๊ะกินข้าวสำหรับลูกน้อยอย่างไรให้เหมาะสมมากที่สุด มาดูกันเลยค่ะ

วิธีเลือกโต๊ะกินข้าวเด็ก ตัวเดียวจบ ใช้งานได้ยาวๆ
ยุคนี้มีชุดเก้าอี้กินข้าวเด็ก หรือ High Chair ให้คุณพ่อคุณแม่ได้เลือกซื้อกันมากมาย แต่จะเลือกแบบไหนที่ใช้งานได้อย่างปลอดภัยและใช้ได้ยาวนาน มีความคุ้มค่ามากที่สุด เรามีคำแนะนำมาฝากกันค่ะ
1. เลือกที่มีความปลอดภัยสูง แข็งแรง รับน้ำหนักได้ดี
เก้าอี้กินข้าวของลูกน้อยต้องมีความมั่นคงแข็งแรง มีระบบความปลอดภัยที่ช่วยป้องกันอุบัติเหตุให้ลูกน้อย ทั้งการพลัดตกหรือลื่นไถลลงจากเก้าอี้จนทำให้เกิดอุบัติเหตุและได้รับบาดเจ็บได้ โดยต้องมีสายรัดเอวและขา หรือ เข็มขัดนิรภัย 3 จุด หรือ 5 จุด ที่ปรับระดับสั้น – ยาวได้ เพื่อป้องกันลูกหลุดออกจากตัวเก้าอี้ ที่นั่งกว้างพอดี ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป สามารถรับน้ำหนักได้มากถึง 30 – 40 กิโลกรัม ตัวเก้าอี้มีความแน่นหนา มั่นคงแข็งแรง ไม่โยกเอน หากเป็นชุดเก้าอี้และโต๊ะกินข้าวเด็กที่มีล้อ ควรมีระบบล็อคของล้อหรือสามารถล็อคขาเก้าอี้ให้อยู่กับที่ได้เพื่อป้องกันเก้าอี้ไถล ควรมีผ้านุ่มหรือนวมหุ้มสายเข็มขัดที่ใช้รัดลูกเพื่อป้องกันการเสียดสีกับผิวลูกน้อยที่อาจเกิดการระคายเคืองได้ และเลือกเป็นวัสดุที่มีความปลอดภัยและปราศจากสารพิษอันตราย ไม่มีเหลี่ยมมุมของเก้าอี้ที่อาจบาดผิวหนังของลูกได้
2. มีฟังก์ชั่นการใช้งานหลากหลาย เคลื่อนย้ายสะดวก
ควรเลือกชุดโต๊ะเก้าอี้กินข้าวเด็กที่ใช้งานได้หลายรูปแบบ เช่น สามารถปรับระดับความสูงของที่นั่งได้หลายระดับ เพื่อปรับระดับของเก้าอี้ให้เหมาะกับการฝึกกินข้าวร่วมโต๊ะอาหารกับผู้ใหญ่ได้ ที่วางเท้าควรปรับระดับ สูง-ต่ำ/ขึ้น-ลงได้ เพราะเมื่อลูกของเราตัวโตขึ้น ก็ยังนั่งได้สบายและใช้งานได้อย่างยาวนาน สามารถปรับระดับเอนนั่งหรือนอนได้หลายระดับ เพื่อปรับให้ลูกนั่งกินข้าวได้อย่างสบายและถูกสรีระ นอกจากนี้ ควรเลือกแบบที่เคลื่อนย้ายสะดวก มีล้อคู่หรือขาเก้าอี้เลื่อนได้ (แต่ต้องสามารถล็อคล้อและขาเก้าอี้ได้เพื่อป้องกันการไถลที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุ) หากพับเก็บได้ก็จะยิ่งดีเพราะสามารถพกพาได้ เก็บง่ายเป็นระเบียบ ประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บ

3. ถาดวางอาหารมีความกว้างพอเหมาะ
ถาดสำหรับวางอาหารที่ติดมากับเก้าอี้นั้นควรมีขนาดกว้างพอดี ไม่เล็กเกินไป เพราะทำให้ลูกน้อยกินอาหารได้สะดวกมากขึ้น อาหารไม่หลุดมือตกบนพื้นได้ง่าย คุณแม่ก็ทำความสะอาดง่าย หากส่วนของโต๊ะกินข้าวเด็กมีขนาดเล็กเกินไป ก็จะทำให้วางอาหารได้น้อย อาหารไม่หลากหลาย ทำให้ลูกหยิบกินอาหารได้ยากมากขึ้น ทำให้หกเลอะเลอะ ทั้งยังทำให้รู้สึกอึดอัดไม่สบายตัวอีกด้วย
4. ทำความสะอาดง่าย วัสดุไม่เป็นที่สะสมของเชื้อโรค
เพราะเก้าอี้ และถาดอาหารนี้จะต้องเลอะเปรอะอาหารที่ลูกกินทุกมื้อ พนักพิงและถาดอาหารควรถอดซักทำความสะอาดได้ อุปกรณ์หรือโครงสร้างควรเช็ดล้างง่าย ประหยัดแรงของคุณแม่และผู้ใหญ่ที่ดูแลได้ดี ควรเลือกเป็นเก้าอี้พลาสติกหรือวัสดุที่สามารถเช็ดล้างทำความสะอาดได้ดี หากเลือกเป็นผ้าที่ไม่สามารถถอดซักได้ก็อาจจะทำให้มีคราบเปื้อนหมักหมม ไม่ถูกสุขอนามัยแก่ลูกน้อยของเรา
5. เลือกตามงบประมาณของครอบครัว
โต๊ะสำหรับกินข้าวเด็กนั้นก็มีอยู่หลายแบบหลายราคาให้เลือกด้วยกัน คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกที่เหมาะสมกับงบประมาณที่ตั้งไว้โดยคำนึงถึงความทนทานและความคุ้มค่าในการใช้งานเป็นหลัก เช่น เลือกที่มีฟังก์ชั่นเฉพาะจำเป็นต้องใช้ หรือเลือกแบบที่มีความทนทาน ใช้วัสดุที่มีคุณภาพดี ซื้อครั้งเดียวแล้วใช้งานได้จนลูกโต ไม่ต้องซื้อหลายครั้ง เพราะบางแบบแม้ราคาอาจจะย่อมเยากว่า แต่ก็ใช้งานได้ไม่นาน ถ้าเทียบกับการซื้อสินค้าที่ราคาสูงกว่าแต่ใช้งานได้ทนทานกว่า ก็อาจจะมีความคุ้มค่ามากกว่าค่ะ

ชุดโต๊ะกินข้าวสำหรับเด็กหรือ High Chair นั้นดีอย่างไร ? มาดูประโยชน์กัน !
