เลือกคาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี ? เลือกยังไงให้เหมาะกับลูก แนะนำ 10 รุ่น คาร์ซีทเด็กแรกเกิดน่าใช้ อัปเดตปี 2024
คาร์ซีทเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องมีสำหรับลูกน้อยของเราตั้งแต่ช่วงแรกเกิดไปจนถึงอายุ 6 ปี เพื่อความปลอดภัยขณะนั่งรถยนต์ ประกอบกับมีการออกกฏหมายจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม 2566 ให้ใช้คาร์ซีทในเด็กที่อายุไม่เกิน 6 ปี ยกเว้นรถรับจ้างหรือรถสาธารณะ ดังนั้นทุกบ้านควรจะต้องเตรียมคาร์ซีทให้พร้อมตั้งแต่ก่อนคลอด เพราะต้องให้ลูกน้อยนั่งตั้งแต่วันแรกที่ออกจากโรงพยาบาล ปัจจุบันคาร์ซีทก็มีหลายแบบมาก คุณพ่อคุณแม่หลายท่านอาจจะยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกแบบไหนดี หรือจะเลือกคาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี ที่มีคุณภาพดี ปลอดภัยได้มาตรฐาน และใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในบทความนี้ BabyGift มีมาแนะนำแล้วค่ะ
จะเลือกคาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี ? แนะนำวิธีเลือกคาร์ซีทเด็กแรกเกิด มั่นใจได้ในเรื่องคุณภาพและความปลอดภัย
ผู้ปกครองบางท่านอาจเกิดคำถามขึ้นมาว่า ทำไมต้องใช้คาร์ซีทสำหรับลูกน้อย ขอบอกว่า คาร์ซีทนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆ ค่ะ คาร์ซีทเป็นอุปกรณ์เสริมที่ติดตั้งในรถยนต์ของคุณพ่อคุณแม่เพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับเด็กๆ ในขณะที่นั่งรถยนต์ เพื่อป้องกันหากเกิดอุบัติเหตุไม่คาดคิด คาร์ซีทจะช่วยลดโอกาสบาดเจ็บรุนแรง หรือลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตได้ ซึ่งคาร์ซีทก็มีหลายแบบมาก มีตั้งแต่คาร์ซีทเด็กแรกเกิด คาร์ซีทแบบกระเช้า คาร์ซีทสำหรับเด็กเล็ก และคาร์ซีทสำหรับเด็กโต นอกจากจะมีหลากหลายแบบแล้วก็ยังมีหลายยี่ห้อด้วย แล้วจะเลือกอย่างไรดี จะเลือกคาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี ? ให้กับลูกรักของเรา มารู้จักกับแต่ละประเภทของคาร์ซีทให้มากขึ้นก่อน ไปดูยี่ห้อที่ BabyGift แนะนำกันค่ะ
คาร์ซีทเด็กแรกเกิด มีกี่ประเภท ?
ก่อนจะไปดูสินค้า คาร์ซีทแรกเกิด ยี่ห้อไหนดี ? ขอแนะนำแนวทางการเลือกคาร์ซีทสักนิดค่ะ สำหรับเด็กแรกเกิดจนถึงเด็กอายุ 2 ปี แนะนำให้ใช้คาร์ชีทแบบหันหน้าเข้าเบาะรถ (Rear-Facing) เพราะช่วยปกป้องร่างกายที่บอบบางของเด็กแรกเกิดได้เป็นอย่างดี พร้อมช่วยลดแรงกระแทกได้ดีที่สุด ซึ่งคาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิดสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
1.คาร์ซีทกระเช้า
