ผลทดสอบประสิทธิภาพของ Blue Water

เครื่องผลิตน้ำเกลือฆ่าเชื้อโรค Blue Water นวัตกรรมการฆ่าเชื้อโรครูปแบบใหม่ ที่ใส่ใจในสุขภาพ และความคุ้มค่า จึงได้คิดค้นวิธีที่จะสามารถ “ผลิตน้ำเกลือฆ่าเชื้อโรค” เองได้ที่บ้านง่าย ๆ โดยเป็นสูตร Organic 100% เพียงมี “น้ำประปา เกลือ และเครื่อง Blue Water” ที่ทำหน้าที่ปล่อยประจุไฟฟ้า ส่งผ่านไปยังน้ำ ทำให้อะตอมของน้ำแตกตัว จนเกิดปฏิกิริยา Oxidation และเกิดเป็นสารประกอบใหม่ขึ้นมา นั่นก็คือ ไฮโปคลอรัส เอซิส HOCl และ ไฮโปคลอไรท์ ไอออน OCl- ซึ่งกรดไฮโปคลอรัส คือกรดชนิดเดียวกันกับที่ร่างกายมนุษย์ผลิตขึ้นมาได้เองในเม็ดเลือดขาว เพื่อฆ่าเชื้อโรคภายในร่างกายนั่นเอง ซึ่งเมื่อนำน้ำที่ผลิตจากเครื่อง Blue Water ไปตรวจวัดประสิทธิภาพที่สถาบันวิจัยนานาชาติ และได้ผลรับรองมาดังนี้

ผลวิจัยพิสูจน์แล้วว่า น้ำเกลือฆ่าเชื้อที่ผลิตจากเครื่อง Blue Water สามารถฆ่าเชื้อโรคต่าง ๆ ที่เป็นตัวต้นกำเนิดของโรคต่าง ๆ ได้ถึง 99.9% ภายในเวลา 30 วินาที



นอกจากสามารถฆ่าเชื้อโรคได้แล้ว ได้มีการทดสอบประสิทธิภาพในการกำจัดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ต่างๆ ได้แก่
- กลิ่นของแอมโมเนีย (Ammonia) ซึ่งมีกลิ่นฉุน โดยปกติแล้วจะใช้ในการปฐมพยาบาลแก่คนที่เป็นลมหมดสติ เพราะมีฤทธิ์ในการกระตุ้นหัวใจให้ทำงาน แต่หากได้รับในปริมาณมากเกินไปจะส่งผลเสียต่อร่างกาย
- กลิ่น Trimethylamine คือกลิ่นเหม็นที่เกิดจากการเก็บรักษาสัตว์น้ำ หรือที่คุ้นเคยกันคือ กลิ่นเหม็นคาวปลา กุ้ง ปู หอย ปลาหมึก
- กลิ่น Hydrogen Sulfide คือกลิ่นก๊าซพิษที่เกิดในท่อระบายน้ำเสีย หรือในที่ ๆ ไม่มีอากาศถ่ายเท
- กลิ่น Methyl Mercaptan คือกลิ่นจากสารที่เติมในแก๊สหุงต้ม ที่จะช่วยเตือนให้ทราบเวลาเกิดเหตุการณ์แก๊สรั่ว
โดยการปล่อยก๊าซเหล่านั้นในห้องจำลอง และสเปรย์น้ำฆ่าเชื้อจากเครื่อง Blue Water ไป สังเกตได้ว่า หลังผ่านไป ปริมาณก๊าซและกลิ่นก็จะลดลงเรื่อย ๆ ภายในระยะเวลา 30 นาที ได้ถึง 99%





พิสูจน์แล้วว่า น้ำฆ่าเชื้อโรคที่ได้จากเครื่อง Blue Water สามารถกำจัดยาฆ่าแมลงในผักและผลไม้ 100% เพียงแช่ไว้ 5 นาที เท่านั้น

สนใจดูประโยชน์ และวิธีการใช้งานเพิ่มเติม ได้ที่นี่ >>> คลิ๊ก
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