ตอนนี้เราก็ได้ทราบถึงวิธีการเลือกโต๊ะเก้าอี้กินข้าวสำหรับเด็กกันไปแล้ว ถ้าเลือกอย่างถูกต้องก็ทำให้ใช้งานได้อย่างยาวนาน มีความคุ้มค่า สามารถใช้ได้ตั้งแต่ลูกเริ่มหัดกินข้าวไปจนกระทั่งกินข้าวเองได้คล่องเลยทีเดียว แต่คุณพ่อคุณแม่บางคนก็อาจจะเกิดความสงสัยขึ้นมาว่า โต๊ะเก้าอี้กินข้าวสำหรับเด็กนั้นมีความจำเป็นแค่ไหน สามารถให้ลูกนั่งกินข้าวบนโต๊ะปกติที่เราใช้ได้หรือเปล่า ? จำเป็นต้องซื้อมั้ย ? เรามาดูข้อดีของเก้าอี้กินข้าวสำหรับเด็กกันค่ะ
1. มีความปลอดภัยสำหรับลูกน้อย
ชุดเก้าอี้กินข้าวของเด็กนั้น ออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่เฉพาะเจาะจง และมีความปลอดภัยสำหรับลูกน้อย เนื่องจากมีขนาดพอเหมาะและมีสายรัดนิรภัยที่ช่วยป้องกันไม่ให้เด็กพลัดตกเก้าอี้ได้ โดยทั่วไปแล้วเด็กมักจะไม่อยู่นิ่ง หากนั่งเก้าอี้ปกติโดยปราศจากการดูแลอย่างใกล้ชิดก็อาจทำให้พลัดตกเก้าอี้และได้รับบาดเจ็บ หรือถ้าหากนั่งตักผู้ปกครองขณะกินข้าวก็อาจหยิบจับอุปกรณ์บนโต๊ะอาหารที่อาจเป็นอันตรายได้ อย่างส้อมปลายแหลม หรือปัดจานข้าวของคุณพ่อคุณแม่ตกแตก หรือปัดถ้วยซุปร้อน ๆ หกใส่ตัวเอง ทำให้เกิดความวุ่นวายขณะรับประทานอาหาร ดังนั้น การใช้เก้าอี้กินข้าวของเด็กโดยเฉพาะจึงมีความปลอดภัยต่อลูกน้อยมาก ๆ ค่ะ
2. ทำให้ลูกกินข้าวเองได้และหัดช่วยเหลือตัวเองตั้งแต่ยังเล็ก
ถ้าคุณพ่อคุณแม่ท่านใดอยากให้ลูกฝึกกินข้าวด้วยตัวเองหรือฝึกการกินแบบ BLW โต๊ะกินข้าวเด็กนั้นจำเป็นมาก ๆ ค่ะ เพราะลูกน้อยต้องหัดหยิบจับอาหารด้วยตัวเองโดยที่ผู้ใหญ่ไม่ต้องป้อนอาหารให้ลูก ซึ่งการกินอาหารได้เองโดยที่ไม่ต้องมีคนป้อนเป็นพื้นฐานการช่วยเหลือตัวเองเบื้องต้น ก่อนที่จะพัฒนาให้ลูกสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ในเรื่องต่อ ๆ ไป การให้ลูกนั่งเก้าอี้กินข้าวของเด็กโดยเฉพาะจะทำให้ลูกเรียนรู้การกินด้วยตัวเองในแบบที่สนุกและเป็นอิสระ เพราะเขาเลือกกำหนดเอง หยิบจับกินหรือตักอาหารได้เองโดยที่ไม่ต้องให้ผู้ใหญ่คอยกำหนด
3. ทำให้ลูกมีวินัยในการกินข้าวแต่ละมื้อมากขึ้น
การให้ลูกนั่งกินข้าวอย่างเป็นที่เป็นทางและนั่งกินบนโต๊ะของตัวเองจะทำให้ลูกน้อยมีวินัยในการกินอาหาร ทำให้ลูกรู้ว่าเวลามื้ออาหารลูกจะต้องนั่งกินอยู่กับที่ ไม่เดินไม่เล่น ต้องกินให้เป็นเวลา และมีเวลาในการกินที่จำกัด ถ้าหากไม่ยอมกินตามเวลาที่กำหนดไว้ก็ให้เก็บอาหารไปได้เลย เพื่อให้ลูกรู้จักกับความหิวและเรียนรู้ได้ว่าการกินข้าวนั้นสำคัญ เพราะหากไม่ฝึกวินัยให้ลูก ลูกจะไม่ได้เรียนรู้และคิดว่าเรื่องกินไม่สำคัญ ไม่ต้องใส่ใจ เพราะเดี๋ยวก็มีคนมาป้อนหรือจัดการให้ทุกครั้ง ทำให้ขาดวินัยเรื่องการกินและส่งผลเสียต่อการเจริญเติบโตได้
4. เพื่อแก้ปัญหาลูกกินยาก เลือกกิน
เนื่องจากการนั่งกินข้าวในเก้าอี้ของตัวเองจะทำให้ลูกได้อยู่กับเมนูอาหารตรงหน้า ไม่วอกแวก ไม่ติดเล่น ทำให้มุ่งความสนใจไปที่อาหารอย่างเต็มที่ และถ้าคุณพ่อคุณแม่เตรียมอาหารให้ลูกอย่างหลากหลาย มีทั้งเนื้อสัตว์ ผัก ไข่และอื่น ๆ ก็จะทำให้ลูกได้เริ่มกินอาหารเสริมหลายอย่าง ได้ลองกินผักผลไม้และอาหารต่าง ๆ ที่มีหน้าตาและรสชาติแตกต่างกันออกไป และสามารถเลือกได้ด้วยตัวเองว่าอยากกินอะไร จะหยิบอะไร โดยที่ไม่ได้ถูกบังคับป้อน ทำให้ลูกกินได้ง่ายและรู้สึกสนุกยิ่งขึ้น เป็นอีกหนึ่งเทคนิคแก้ปัญหา เมื่อลูกไม่ยอมกินข้าว ทำให้ลูกเริ่มกินได้มากขึ้นค่ะ