คาร์ซีทแบบกระเช้า จะมีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา สามารถถอดออก และถือหิ้วเหมือนตะกร้าได้ สะดวกกับคุณพ่อคุณแม่ในการถอดหิ้วใส่รถเข็นเด็กได้โดยไม่ต้องปลุกลูก แต่จะใช้ได้กับเด็กที่ไม่เกิน 18 เดือน เนื่องจากโครงสร้างที่บอบบางกว่าคาร์ซีทประเภทอื่น จึงไม่เหมาะกับเด็กที่สูงขึ้น หรือน้ำหนักตัวมากขึ้น
ข้อดีของคาร์ซีทแบบกระเช้า
- มีน้ำหนักเบา ทำให้เคลื่อนย้ายได้ง่ายสะดวก
- เวลาที่ลูกนอนหลับไม่ต้องปลุกลูก หรืออุ้มลูกออกจากคาร์ซีท คุณพ่อคุณแม่สามารถถอดคาร์ซีทออกมาเดินถือได้เลย ทำให้ลูกนอนหลับได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องกล่อมลูกหลับใหม่
- ปรับใช้งานได้หลายแบบ เช่น ในบางรุ่นสามารถใช้งานกับรถเข็นได้เลย หรือบางรุ่นปรับเป็นเปลนอนได้ด้วย ทำให้สะดวกมากขึ้น
ข้อเสียของคาร์ซีทแบบกระเช้า
- ถึงแม้ว่าจะดูเหมือนว่าข้อดีของคาร์ซีทแบบกระเช้าจะมีน้ำหนักที่เบา และรูปทรงที่เล็ก แต่ข้อด้อยก็คือโครงสร้างของคาร์ซีทแบบกระเช้ามีความบอบบางกว่าคาร์ซีทประเภทอื่นด้วย
- ตัวเบาะ Support เด็กแรกเกิด จะมีชิ้นเล็ก และบอบบางกว่าคาร์ซีทแบบอื่นๆ
- ด้วยความที่โครงสร้างที่เล็ก จึงใส่วัสดุรองรับแรงกระแทกได้ไม่เยอะเท่าแบบอื่นๆ
- ระยะเวลาการใช้งานสั้น สามารถใช้งานได้กับเด็กอายุไม่เกิน 1 ปี เนื่องจากโครงสร้างที่เล็ก รับน้ำหนักไม่ไม่เยอะ จึงไม่เหมาะกับเด็กที่มีน้ำหนักตัวมากขึ้น และความสูงเพิ่มขึ้น
2. คาร์ซีทแบบ Convertible
คาร์ซีทแบบ Convertible คือคาร์ซีทที่สามารถใช้ได้กับเด็กตั้งแต่แรกเกิดจนถึงเด็กโต มีฟังก์ชั่นความปลอดภัยมากขึ้น โครงใหญ่ขึ้น สามารถปรับการใช้งานได้ 2 รูปแบบทั้ง ปรับคาร์ซีทหันหน้าเข้าหาเบาะรถ (Rear-Facing) สำหรับเด็กแรกเกิด และปรับหันหน้าไปหน้ารถ (Forward facing) สำหรับเด็กโต จึงทำให้เป็นที่นิยม ทั้งนี้ คาร์ซีทแบบ Convertible สามารถแบ่งแยกย่อยได้อีก 3 ประเภทคือ
- คาร์ซีทแบบหมุนได้
สามารถหมุนได้ 360 องศา ส่วนใหญ่จะใช้กับเด็กแรกเกิด เพราะเด็กแรกเป็นวัยที่ต้องอาศัยความระมัดระวังสูงไม่ว่าจะเป็นการอุ้มเข้าหรือออกจากคาร์ซีท ดังนั้นการหมุนหันเข้าหาคุณแม่ จะช่วยให้คุณแม่อุ้มลูกขึ้นลงรถได้สะดวกมากขึ้น อีกทั้งไม่เสี่ยงเกิดจากหกล้ม แม้อยู่ในลานจอดรถที่แคบ นอกจากนี้ ยังติดตั้งครั้งเดียวจบ สามารถปรับใช้งานได้ทั้งแบบหันหน้าเข้าหาเบาะรถ (Rear-Facing) และหันหน้าไปหน้ารถ (Forward facing)
- คาร์ซีทแบบหมุนไม่ได้
ส่วนใหญ่จะออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานของเด็กโตด้วย จึงไม่มีฟังก์ชั่นการหมุนมาให้ และจะต้องติดตั้งใหม่ จากการนั่งหันหน้าเข้าหาเบาะรถ (Rear-Facing) ไปเป็นการนั่งหันหน้าไปหน้ารถ (Forward facing) แต่ข้อดีของคาร์ซีทแบบนี้คือ อายุการใช้งานจะใช้ได้นานขึ้นกว่าแบบที่หมุนได้ บางรุ่นใช้ได้ถึง 12 ปี เลยทีเดียว
- คาร์ซีทแบบปรับนอนราบได้ และหมุนได้