คุณแพรว เพชรแพรว อัครเตชวาทิน หรือแม่แพรว จากเพจ PRAEW ที่หลายคนรู้จักกันดีในบทบาทของ Influencer สายแม่และเด็ก ที่แชร์ประสบการณ์การเลี้ยงลูกเชิงบวกได้อย่างดี ซึ่งเราจะเห็นได้จากกน้อง เฌอลินน์ ลูกสาวคนโตที่โตขึ้นมาเป็นเด็กอารมณ์ดี มีความสามารถ ทำให้ใครหลายๆคนหลงกับความน่ารักของน้อง เฌอลินน์ ไปตามๆกัน และล่าสุดต้องขอแสดงความยินดีกับคุณแพรว กับการคลอดลูกคนที่ 2 ที่มีชื่อว่า เมอฌินน์ หรือฉายา เจ้าลูกชิ้น ลูกชายคนแรกของแม่แพรวด่วยค่ะ และถ้าใครเคยตาม หรือเคยเข้าไปดูเพจ PRAEW จะรู้ว่า แม่แพรวจะ Post Content ให้ความรู้ แชร์ประสบการณ์การเลี้ยงลูกไว้เป็นจำนวนมาก และล่าสุด คุณแพรวก็ได้แชร์ประสบการณ์การใช้คาร์ซีทในวันแรกที่พาน้อง เมอฌินน์ ออกจากโรงพยาบาล วันนี้ทาง BabyGift ขอนำมาแชร์ต่อค่ะ พร้อมพามาดูกันว่า คาร์ซีทที่น้อง เมอฌินน์ ใช้คือคาร์ซีทรุ่นไหน คุณแพรว ได้แชร์ไว้ว่า ทุกครั้งที่นั่งรถ แพรวต้องให้ลูกนั่งคาร์ซีททุกครั้งค่ะ เพราะสำหรับแพรวความปลอดภัยของลูกคือสิ่งที่สำคัญที่สุด สำหรับคาร์ซีทที่แพรวเลือกให้เมอคือ คาร์ซีท Ailebebe Kurutto ค่ะ อันนี้เป็นรุ่น 6 รุ่นใหม่ของเค้าค่ะ คุณแพรว ยังบอกอีกว่า ที่แพรวเลือกรุ่นนี้เพราะแพรวมั่นใจคือเรื่องความปลอดภัยของเค้าค่ะ เค้ามีเทคโนโลยีพิเศษที่เพิ่มความปลอดภัยที่ทำให้เมอปลอดภัยมากขึ้นเวลาที่นอนอยู่บนคาร์ซีท วัสดุดีมาก! มีมาตรฐานรองรับจากโรงงานประเทศญี่ปุ่นและความปลอดภัยระดับยุโรป เบาะก็ Support ดี สบาย ระบายอากาศได้ ไม่อึดอัดเลยค่ะ ปรับเอนนอนได้ นั่งทุกครั้งเมอฌินน์หลับปุ๋ยตลอด ติดตั้งง่ายด้วยระบบ Isofix ที่สำคัญที่มามี๊แฮปปี้ที่สุด […]
Q: ขวดนม อุปกรณ์ปั๊มนม ต้องต้ม หรือนึ่ง ให้ปราศจากเชื้อทุกวัน ? A: การนึ่ง หรือต้มฆ่าเชื้อขวดนมและจุกนมหลังใช้งานทุกวันจะทำให้ขวดนมพลาสติกและจุกนมเสื่อมสภาพเร็วขึ้นกว่าปกติ และไม่ได้ช่วยป้องกันโรคให้ทารกเพิ่มขึ้นมากไปกว่าล้างด้วยน้ำสบู่อุ่น ๆ หรือล้างด้วยน้ำร้อนผสมน้ำยาล้างขวดนมหลังใช้งาน การขยันทำให้ปลอดเชื้อมากเกินไป (over-sterilize) ไม่มีประโยชน์กลับเป็นการสร้างสิ่งแวดล้อมให้เชื้อที่ทนความร้อน และสร้างสปอร์ได้เพิ่มมากขึ้น (เพราะคุณไม่ได้ใช้หม้อความดัน หรือฉายรังสี) และทารกจะอาจได้สารพวกโพลีเมอร์ หรือฟอร์มัลดีไฮด์ปนเปื้อนออกมาจากพลาสติกที่เสื่อมสภาพแทน สมาคมกุมารแพทย์อเมริกัน และ USFDA แนะนำให้ต้มหรือนึ่งฆ่าเชื้อขวดนม