5. ช่วยป้องกันการสำลักอาหารได้
การนั่งเก้าอี้สำหรับกินข้าวในท่านั่งตัวตรงจะช่วยลดความเสี่ยงในการสำลักอาหารได้มาก เมื่อเทียบกับการนอนกินอาหารบด หรือเดินป้อนอาหาร หรือป้อนข้าวในขณะที่ลูกไม่อยู่กับที่และวิ่งเล่นไปมา ซึ่งจะทำให้ลูกไม่โฟกัสกับการกินข้าวแต่มุ่งความสนใจไปที่การเล่นแทน ทั้งนี้ ควรหั่นอาหารในขนาดที่เหมาะสม ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป หลีกเลี่ยงอาหารที่เป็นทรงหลม และควรหั่นให้มีความยาวเท่านิ้วชี้ เพื่อที่ลูกจะได้หยิบกินสะดวกค่ะ
6. ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการของลูกน้อยอย่างรอบด้าน
การให้ลูกน้อยได้นั่งกินอาหารเอง จะช่วยกระตุ้นและฝึกพัฒนาการด้านการกินอาหาร การเคี้ยวอาหาร การใช้กล้ามเนื้อมือและแขน รู้จักแยกแยะรสชาติอาหารที่แตกต่าง สมองได้ทำงานประสานกันระหว่างมือและตา ทำให้มีพัฒนาการมองเห็น ทำให้ลูกรู้จักสีสันและหน้าตาของอาหารประเภทต่างๆ ดีขึ้น นอกจากนี้ ยังพัฒนาด้านอารมณ์จิตใจ เพราะลูกจะมีความสุขกับการได้กินอาหารเอง สนุกกับการหยิบจับและเลือกอาหารต่างๆ ที่สามารถตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง ที่สำคัญยังช่วยทำให้ลูกน้อยมีความมั่นใจในตัวเอง รู้ว่าตัวเองมีความสำคัญ เมื่อคุณพ่อคุณแม่และผู้ใหญ่ให้เขาได้นั่งกินอาหารด้วยกันและมีอิสระในการกิน
7. ช่วยสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้ใหญ่มากขึ้น
การใช้โต๊ะกินข้าวของเด็กนั้นส่งผลดีต่อคุณพ่อคุณแม่ด้วย เพราะคุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องเดินตามป้อนข้าวลูก ทำให้ไม่เหนื่อยเกินไป มื้ออาหารของลูกน้อยไม่ใช่เรื่องยากลำบากอีกต่อไป ลูกน้อยก็นั่งอยู่ในสายตา ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยหากเทียบกับให้ลูกเดินไปกินไป รวมทั้งคุณแม่ก็ไม่ต้องคอยเดินไปเดินมาเพื่อคอยทำความสะอาดเศษอาหารเวลาลูกกินเลอะเทอะ และแม้ว่าการนั่งกินอาหารบนโต๊ะของลูกเองจะเลอะเทอะเปรอะเปื้อนก็สามารถทำความสะอาดได้ง่ายและทำความสะอาดได้อย่างรวดเร็ว ไม่เปลืองแรงเปลืองเวลาค่ะ
BabyGift แนะนำสินค้าที่ช่วยให้การกินข้าวของลูกน้อยสะดวกสบายมากขึ้น

1. PRINCE & PRINCESS เก้าอี้ฝึกกินข้าว Fairy Plus
เก้าอี้ฝึกกินข้าวสำหรับเด็กรุ่น Fairy Plus ของแบรนด์ Prince & Princess นั้นเข้าใจถึงไลฟ์สไตล์คุณแม่คนไทยที่ต้องผลัดกันดูแลลูก ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อคุณแม่ หรือคุณย่าคุณยาย พี่เลี้ยง ซึ่งต้องผลัดกันป้อนอาหารให้กับลูกน้อย และมีความกังวลในเรื่องความปลอดภัย จึงได้พัฒนาเก้าอี้ฝึกทานข้าวรุ่น Fairy Plus ออกมาให้ตอบโจทย์มากกว่าที่เคย ให้ลูกน้อยนั่งกินข้าวเองได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบาย ตอบโจทย์ความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ในยุคปัจจุบัน
จุดเด่น
- สามารถปรับความสูงได้ 7 ระดับ ตั้งแต่ 25 เซนติเมตร – 60 เซนติเมตร
- รองรับน้ำหนักได้มาก มีความแข็งแรงปลอดภัยด้วยรางล็อคเหล็กแบบตะขอเกี่ยว ไม่เสี่ยงต่อการหลุดร่วงลงมา
- พนักพิงเก้าอี้ สามารถปรับเอนนอนได้ 3 ระดับ เหมาะกับการใช้นั่งพักหลังมื้ออาหาร ป้องกันไม่ให้ลูกน้อยเป็นกรดไหลย้อน หรือแหวะนม เมื่อเทียบกับการพาลูกนอนราบบนที่นอน