คาร์ซีทแบบนี้เหมาะกับเด็กแรกเกิดและเด็กเล็กที่ต้องเดินทางบ่อยค่ะ มีความพิเศษกว่าแบบอื่นๆ เนื่องจากปรับนอนราบได้สูงสุด 170 องศา แถมยังหมุนได้ด้วย นอกจากนี้ ยังเหมาะกับเด็กที่คลอดก่อนกำหนดอีกด้วย เพราะการปรับนอนราบจะช่วยทำให้เด็กนั่งคาร์ซีทได้สบายขึ้น และหายใจได้สะดวกมากขึ้น
ข้อดีของคาร์ซีทแบบ Convertible
- ไม่ต้องเปลี่ยนคาร์ซีทบ่อยๆ เนื่องจากสามารถใช้งานได้ยาวนานกว่าแบบกระเช้า เช่น 0-4 ปี, 0- 9 ปี , 0-12 ปี
- มีโครงสร้างที่ใหญ่ และตัวเบาะที่กว้างกว่าแบบกระเช้าทำให้มีการใส่วัสดุรองรับแรงกระแทกได้มากกว่า
- มีเทคโนโลยีความปลอดภัยเพิ่มขึ้น ทำให้มีความปลอดภัยสูงมากขึ้น
- มีฟังก์ชั่นหลากหลาย เช่น มีขาค้ำยัน, ช่องระบายอากาศ, หมุนได้ 360 องศา , มีที่พักเท้า, มีที่วางแก้ว เป็นต้น ทำให้มีความปลอดภัย และความสะดวกสบายมากขึ้น
ข้อเสียของคาร์ซีทแบบ Convertible
- โครงคาร์ซีทใหญ่ ต้องใช้พื้นที่ในการติดตั้ง
- คาร์ซีทมีน้ำหนักเยอะ ไม่สามารถถอดออกแล้วเดินถือได้เหมือนคาร์ซีทแบบกระเช้า
- มีราคาสูงกว่าคาร์ซีทแบบกระเช้า
เลือกคาร์ซีทเด็กแรกเกิดอย่างไรดี ?
หรับคุณพ่อคุณแม่ท่านไหนที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกคาร์ซีทเด็กแรกเกิดให้ลูกแบบไหนดี ตอนนี้ก็น่าจะได้ไอเดียกันไปบ้างแล้วนะคะ ซึ่งวิธีการเลือกคาร์ซีทเด็กแรกเกิดที่ถูกต้องนั้น มีสิ่งที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติมดังนี้ค่ะ
- เลือกจากระบบการติดตั้ง
ปัจจุบันจะมีอยู่ 2 ระบบ ได้แก่ ระบบ Belt (ติดตั้งด้วยเข็มขัดนิรภัยของตัวรถยนต์) โดยสามารถติดตั้งคาร์ซีทได้กับรถยนต์ทุกรุ่น ทุกคัน และระบบ ISOFIX หรือระบบการติดตั้งตามมาตรฐานยุโรป โดยส่วนใหญ่จะมีในรถยนต์ที่ผลิตในปี 2014 ขึ้นไป หากยังไม่แน่ใจว่าควรเลือกคาร์ซีทแบบไหนที่เหมาะกับรถยนต์ของเรา อาจสอบถามผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์เพิ่มเติม จะได้เลือกอย่างถูกต้องค่ะ
- เลือกจากรูปแบบ และขนาดที่เหมาะสมกับการใช้งาน
ต้องพิจารณาว่า ต้องการการใช้งานนานแค่ไหน หากไม่อยากเปลี่ยนบ่อยๆ ก็อาจจะเลือกเป็นแบบ Convertible ที่ใช้งานได้ยาวนาน หรือถ้าต้องการความสะดวกสบาย สามารถหิ้วถือได้ ก็อาจจะเลือกคาร์ซีทแบบกระเช้า และควรเลือกเป็นแบบที่ทำความสะอาดได้ง่าย ระบายอากาศดี และซับพอร์ตกับสรีระของเด็กเล็ก ทั้งนี้ ควรเลือกขนาดคาร์ซีทให้มีความเหมาะสมกับขนาดเบาะรถของเราด้วย เพื่อที่จะได้ติดตั้งได้อย่างพอดีและมีความมั่นคงแน่นหนา เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของลูกน้อยค่ะ
- เลือกจากฟังก์ชั่นการใช้งาน