และอุปกรณ์ปั๊มนมเฉพาะครั้งแรกที่ใช้งานจากนั้นให้ล้างด้วยน้ำสบู่ หรือน้ำยาล้างขวดนมผสมน้ำอุ่น ทุกครั้งหลังใช้งานก่อนผึ่งให้แห้ง โดยไม่ให้้ใช้ผ้าเช็ด กรณีที่ต้องต้มหรือนึ่งฆ่าเชื้อทุกวันคือช่วงทารกป่วย เช่น ท้องร่วง หรือ เป็นฝ้าขาวในปาก คุณแม่ที่กังวลอาจนึ่งหรือต้ม ทุก 3-4 วัน สำหรับนมชง ทุก 1 สัปดาห์สำหรับนมแม่ทั้งนี้ จะต้องไม่มีการปล่อยให้นมบูดคาขวด (ถ้านมบูดคาขวดต้องต้มหรือนึ่งฆ่าเชื้อใหม่เสมอ) อย่างไรก็ตามไม่มีกฎตายตัว หากบ้านมีสภาพแวดล้อมที่ไม่สะอาด อยู่ใกล้แหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรค อาจพิจารณาต้มหรือนึ่งให้บ่อยขึ้น สำหรับประเทศไทยที่มีภูมิอากาศร้อนชื้นมีโรคเขตร้อนที่เป็นโรคทางเดินอาหารมาก และประชากรมีสุขอนามัยไม่แน่นอน กุมารแพทย์ไทยหลายท่านอาจแนะนำให้คุณแม่ต้มหรือนึ่งขวดนมทุกวัน และกรณีที่ห้องครัวมีความสกปรกอับชื้นท่อน้ำไม่สะอาด หรือมีกระบะทรายแมวในห้องครัว (ซึ่งไม่ควรมี) คุณแม่อาจเลี่ยงไปตากขวดนม และจุกนมที่อื่นที่มีอากาศถ่ายเทคุณแม่ที่ปั๊มนมห้ามใช้สบู่เหลวในห้องน้ำที่ทำงานล้างขวดนม หรือ […]
มาทำความรู้จักกับโรค Shaken Baby Syndromeสำหรับพ่อแม่คนไทยอาจไม่คุ้นหูกับโรคนี้ แต่ในต่างประเทศโรคนี้มีโอกาสเกิดขึ้นได้ง่ายๆ กับคุณแม่มือใหม่ มิหนำซ้ำความรุนแรงยังอันตรายถึงชีวิตของลูกน้อย โรค Shaken Baby Syndrome คือโรคที่มักพบในเด็กที่อายุน้อยกว่า 1 ปี เกิดจากการที่พ่อแม่จับลูกเขย่าแรงๆ อาจจะด้วยความตั้งใจหรือไม่นั้น แรงเขย่าจะทำให้เนื้อสมองกระแทกกับกะโหลกศีรษะ จนสมองได้รับการกระทบกระเทือนและมีเลือดออก เพราะเส้นเลือดในสมองของเด็กเล็กๆยังไม่แข็งแรง โอกาสที่มีการฉีกขาดจึงมีมากกว่าผู้ใหญ่ สาเหตุที่ทำให้ทารกเป็น Shaken Baby Syndrome จนทำให้พิการ หรือถึงขั้นเสียชีวิตเพราะการเขย่ารุนแรงจนมีภาวะเสี่ยงเป็นโรค Shaken Baby Syndrome นี้ มักจะไม่ทิ้งร่องรอยที่ร่างกายภายนอก ทารกจึงไม่ได้รับการรักษา เมื่อปล่อยทิ้งไว้นานก็อาจมีปัญหาด้านการเรียนรู้ สติปัญญา อาจเกิดอาการเป็นลมชัก ตาบอด หรือร้ายแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ วิธีสังเกตอาการภาวะเสี่ยงเป็น Shaken Baby Syndrome– อาการอาเจียน หรือหายใจลำบาก ซึ่งอาจดูไม่รุนแรง คล้ายภาวะปวดท้อง ช่วง 3 เดือนแรก(Baby Colic) เมื่อพาลูกน้อยไปพบแพทย์ ต้องบอกด้วยว่าเด็กโดนเขย่าอย่างรุนแรง หากเกิดภาวะเสี่ยงเป็น Shaken Baby Syndrome […]