- มีล้อหน้า-หลัง และตัวล็อคล้อเพื่อความปลอดภัย เคลื่อนย้ายได้สะดวก และหากไม่ใช้งานสามารถพับเก็บได้ง่ายภายใน 1 วินาที
- ถาดอาหารมีขนาดใหญ่ มี 2 ชั้น มีคุณสมบัติ BPA Free (ปราศจากสาร Bisphenol A ที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย) และเป็นวัสดุ Food Grade ปลอดภัยไม่มีสารตกค้าง สามารถถอดแยกไปทำความสะอาดได้
- พนักพิงเก้าอี้กว้างรองรับช่วงสรีระของลูกน้อยได้จนโต มีสายรัดนิรภัยเพื่อป้องกันลูกร่วงตกจากเก้าอี้
- เบาะรองนั่งเป็นนวัตกรรม Cotton Cushion เสริมความหนานุ่มนั่งสบาย สามารถถอดซักได้ และเบาะ PU ที่เป็นวัสดุกันน้ำไม่ซึม เช็ดทำความสะอาดได้

2. PRINCE & PRINCESS เครื่องนึ่งขวดนม STEAM & DRY
เครื่องนึ่งขวดนม STEAM & DRY จากแบรนด์ PRINCE & PRINCESS นึ่งฆ่าเชื้อพร้อมอบแห้ง มีฟังก์ชั่นพิเศษที่สามารถอุ่นนมและเตรียมอาหารให้ลูกน้อยได้ด้วย มีทั้งโหมดอุ่นนม โหมดนึ่งอาหาร โหมดอบผลไม้แห้ง และโหมดทำโยเกิร์ต นอกจากจะสามารถนึ่งขวดนมได้แล้ว ยังสะดวกสบายต่อการเตรียมอาหารให้กับลูกรักอีกด้วย
จุดเด่น
- มี 8 โหมดทำงานอัจฉริยะ เป็นได้มากกว่าเครื่องนึ่งขวดนม ได้แก่ โหมด Auto นึ่งฆ่าเชื้อขวดนมพร้อมอบแห้ง / โหมด Steam นึ่งฆ่าเชื้อขวดนม / โหมด Dry อบแห้งขวดนม / โหมด S-Dry จัดเก็บปลอดเชื้อ 48 ชั่วโมง และโหมดเตรียมอาหารอีก 4 โหมด ได้แก่ อุ่นนม นึ่งอาหาร อบแห้งผลไม้ และทำโยเกิร์ต
- ตะแกรงและถาดนึ่งแบบใหม่ ใช้วัสดุ PP ทนความได้ร้องสูง ไม่ขึ้นสนิม
- ฆ่าเชื้อโรค 99.9 เปอร์เซ็นต์ มีผลทดสอบจากสถาบันระดับสากล
- สะอาดทั่วถึง ฆ่าเชื้อได้ 360 องศาด้วยระบบไอน้ำหมุนเวียน
- อบแห้งสนิท ลมร้อนกระจายทั่วถึงทุกขวด ลดปัญหากลิ่นอับ
- มีขนาดใหญ่พิเศษ จุได้สูงสุด 14 ขวด ไร้แกนกลาง จัดวางได้เต็มพื้นที่
- ใช้งานง่าย สั่งงานด้วยระบบ Touch Screen
- วัสดุปลอดภัยไร้กังวล ใช้วัสดุ Food Grade / BPA Free (ปราศจากสาร Bisphenol A ที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย)
- รับประกันนาน 24 เดือน

3. Minimono – แผ่นรองกันเปื้อน อเนกประสงค์ แบบใช้แล้วทิ้ง
แผ่นรองกันเปื้อนอเนกประสงค์ แบบใช้แล้วทิ้งจากแบรนด์ Minimono มีขนาดใหญ่ สามารถกันน้ำได้ 100 เปอร์เซ็นต์ เป็นวัสดุ BPA FREE ปลอดภัยไร้สารอันตราย สามารถใช้ปูรองพื้น พรม โซฟา เพื่อป้องกันการเลอะเทอะ ใช้เพื่อรองพื้นหรือรองโต๊ะขณะฝึกลูกกินอาหารเอง หรือรองพื้นในขณะที่ลูกทำกิจกรรมศิลปะอย่างการใช้สีน้ำ หรือใช้ปูรองพื้นเวลาไปนั่งเล่นในสวน เป็นต้น
จุดเด่น
- ขนาดใหญ่ 100 x 120 เซนติเมตร รองเก้าอี้กินข้าวเด็กได้หลายแบบ
- BPA FREE ปราศจากสารพิษ ไร้สารเคมี เด็กใช้ได้อย่างปลอดภัย
- Waterproof Lamination เคลือบฟิล์มกันน้ำ 100 เปอร์เซ็นต์ ป้อนกันการซึมเปื้อนได้ดี
- กระบวนการผลิต Non-Toxic ลดการปล่อยมลพิษ สาเหตุการเกิดภาวะโลกร้อน
- เป็น Eco Friendly Paper ใช้กระดาษธรรมชาติ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สามารถย่อยสลายได้
- ผิวกระดาษสัมผัสสบาย ไม่ระคายเคือง
- ดีไซน์ทันสมัย ลวดลายน่ารัก เสริมสร้างจินตนาการให้กับลูกน้อย
- ใช้สำหรับรองพื้นได้เอนกประสงค์ เช่น รองเปลี่ยนผ้าอ้อม รองโต๊ะคอมพิวเตอร์ รองโต๊ะอาหาร และอื่นๆ
- 1 กล่อง มี 3 ม้วน / 1 ม้วน มี 10 แผ่น / รวม 30 ชิ้น

4. TIDY TOT ชุดถาดและเสื้อกันเปื้อน