ฟังก์ชั่นการใช้งานมีอยู่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ฟังก์ชั่นการหมุนได้ 360 องศา ฟังก์ปรับชั่นเอนนอนได้ ฯลฯ รวมถึงเลือกจากเทคโนโลยีความปลอดภัยซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เช่น ระบบพนักพิงยุบตัวอัตโนมัติ Side impact ป้องกันการชนด้านข้างที่ช่วยลดแรงกระแทก ทำให้เด็กปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ฯลฯ
- เลือกที่มีการการรับประกันคาร์ซีท
ควรเลือกซื้อคาร์ซีทกับตัวแทนนำเข้าอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และมีความน่าเชื่อถือ ถ้าหากมีการชำรุดก็สามารถส่งซ่อมกับผู้เชี่ยวชาญ มีอะไหล่แท้ให้เปลี่ยน นอกจากนี้ บางแบรนด์ยังมีการรับประกันอุบัติเหตุควบคู่ไปด้วย สามารถเปลี่ยนคาร์ซีทตัวใหม่ได้เมื่อเกิดอุบัติเหตุรุนแรง
- เลือกที่มีสัญลักษณ์รับประกันความปลอดภัย
ให้เลือกคาร์ซีทที่มีตราสัญลักษณ์มาตรฐานความปลอดภัยตามมาตรฐานของยุโรป ECE R44/04 หรือ ECE R129 (i – Size) อันเป็นมาตรฐานใหม่ล่าสุดสำหรับคาร์ซีทของสหภาพยุโรปในการใช้ควบคุมการผลิตคาร์ซีทสำหรับเด็กเล็กให้มีความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ที่มีการประกาศใช้ตั้งแต่ปี 2556 โดยเป็นมาตรฐานที่มีการทดสอบความปลอดภัยของคาร์ซีทอย่างเข้มงวด และได้รับการยอมรับในระดับสากลว่ามีความปลอดภัยสูงสุดอีกด้วย ส่วนสัญลักษณ์ของประเทศอื่นๆ ก็มีความปลอดภัย เช่น มาตรฐาน FMVSS 213 ของอเมริกา หรือ AS/NZS 1754 ของออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ เป็นต้น
เลือกคาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี ? บอกต่อคาร์ซีทเด็กแรกเกิดที่ BabyGift แนะนำ!
1. Ailebebe รุ่น Kurutto R The First
จะเลือกคาร์ซีทแรกเกิด ยี่ห้อไหนดี ? ตัวแรกขอแนะนำเป็นคาร์ซีทรุ่นใหม่ของแบรนด์ Ailebebe ที่ได้รับความนิยมจากคุณพ่อคุณแม่และดาราเซเลปมากมาย แม้จะมีราคาค่อนข้างสูง แต่ก็เป็นคาร์ซีทที่โดดเด่นเรื่องนวัตกรรมความปลอดภัย เรียกว่าล้ำกว่าทุกรุ่น เป็นคาร์ซีทที่มีความพิเศษเฉพาะ หากใครกำลังมองหาคาร์ซีทที่มีความปลอดภัยแบบสุดๆ รุ่นนี้ถือว่าตอบโจทย์มากค่ะ
จุดเด่น
- เป็นคาร์ซีททรงไข่ Egg – Shell Protection ออกแบบตามสรีรศาสตร์ของทารก เพื่อเด็กแรกเกิดอย่างแท้จริง
- ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ล่าสุดจากยุโรป ECE R129 (i-Size)
- ซัพพอร์ตข้างศีรษะหนาที่สุด 100 มิลลิเมตร ปกป้องทารกได้อย่างปลอดภัยระดับสูง
- ผ้า AG Pure ต้านแบคทีเรีย 99% อ่อนโยนต่อลูกน้อย
- ผ้าตาข่าย W Russell ตลอดช่วงตัว ระบายอากาศดี ไม่ร้อน ไม่อับชื้น
- ช่องระบายอากาศด้านหลัง 1,695 ช่อง อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่ร้อน หลังไม่เปียก
- หมุนได้ 360 องศา ด้วยมือเดียว หมุนลื่น ไม่ทำให้เด็กตกใจ
- เข็มขัดนิรภัย 5 จุด พร้อมระบบ Jumping Harness พาลูกนั่งหรือออกจากคาร์ซีทได้รวดเร็วมาก
- ขาค้ำยัน มีระบบ Sensor เสียงแจ้งเตือน หากติดตั้งไม่ถูกวิธี