Hypochlorous Acid หรือ HOCl คืออะไร? Hypochlorous Acid หรือ กรดไฮโปคลอรัส มีชื่อเรียกทางเคมีว่า HOCl นั้น เป็นกรดอ่อน ๆ ชนิดหนึ่งที่ถูกผลิตขึ้นโดยธรรมชาติโดยเซลล์เม็ดเลือดขาวในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิดเพื่อการรักษาและการปกป้องร่างกาย ซึ่งกรดไฮโปคลอรัส มีคุณสมบัติในการกำจัดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา รวมไปถึงสปอร์ของเชื้อราได้ โดยการเข้าไปทำลายผนังหุ้มเซลล์ของเชื้อโรค เพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคเหล่านั้น เนื่องจากกรดไฮโปคลอรัส (HOCl) เป็นกรดชนิดเดียวกันกับที่อยู่ในระบบภูมิคุ้มกัน ในเม็ดเลือดขาวของร่างกายมนุษย์ จึงปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายต่อผิวบอบบาง หรือดวงตา ไม่ทำให้เกิดอาการแสบ และมีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรคมากกว่าสารฟอกขาวประเภทคลอรีนถึง 80-120 เท่า กรดไฮโปคลอรัส สามารถพบได้จาก “ น้ำอิเล็กโทรไลต์ “ ซึ่งเป็นน้ำที่ได้จากกระบวนการอิเล็กโทรลิซิส (Electrolysis) ซึ่งมีการคิดค้นครั้งแรกโดยนักฟิสิกส์และนักเคมี นามว่า ไมเคิล ฟาราเดย์ (Michael Faraday) เมื่อปีทศวรรษ 1834 โดยเขาได้คิดค้นหลักการสำคัญของกระบวนการอิเล็กโทรลิซิสตั้งเป็นกฎสองข้อเรียกกันว่า Faraday’s Laws of Electrolysis ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของวิชาไฟฟ้าเคมี (Electrochemistry) มาจนถึงทุกวันนี้ กระบวนการอิเล็กโทรลิซิส (Electrolysis) คืออะไร ? อิเล็กโทรลิซิส (Electrolysis) คือกระบวนการผ่านกระแสไฟฟ้า ด้วยเครื่องมือที่ใช้แยกสารละลายด้วยไฟฟ้า มีชื่อเรียกว่า เซลล์อิเล็กโทรไลต์ หรือ อิเล็กโทรลิติกเซลล์ ประกอบด้วย […]
เดินทางมาเกินครึ่งทางแล้วขอคารวะให้กับความสตรองของแม่ๆ แต่ยิ่งใกล้วันครบกำหนดคลอดเท่าไหร่กลับยิ่งเครียดหนักกว่าเดิม แถมร่างกายของคุณแม่ช่วงนี้ก็จะเปลี่ยนแปลงแบบเยอะมากๆ คุณแม่บ้านไหนที่กำลังกังวลเรื่องท้องเล็ก ช่วง 6 เดือนนี่แหละค่ะ ที่ท้องของคุณแม่ๆ จะเริ่มใหญ่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แถมน้ำหนักก็ยังขึ้นพรวดๆ แบบก้าวกระโดด ช่วงนี้คุณแม่จะหิวเป็นพิเศษ แถมยังต้องทานอาหารเยอะขึ้นกว่าเดิมเพราะลูกน้อยของคุณแม่กำลังช่วยใช้พลังงาน ตั้งแต่ช่วงนี้เป็นต้นไป