อุปกรณ์ที่ช่วยให้ลูกน้อยกินข้าวได้อย่างสะดวกสบายไม่ต้องกลัวเลอะเทอะ เป็นชุดถาดและเสื้อกันเปื้อนจากแบรนด์ TIDY TOT แบรนด์จากประเทศอังกฤษ ชุดถาดและเสื้อสามารถถอดแยกชิ้นและพับเก็บได้ เหมาะสำหรับเด็กเล็กอายุ 6 – 24 เดือน ช่วยป้องกันเศษอาหารหล่นตามซอกโต๊ะและคราบสกปรกติดเสื้อ วัสดุทำจาก TPU Food Gade พิเศษ ปราศจากสาร BPA ที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย พร้อมใบรับรองจากประเทศอังกฤษ ใช้ได้อย่างปลอดภัยไร้กังวลค่ะ
จุดเด่น
- ตัวถาดกว้าง 80 เซนติเมตร ช่องที่นั่งมีความกว้าง 43 เซนติเมตร ขอบถาดสูง 43 เซนติเมตร
- มีจุ๊บใต้ถาดดูดแน่นติดกับโต๊ะ ลูกดึงไม่ออก ป้องกันถาดหกเลอะเถอะ
- สามารถวางอาหารบนถาดได้เลย ใช้ได้กับ High chair ทุกรุ่น และเก้าอี้กินข้าวสำหรับเด็กทุกรุ่น
- ไม่ทิ้งคราบและรอยอาหารบนถาดและเสื้อ
- เสื้อกันเปื้อนเนื้อผ้านิ่ม ไม่ร้อน ระบายอากาศได้ดี ช่วงคอสามารถปรับระดับได้
- เสื้อกันเปื้อนสามารถซักทำความสะอาดได้ในเครื่องซักผ้า
- ตัวถาดพับเก็บได้ พกพาสะดวก สามารถใช้ทำกิจกรรมอื่นๆ เช่น เล่นระบายสี หรือปั้นแป้งได้อีกด้วย
สำหรับคุณพ่อคุณแม่คนไหนที่กำลังมองหาโต๊ะเก้าอี้กินข้าวสำหรับเด็กโดยเฉพาะและไม่รู้ว่าจะเลือกอย่างไรดี ก็น่าจะได้แนวทางการเลือกไปบ้างแล้วนะคะ โต๊ะกินข้าวสำหรับเด็กนั้นมีข้อดีอยู่หลายอย่างด้วยกัน ถ้าเลือกสินค้าที่มีคุณภาพ มีความแข็งแรงทนทาน สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน ก็มีความคุ้มค่ามากทีเดียวค่ะ หรือถ้ายังไม่แน่ใจว่าจะเลือกซื้อแบบไหน สามารถมาเยี่ยมชมสินค้าได้ที่ BabyGift ร้านจำหน่ายสินค้าแม่และเด็กระดับคุณภาพ มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี คุณพ่อคุณแม่สามารถมาเยี่ยมชมสินค้าต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะกินข้าวของเด็ก หรือสินค้าอื่นๆ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ร้านเบบี้กิ๊ฟทั้ง 5 สาขา ใกล้บ้าน หรือสอบถามผ่านช่องทาง Online ทีมงาน BabyGift ยินดีให้คำแนะนำค่ะ
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
ใครๆ ก็รู้ว่าน้ำนมแม่สำคัญต่อพัฒนาการของลูกน้อยมากแค่ไหน แต่น้ำนมของคุณแม่แต่ละคนไม่ได้มีเยอะเท่ากันใช่มั้ยหล่ะคะ บางคนก็เยอะ บางคนก็น้อย บางคนก็ไม่มี ดังนั้นการกระตุ้นน้ำนมอย่างถูกวิธีมีความสำคัญอย่างมากต่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ซึ่งเป็นวิธีการเลี้ยงดูที่ดีที่สุดสำหรับทารกในช่วงแรกเกิด และในบทความนี้ BabyGift จะพาคุณแม่ไปรู้จักกับวิธีกระตุ้นน้ำนมกันค่ะว่าจะมีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยแม่ๆ ที่มีปัญหาเรื่องน้ำนมได้บ้าง แชร์วิธีกระตุ้นน้ำนมแม่ ทำยังไงให้คุณแม่มีน้ำนมเพียงพอ ส่งต่อสุขภาพดีๆ ให้ลูก การกระตุ้นน้ำนมแม่มีความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายผลิตน้ำนมให้เพียงพอต่อความต้องการของทารก เพราะน้ำนมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารกในช่วง 6 เดือนแรก ซึ่งจะช่วยให้ทารกได้รับสารอาหารครบถ้วน เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และช่วยให้ร่างกายทารกเจริญเติบโตอย่างเต็มที่และแข็งแรง แถมยังเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์แม่ลูกให้แน่นแฟ้น เพราะในขณะที่แม่ให้นมลูก จะเกิดการหลั่งฮอร์โมนความรักและผูกพันกัน ช่วยเสริมสร้างความรู้สึกอบอุ่น