- เทคโนโลยีความปลอดภัย Baby Catch Technology หรือ ระบบพนักพิงยุบตัวอัตโนมัติ ลดการกระแทกและป้องกันการกระแทกซ้ำๆ ในขณะที่เกิดอุบัติเหตุ
การใช้งาน : เด็กแรกเกิดความสูง 40 -100 เซ็นติเมตร หรือ อายุ 0- 4 ปี
การติดตั้ง : ระบบ ISOFIX
แบรนด์ : ประเทศญี่ปุ่น
2. Ailebebe รุ่น Kurutto R Grance
คาร์ซีทเฉพาะทางเพื่อเด็กแรกเกิดอย่างแท้จริง เป็นคอนเซปต์ของคาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิดรุ่นนี้ เป็นรุ่นขายดีทั้งในญี่ปุ่นและไทย มีเทคโนโลยีความปลอดภัยครบครัน ตรงคอนเซ็ปต์ที่คุณพ่อคุณแม่นิยมใช้และให้ความสนใจมาก ๆ
จุดเด่น
- เป็นคาร์ซีททรงไข่ Egg – Shell Protection ออกแบบตามสรีรศาสตร์ของทารก เพื่อเด็กแรกเกิดอย่างแท้จริง
- ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ล่าสุดจากยุโรป ECE R129 (i-Size)
- ซัพพอร์ตข้างศีรษะหนาที่สุด 100 มิลลิเมตร ปกป้องทารกได้อย่างปลอดภัยระดับสูง
- ผ้าตาข่าย W Russell ตลอดช่วงตัว ระบายอากาศดี ไม่ร้อน ไม่อับชื้น
- ช่องระบายอากาศด้านหลัง 1,695 ช่อง อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่ร้อน หลังไม่เปียก
- หมุนได้ 360 องศา ด้วยมือเดียว หมุนลื่น ไม่ทำให้เด็กตกใจ
- เข็มขัดนิรภัย 5 จุด พร้อมระบบ Jumping Harness พาลูกนั่งหรือออกจากคาร์ซีทได้รวดเร็วมาก
- ขาค้ำยัน มีระบบ Sensor เสียงแจ้งเตือน หากติดตั้งไม่ถูกวิธี
- เทคโนโลยีความปลอดภัย Baby Catch Technology หรือ ระบบพนักพิงยุบตัวอัตโนมัติ ลดการกระแทกและป้องกันการกระแทกซ้ำๆ ในขณะที่เกิดอุบัติเหตุ
การใช้งาน : เด็กแรกเกิด – 4 ปี หรือ น้ำหนัก 0 -18 กิโลกรัม
การติดตั้ง : ระบบ ISOFIX
แบรนด์ : ประเทศญี่ปุ่น
3. APRICA รุ่น Fladea Grow Safety Plus
จะเลือกคาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี ? ตัวนี้เป็นคาร์ซีทโด่งดังจากญี่ปุ่น เด่นเรื่องการปรับนอนราบได้ถึง 170 องศา ตอบโจทย์คุณพ่อคุณแม่ที่ต้องเดินทางไกลหรือเดินทางบ่อย เป็นคาร์ซีทที่ทำให้เพื่อให้เด็กแรกเกิดนอนได้สบาย อีกทั้งฟังก์ชั่นต่างๆ ที่มีก็ได้รับการคิดค้นวิจัยโดยกุมารแพทย์จากประเทศญี่ปุ่น เชื่อถือได้เลยว่านั่งสบายและปลอดภัยสูงสุดทุกการเดินทาง
จุดเด่น
- ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ล่าสุดจากยุโรป ECE R129 (i-Size)
- ปรับคาร์ซีทให้นอนราบได้ ถึง 170 องศา ให้ทารกนอนหงายอยู่ในท่าที่ถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์ ท้องไม่งอ คอไม่พับ หายใจสะดวก ป้องกันภาวะ Baby Shaken Syndrome ได้อย่างอุ่นใจ
- เด็กคลอดก่อนกำหนดสามารถใช้ได้อย่างปลอดภัย การนอนราบทำให้หายใจสะดวกมากขึ้น
- มีหลังคาขนาดใหญ่ กันความร้อน กันแดด UV Protection 99% ปกป้องดวงตาทารก พร้อมช่องระบายอากาศ 2 ช่อง อากาศถ่ายเทได้ดี