คุณแม่อาจจะรู้สึกถึงอาการท้องแข็ง อาการท้องแข็งคือเวลาที่มดลูกของคุณแม่หดตัว ท้องของคุณแม่ก็จะแข็งนูนขึ้นมาค่ะ ซึ่งเป็นเรื่องปกตินะ ถ้าไม่ได้เกิดแบบถี่ๆ ติดต่อกัน และเพราะความเปลี่ยนแปลงเยอะแยะเหล่านี้นี่แหละ ทำให้คุณแม่อาจจะต้องดูแลช่วงครึ่งหลังนี้เป็นพิเศษ เรามาดู 6 เรื่องที่คุณแม่ท้อง 6 เดือนต้องระวังกันค่ะ 1.ความเครียดไม่ใช่เรื่องดี อันที่จริงเรื่องความเครียดก็เป็นสิ่งที่ต้องระวังตั้งแต่ตั้งครรภ์แรกๆ แล้วเนอะ แต่อย่างที่บอกค่ะ ว่าช่วงนี้คุณแม่จะเปลี่ยนไปค่อนข้างมาก อาจจะทำให้เกิดความเครียดไม่รู้ตัว เช่น คุณแม่บางคนอาจจะเป็นกังวลกับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมาของตัวเอง หรือบางคนอาจจะมีอาการปวดชายโครงเพราะท้องที่ใหญ่ขึ้น ส่งผลให้เกิดอาการเครียดตามมา หากคุณแม่เกิดอาการเครียดมากๆ แล้ว จะส่งผลให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนและสารเคมี ซึ่งเจ้าสารเคมีตัวนี้จะส่งผลโดยตรงกับการเจริญเติบโตของลูกน้อยในครรภ์ค่ะ คุณแม่ที่เครียดมักจะคลอดก่อนกำหนด แถมยังทำให้ลูกมีน้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์อีกด้วย 2.ไม่ใช่เวลาของกิจกรรมผาดโผน ด้วยขนาดท้องที่ใหญ่ขึ้น การทำกิจกรรมผาดโผนต่างๆ อาจเป็นการเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการกระแทกบริเวณหน้าท้อง ซึ่งเป็นอันตรายต่อลูกน้อยในครรภ์อย่างยิ่งค่ะ แถมการที่คุณแม่เคลื่อนไหวตัวอย่างรวดเร็วหรือทำอะไรแบบปุปปับ ยังเป็นสาเหตุทำให้มดลูกเกิดการบีบรัดตัว เกิดอาการท้องแข็ง และถ้าเกิดคุณแม่มีอาการท้องแข็งบ่อยๆ เข้าล่ะก็ เสี่ยงคลอดก่อนกำหนดอยู่นะ 3. […]
ขอแสดงความยินดีกับว่าที่คุณแม่คนใหม่ด้วยนะคะ! กำลังกังวลกันอยู่ใช่มั้ยล่ะ ว่าตอนท้องอ่อนๆ จะสามารถทำอะไรได้บ้างทำอะไรไม่ได้บ้าง วันนี้เราเลยนำเรื่องที่คุณแม่มือใหม่ควรหลีกเลี่ยงมาบอกกันค่ะ ไม่แปลกใจที่คุณแม่บางท่านจะกังวลมากๆ ในช่วงท้องอ่อน เพราะในช่วงสามเดือนแรกนั้น อวัยวะต่างๆ ของลูกน้อยในท้องของคุณแม่ยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่ค่ะ ดังนั้นในระยะนี้จึงมีความเสี่ยงต่อการแท้งมากกว่าในไตรมาสอื่นๆ ช่วงนี้คุณแม่ที่ท้องอ่อนๆ ต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการรับประทานอาหาร สิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัว หรือการใช้ยาต่างๆ ดังนั้น เรื่องความปลอดภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญ กังวลได้แต่อย่าเครียดนะ เพราะความเครียดก็เป็นสิ่งที่คุณแม่ต้องพึงระวังไว้ด้วย กำลังคิดจะไปทานแซลมอน ลาบก้อย หอยนางรมฉลองสมาชิกใหม่กันอยู่รึเปล่า ช่วงนี้คุณแม่อาจจะต้องงดไว้ก่อนนะ เพราะอาหารที่ปรุงไม่สุกส่วนใหญ่อาจปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียที่จะทำให้คุณแม่ท้องเสียหรืออาเจียนได้ แถมยังอาจทำให้เป็นโรคทอกโซพลาสโมซิส (Toxoplasmosis) ซึ่งเจ้าโรคนี้เนี่ยมันเกิดจากเชื้อปรสิตทอกโซพลาสมา กอนดิไอ(Toxoplasma gondii) ที่สามารถแพร่ไปสู่ลูกน้อยในท้องของคุณแม่ได้ค่ะ เห็นชื่อน่ากลัวแบบนี้ มันก็น่ากลัวจริงๆ นะ เพราะหากติดโรคนี้ตอนท้องก็อาจจะทำให้แท้งไปเลย หรือไม่ก็ลูกอาจจะเสียชีวิตในท้อง ไม่ก็อาจมีอาการของโรคเมื่อคลอดออกมา สังเกตง่ายๆ เลยค่ะ ถ้าคุณแม่ที่ติดเชื้อนี้ตอนท้อง ลูกคลอดออกมาจะมีขนาดศีรษะที่ไม่ปกติ อาจจะเล็กหรือไม่ก็ใหญ่กว่าเด็กคนอื่นๆ แถมพอโตไปก็อาจจะตาบอดหรือสติปัญญาอาจจะด้อยกว่าเด็กอื่นๆ ด้วยนะ แต่แต่แต่ ถ้าคุณแม่เคยเป็นโรคนี้ก่อนท้องแล้วก็ชิวชิวค่า เพราะร่างกายคุณแม่มีภูมิคุ้มกันแล้ว ไม่กลับมาเป็นอีกแล้วล่ะ คุณแม่ที่กำลังใช้ยาอยู่ หยุดก่อนค่ะ! ได้ถามคุณหมอรึยังว่ายาตัวนั้นคนท้องทานได้มั้ย คุณแม่อย่าชะล่าใจไปน้าเพราะยามีหลายประเภทแล้วก็ออกฤทธิ์แตกต่างกัน เพราะงั้นยาบางตัวอาจมีผลต่อการสร้างอวัยวะของลูกน้อยได้ เช่นพวกยารักษาสิว Isotretinoin นี่ตัวดีเลยค่ะ เพราะมันเป็นยาที่รุนแรงมาก มากจนอาจทำให้ลูกพิการได้เลยนะ หรือพวกยาที่ใช้รักษาไมเกรน เช่น Cafergot เพราะมันทำให้มดลูกของพวกเราบีบตัวจึงอาจทำให้คลอดก่อนกำหนดได้ พอคุณแม่ทานยาเข้าไปปุ๊ป ลูกก็จะได้ยาพวกนี้ผ่านทางรกด้วยค่ะ แต่ผลกระทบต่อลูกก็จะขึ้นอยู่กับปริมาณยาที่คุณแม่ทานเข้าไปนะ เพราะฉะนั้นหากจะทานยา […]

ร้านสินค้าแม่และเด็กที่คัดสรรนวัตกรรมของใช้แม่และเด็กที่มี
คุณภาพให้คำปรึกษาและบริการ อย่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อช่วยให้การเลี้ยงลูกเป็นเรื่องง่าย ปลอดภัย และมีความสุข
Online Shopping
สาขา ปิ่นเกล้า ราชพฤกษ์
สาขา Mega บางนา
สาขา Central World
สาขา The Crystal รามอินทรา
สาขา BTS วงเวียนใหญ่ (Outlet)
Copyright 2024 © Baby Gift (Retail) Co., Ltd.