ความปลอดภัยให้แก่ทารกค่ะ เอาหล่ะค่ะ แล้ววิธีกระตุ้นน้ำนมแม่มีอะไรบ้าง เรามาดูกันต่อเลยค่ะ วิธีกระตุ้นน้ำนมแม่ มีอะไรบ้าง ? มีหลายวิธีในการกระตุ้นการไหลของน้ำนมแม่ค่ะ เป็นวิธีง่ายๆ ที่ทำได้จริง ซึ่งการทำตามวิธีเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอและถูกวิธี จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายผลิตน้ำนมได้อย่างเต็มที่ มาดูกันค่ะ 1. การดื่มน้ำ : และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ : วิธีง่ายๆ แต่ส่งผลต่อปริมาณและคุณภาพของน้ำนมแม่ คุณแม่ลองใส่ใจในการกินอาหารให้มากขึ้น เช่น ถั่วงอก ข้าวกล้อง น้ำผลไม้ กระเจี๊ยบเขียว […]
หนาวนี้แม่ๆ มีแพลนพาลูกๆ ไปเที่ยวที่ไหนกันคะ… สำหรับบ้านนี้ เราจะไปญี่ปุ่นกันค่ะ เราแพลนและจองตั๋วกันไว้ตั้งแต่ พ.ย. ที่แล้ว เลือกไปช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี จุดหมายคือ อยากพาลูกสาว น้องเจเปค ไปดูภูเขาไฟภูจิและเดินเที่ยวในโตเกียว อยากให้เค้าเห็นการใช้ชีวิตที่เป็นระเบียบมากๆ ของคนญี่ปุ่นค่ะ (เพราะอยู่บ้านนางจะกรี๊ดกร๊าดหน่อยๆ) ควรพาลูกเที่ยวตอนอายุเท่าไหร่… เป็นคำถามที่แม่ๆ กังวล กลัวนู้นนี่ รวมถึงเสียงจากรอบข้างว่าน้องยังเล็ก เที่ยวไปก็จำอะไรไม่ได้ แต่บ้างบ้านก็อยากใช้สิทธิ์ค่าตั๋วราคาพิเศษสำหรับเด็ก 7 วัน – ไม่เกิน 2 ปี ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละสายการบิน สำหรับน้องเจเปค ครั้งนี้เป็นการไปญี่ปุ่นครั้งที่ 2 ขอเล่าย้อนหลังนิดนึงค่ะ ครั้งแรกของน้องไปตอน 1 ขวบ 1 เดือน เป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสีที่โอซาก้า อย่างที่บอกไปตอนต้น ว่าเสียงรอบ ๆ ตัวที่บอกว่าน้องยังเล็กไป พาไปก็ไม่รู้เรื่องหรอก จำอะไรไม่ได้หรอก แต่หลังจากกลับมาจากรอบแรก หลายครั้งที่น้องเจออะไรเกี่ยวกับที่ตัวเองเคยทำที่นู่น ไม่ว่าจะเป็นขึ้นรถไฟ โหนรถไฟ ใบไม้แดง อาหารญี่ปุ่น น้องจำได้เยอะจนทุกคนงงไปเหมือนกัน เราพ่อแม่ก็แฮปปี้สิคะ จริงๆแล้วลูกสามารถจดจำเรื่องราวต่างๆได้ แต่อาจจะจำได้ไม่ละเอียดเหมือนผู้ใหญ่ เด็กวัย […]
“เวลาลูกสาววัย 5 เดือนดูดนมแม่ จะมีเหงื่อออกมาก โดยเฉพาะที่ศีรษะจะเปียกตลอดเลยทั้งที่อยู่ในห้องแอร์ ถือเป็นอาการผิดปกติหรือเปล่า” เด็กต้องการพลังงานเทียบกับน้ำหนักตัวสูงกว่าผู้ใหญ่ เนื่องจากต้องใช้เพื่อการเจริญเติบโตและสร้างเนื้อเยื่อ อวัยวะต่างๆจึงต้องการใช้พลังงานสูงมาก เช่น เพื่อการสร้างเซลสมอง การสร้างเซลกล้ามเนื้อ ในขณะที่ผู้ใหญ่ต้องการพลังงานเพื่อการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ กล้ามเนื้อหัวใจในเด็กทารกเป็นเซลกล้ามเนื้อชนิดที่ล้าง่าย ต้องการพลังงานสูง ชีพจรของเด็กจึงเต้นเร็วกว่าผู้ใหญ่ เด็กแรกเกิดชีพจรเต้น 140 ครั้งต่อนาที และลดลงเรื่อยๆเมื่อเด็กเติบโตขึ้น จนเป็น 60-80 ครั้งต่อนาทีเมื่อเป็นผู้ใหญ่ ดังนั้นความร้อนที่เกิดขึ้นจากการเผาผลาญพลังงานก็ย่อมมีมาก การระบายความร้อนออกจากร่างกายทำได้โดยการขับออกเป็นเหงื่อ ดังนั้นการที่เห็นว่าทารกนอนดูดนมเฉยๆ ทำไมถึงมีเหงื่อเยอะจัง เพราะภายในร่างกายของเขามีการทำงานอยู่ตลอดเวลา จึงไม่ผิดปกติค่ะ ขณะที่ผู้ใหญ่จะใช้พลังงานสูงเท่ากับที่เด็กทารกต้องการ ก็ต่อเมื่อมีการออกกำลัง จนชีพจรเต้นเร็วเท่ากับเด็กทารก ถึงเวลานั้นเราก็มีเหงื่อออกเต็มตัวเหมือนเด็กทารกเวลาดูดนมเช่นกัน