- หมุนได้ 360 องศา พร้อมล็อค 4 ทิศทาง พาลูกขึ้น-ลงรถได้อย่างสะดวก
- มี Head Support หนา 3 ชั้น ปกป้องศีรษะและลำคอทารกได้อย่างแน่นหนา
- มี Side Protection ป้องกันการกระแทกด้านข้างได้อย่างปลอดภัยตามมาตรฐานสากล
การใช้งาน : เด็กแรกเกิดความสูง 40-100 เซนติเมตร หรือ อายุ 0 – 4 ปี
การติดตั้ง : ระบบ ISOFIX
แบรนด์ : ประเทศญี่ปุ่น
4. Renolux รุ่น Gaia
ตัวนี้เป็นคาร์ซีทจากฝรั่งเศสที่โดดเด่นในเรื่องเบาะที่กว้าง และมีความนุ่มเป็นพิเศษ รุ่นนี้ใช้เทคโนโลยี Softness Cushion เป็นแบรนด์เดียวในโลกที่ทำได้ ทำให้ลูกน้อยนั่งคาร์ซีทได้อย่างสบายตัว ส่วนเรื่องเทคโนโลยีความปลอดภัยก็จัดเต็ม เป็นสิทธิบัตรความปลอดภัยเฉพาะแบรนด์ RENOLUX เลยทีเดียวค่ะ หากกำลังมองหาคาร์ซีท ยี่ห้อไหนดีที่นั่งสบาย มีความนุ่มพิเศษก็ต้องเป็น Renolux รุ่น Gaia ตัวนี้เลย
จุดเด่น
- ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ล่าสุดจากยุโรป ECE R129 (i-Size)
- ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยจาก ADAC เยอรมัน และ TCS สวิตเซอร์แลนด์
- เทคโนโลยี Softness Cushion ใช้โครงเหล็กทั้งตัว หุ้มด้วยโฟมพิเศษ ทำให้เบาะนุ่มพิเศษ นั่งสบายเหมือนโซฟา ดูดซับแรงกระแทกได้มากกว่าคาร์ซีททั่วไปถึง 40 เปอร์เซ็นต์
- ปรับเลื่อนระดับเพิ่มพื้นที่วางขาได้ ให้ลูกนั่งหันหน้าเข้าเบาะได้นานที่สุด 4 ปี หรือจนกว่าจะมีส่วนสูง 105 เซนติเมตร
- หมุนง่ายได้ถึง 360 องศา สะดวกสบาย ช่วยอุ้มลูกเข้าหรือออกคาร์ซีทได้ง่ายขึ้น
- ผ้า Cool Soft สัมผัสเย็น ถักทอพิเศษแบบ Topstiches นั่งแล้วไม่เกิดการกดทับ
- มี Side Protection ป้องกันการชนด้านข้าง รองรับแรงกระแทกได้ดี
การใช้งาน : เด็กแรกเกิดความสูง 40 – 105 เซ็นติเมตร หรือ อายุ 0 – 4 ปี
การติดตั้ง : ระบบ ISOFIX
แบรนด์ : ประเทศฝรั่งเศส
5. คาร์ซีทกระเช้า KINDERKRAFT รุ่น I – CARE
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมองหาคาร์ซีทแรกเกิด ยี่ห้อไหนดีที่เป็นคาร์ซีทแบบกระเช้า รุ่นนี้ก็น่าสนใจค่ะ เป็นคาร์ซีทกระเช้าเด็กแรกเกิดที่สามารถถอดและถือหิ้วเหมือนตะกร้าได้ เลย ติดตั้งกับรถเข็นเด็กได้ สะดวกสบายในการเดินทาง พร้อมจัดเต็มเรื่องความปลอดภัย ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยยุโรป R129 (i-Size)
จุดเด่น
- ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ล่าสุดจากยุโรป ECE R129 (i-Size)
- ติดตั้งกับรถเข็นเด็ก ที่มี Adapter ได้ เช่น รถเข็นเด็ก รุ่น NEA
- ปรับพนักพิงศีรษะและเข็มขัดนิรภัยพร้อมกันได้ 4 ระดับ ตามสรีระลูกน้อย
- น้ำหนักเบาเพียง 4.2 กิโลกรัม ถอดออก และถือหิ้วได้สะดวก
- เข็มขัดนิรภัย 5 จุด พร้อมนวมหุ้มสายเข็มขัดหนานุ่ม สัมผัสสบาย
- พนักพิงแข็งแรง หนา 3 ชั้น ลดแรงกระแทกได้ดี