อย่างไรก็ดีมีโรคบางอย่างที่ทำให้ทารกมีเหงื่อออกมากผิดปกติกว่าเด็กคนอื่น เช่น โรคหัวใจ โรคธัยรอยด์เป็นพิษ แต่ลูกควรมีอาการผิดปกติอย่างอื่นร่วมด้วย เช่น เลี้ยงไม่โต ดูดนมแล้วดูเหนื่อยต้องหยุดเป็นพักๆ ตรวจร่างกายฟังได้ยินเสียงผิดปกติที่หัวใจ หากสงสัยว่าลูกเป็นโรคเหล่านี้ ให้ปรึกษากุมารแพทย์ได้ค่ะ หากตรวจแล้วพบว่าลูกปกติดี การมีเหงื่อออกเวลาดูดนม นอกจากช่วยระบายความร้อนแล้วยังช่วยให้ต่อมเหงื่อทำงานขับของเสียออกทางผิวหนังอีกทางหนึ่ง จึงไม่จำเป็นต้องเปิดแอร์ให้ลูกตลอดเวลา เพียงใส่เสื้อผ้าที่ระบายความร้อนได้ง่าย และอยู่ในที่อากาศถ่ายเทจะดีกว่าค่ะ >>>ขอบคุณข้อมูล : สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ
SIDS หรืออาการภาวะไหลตาย เป็นอีกหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เด็กทารกแรกเกิดเสียชีวิต ถือเป็นอีกสิ่งที่คุณพ่อ และคุณแม่ควรให้ความใส่ใจ และหาทางป้องกันไม่ให้เกิดอาการดังกล่าว ทาง BABY GIFT EXPERT จึงอยากพาคุณพ่อ คุณแม่ทุกคน มาทำความเข้าใจกันว่า SIDS คืออะไร และสามารถป้องกันได้อย่างไร SIDS คืออะไร นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ ได้อธิบายถึงภาวะ SIDS (Sudden Infant Death Syndrome) หรือภาวะไหลตายไว้ว่า เป็นภาวะเสียชีวิตขณะนอนหลับ เกิดขึ้นได้แม้ในทารกที่มีสุขภาพแข็งแรงดี พบบ่อยในช่วงอายุเด็กแรกเกิดถึง 1 ปี และพบบ่อยที่สุดในช่วงที่อายุ 2-4 เดือน โดยส่วนมากมักจะพบในเด็กผู้ชายมากกว่าเด็กผู้หญิง สาเหตุของการเกิดภาวะ SIDS SIDS มีสาเหตุมาจากการกีดขวางการหายใจของทารกขณะนอนหลับ เช่น การจัดท่าให้ทารกนอนคว่ำ หรือนอนตะแคง การที่มีผ้าห่มหรือวัตถุนิ่มๆปิดหน้าทารกขณะนอนหลับ การถูกผู้ใหญ่นอนทับ เป็นต้น เนื่องจากทารกยังไม่สามารถเคลื่อนไหวศีรษะได้ดี ปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงของภาวะนี้ คือ ทารกเกิดก่อนกำหนด ควันบุหรี่ และอุณหภูมิห้องนอนที่ร้อน ซึ่งอุณหภูมิห้องนอนที่เหมาะสมของทารกคือ […]
รวมสุดยอดวิธี เลือกเป้อุ้มทารก เพราะเป้อุ้มเด็ก เป็นเครื่องทุ่นแรงที่สำคัญยิ่งสำหรับคุณแม่ ที่เรียกได้ว่าคืออุปกรณ์คู่กายคู่ใจที่พาคุณแม่และลูกน้อยไปทำกิจวัตรด้วยกันได้เสมอ เป้อุ้มลูกนี้จึงเป็นหนึ่งในสิ่งอำนวยความสะดวกประจำบ้านที่กำลังเลี้ยงลูกอ่อน ยิ่งเป็นครอบครัวเล็กที่คุณแม่ต้องเลี้ยงลูกคนเดียวไม่มีคนมาช่วยเลี้ยงลูก ในช่วงเวลาที่คุณพ่อไปทำงานนอกบ้าน ยิ่งถือเป็นของใช้ที่จะช่วยให้คุณแม่ทำงานและกิจกรรมอื่นๆได้ พร้อมเลี้ยงลูกได้แบบเบ็ดเสร็จ ซึ่งในยุคสมัยที่การหาเงินได้ฝืดเคือง และข้าวของใช้ราคาสูงเช่นนี้ การเลือกซื้อเป้อุ้มลูกทั้งที เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่จะต้องพิจารณาอย่างถ้วนถี่ และเลือกใช้ให้คุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่าย แต่จะรู้ได้อย่างไร? ว่าเป้อุ้มเด็กแบบไหนดี ทนทานปลอดภัย ใช้งานได้นานจนลูกโต ลองมาอ่านเทคนิคดีๆ เหล่านี้กันเลย 1. ตอบโจทย์การใช้งาน การเลี้ยงลูกของครอบครัว นั่นคือการเลือกให้ตรงกับสไตล์การเลี้ยงลูกของครอบครัว การทำงานของคุณพ่อคุณแม่และการเดินทางของคนในบ้าน ซึ่งต้องคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ได้แก่ ขนาดของครอบครัวและคนช่วยเลี้ยงลูก เพราะหากเป็นครอบครัวเล็ก คุณแม่ต้องเลี้ยงลูกคนเดียว คุณพ่อไปทำงาน จำเป็นต้องใช้เป้อุ้มลูก สำหรับเวลาทำงานบ้าน ทำธุระหรือจำเป็นต้องออกไปซื้อของนอกบ้าน แม้แต่เป็นครอบครัวใหญ่ อาจจะได้ใช้เวลาคุณแม่ต้องทำธุระ ผลัดกันใช้เวลาเดินทางไปข้างนอก สิ่งของที่ใช้กับลูก เวลาที่ต้องพาลูกออกนอกบ้าน เพราะหากคุณพ่อคุณแม่มีข้าวของเครื่องใช้ที่ไม่ต้องพกไปมาก การใช้เป้อุ้มเด็กก็จะทำให้สะดวก พ่อแม่ถือของใช้ และซื้อของได้สบาย ไม่ต้องใช้มืออุ้มหรือเข็นลูก หรือหากเวลาไปไหนที่ต้องใช้พื้นที่จำกัดการใช้เป้อุ้มเด็กก็จะไม่ต้องเปลืองพื้นที่เพราะพับเก็บได้ พกพาง่ายกว่ารถเข็น การเดินทางของครอบครัว หมายถึงสังเกตการใช้ชีวิตของครอบครัวว่า ต้องออกไปต่างจังหวัด หรือไปเยี่ยมญาติบ่อยหรือเปล่า ใช้เวลาพาลูกออกนอกบ้านนานแค่ไหน หากต้องไปที่ไหนไม่นานนัก การใช้เป้อุ้มเด็กจะมีความคล่องตัวสะดวกกว่ารถเข็น แต่หากต้องใช้เวลาเดินหรือยืน เดินทางนานเป็นชั่วโมง อาจเลือกใช้รถเข็นจะดีกว่า […]
คาร์ซีท AILEBEBE กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศไทย เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่มั่นใจว่าได้รับคาร์ซีทของแท้และนำเข้าถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมบริการหลังการขายที่ใส่ใจเหมือนครอบครัว เราขอแนะนำให้ตรวจสอบ 2 ขั้นตอนง่าย ๆ นี้เลยค่ะ วิธีตรวจสอบคาร์ซีท AILEBEBE ของแท้ 1. ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์ว่ามีคำแนะนำเป็นภาษาไทยหรือไม่ ? คาร์ซีท Ailebebe ของแท้จะมีฉลากและคำแนะนำการใช้งานเป็นภาษาไทย เช่น ชื่อผลิตภัณฑ์, ข้อมูลผู้ผลิต, วิธีการใช้งาน, และคำเตือนด้านความปลอดภัย ตามที่กฎหมายประเทศไทยกำหนด การมีฉลากภาษาไทยนี้ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่มั่นใจในการใช้งานอย่างถูกต้องและปลอดภัย 2. ตรวจสอบว่ามีสติกเกอร์ BabyGift ตัวแทนนำเข้า Offical หรือไม่ ? คาร์ซีท Ailebebe ของแท้ จะมีการรับประกันและใช้อะไหล่แท้จากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งสามารถหาได้เฉพาะจากตัวแทน Official เท่านั้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากสินค้าที่อาจไม่ได้มาตรฐานและไม่ปลอดภัยสำหรับลูกน้อย เพียงแค่นี้คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถมั่นใจได้ว่ากำลังซื้อสินค้าของแท้นำเข้ามาถูกต้อง ใช้ได้อย่างถูกวิธีช่วยให้ลูกน้อยปลอดภัยทุกการเดินทาง หยุดเสี่ยง หยุดใช้คาร์ซีท Ailebebe นำเข้าผิดกฎหมาย การซื้อคาร์ซีท Ailebebe จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของลูกน้อยดังนี้ค่ะ 1.ความเสี่ยงจากการใช้งานคาร์ซีทไม่ถูกต้อง ผู้ลักลอบจำหน่ายมักขาดความรู้และความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับสินค้า วิธีการใช้งาน และคำแนะนำตามมาตรฐานที่แบรนด์กำหนด เนื่องจากไม่ได้รับการอบรมจากทีมงานผู้เชี่ยวชาญของ Ailebebe […]

ร้านสินค้าแม่และเด็กที่คัดสรรนวัตกรรมของใช้แม่และเด็กที่มี
คุณภาพให้คำปรึกษาและบริการ อย่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อช่วยให้การเลี้ยงลูกเป็นเรื่องง่าย ปลอดภัย และมีความสุข
Online Shopping
สาขา ปิ่นเกล้า ราชพฤกษ์
สาขา Mega บางนา
สาขา Central World
สาขา The Crystal รามอินทรา
สาขา BTS วงเวียนใหญ่ (Outlet)
Copyright 2024 © Baby Gift (Retail) Co., Ltd.