- มีฟังก์ชั่น Side Protect เสริมการ์ดป้องกันการกระแทกด้านข้าง
- เข็มขัดนิรภัย 5 จุด พร้อมนวมหุ้มสายเข็มขัดหนานุ่ม สัมผัสสบาย มีความปลอดภัยสูง
การใช้งาน : เด็กแรกเกิด – 15 เดือน หรือ ส่วนสูง 40 – 87 เซนติเมตร
การติดตั้ง : ระบบ Belt (ฐาน Isofix จำหน่ายแยก)
แบรนด์ : ประเทศเยอรมนี
6. คาร์ซีทกระเช้า KINDERKRAFT รุ่น MINK PRO
คาร์ซีทกระเช้าเด็กแรกเกิดจาก KINDERKRAFT ที่มีน้ำหนักเบามาก ถอดและถือหิ้วเหมือนตะกร้าได้ เลย สามารถติดตั้งกับรถเข็นเด็กได้ สร้างความสะดวกสบายให้กับคุณพ่อคุณแม่ในการเดินทาง พร้อมจัดเต็มเรื่องความปลอดภัย ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยยุโรป R129 (i-Size)
จุดเด่น
- ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ล่าสุดจากยุโรป ECE R129 (i-Size)
- ติดตั้งกับรถเข็นเด็ก ที่มี Adapter ได้ เช่น รถเข็นเด็กรุ่น Apino และ รถเข็นรุ่น NEA
- ปรับพนักพิงศีรษะ และเข็มขัดนิรภัยพร้อมกันได้ 5 ระดับ ตามสรีระลูกน้อย
- น้ำหนักเบาเพียง 3.5 กิโลกรัม ถอดออกและถือหิ้วได้สะดวกมาก
- ปรับพนักพิงศีรษะ และเข็มขัดนิรภัยพร้อมกันได้ 5 ระดับ ตามสรีระลูกน้อย
- มี Head Support หนา 3 ชั้น เสริม EPS โฟม ปกป้องศีรษะและลำคอได้อย่างแน่นหนา
- มี Side Protect เสริมการ์ดป้องกันการกระแทกด้านข้าง ปลอดภัยตามมาตรฐานสากล
การใช้งาน : เด็กแรกเกิด – 15 เดือน หรือ ส่วนสูง 40 – 75 เซนติเมตร หรือน้ำหนัก 0 – 13 กิโลกรัม
การติดตั้ง : ระบบ Belt
แบรนด์ : ประเทศเยอรมนี
7. คาร์ซีทแรกเกิด KINDERKRAFT รุ่น I – 360
หากคุณพ่อคุณแม่คนไหนมองหาคาร์ซีท ยี่ห้อไหนดีที่ใช้งานได้อย่างยาวนาน และนำเป็นตัวนี้เลยค่ะ คาร์ซีทที่ใช้งานได้ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 12 ปี มาพร้อมฟังก์ชั่นหมุนได้ สะดวกสบายเวลาพาลูกน้อยเข้า – ออกคาร์ซีท และจัดเต็มเรื่องความปลอดภัย ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ล่าสุดจากยุโรป ECE R129 (i-Size)
จุดเด่น
- ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ล่าสุดจากยุโรป ECE R129 (i-Size)
- ติดตั้งง่ายด้วยระบบ ISOFIX และ Support leg
- คาร์ซีทหมุนได้ 360 องศา หมุ่นง่าย พาลูกน้อยเข้า-ออกคาร์ซีทได้สะดวก แม้จอดรถในที่แคบ
- ปรับการใช้งานได้ 3 STEPs ติดตั้งได้ทั้งหันหน้าเข้าหาเบาะรถ (Rearward Facing) หันหน้าไปหน้ารถ (Forward Facing) และปรับเป็นบูสเตอร์ซีทเด็กโต (Booster Seat)
- มี Head Support หนา 3 ชั้น ปกป้องศีรษะและลำคอทารกแรกเกิดได้อย่างแน่นหนา
- มี Side Protect เสริมการ์ดด้านข้าง ป้องกันการกระแทกได้อย่างปลอดภัย
- ปรับเอนนอนได้ 5 ระดับ และปรับความสูงพนักพิงศีรษะได้ 12 ระดับ ตามสรีระลูกน้อยแต่ละวัยจนถึงส่วนสูง 150 เซนติเมตร
การใช้งาน : เด็กแรกเกิด – 12 ปี หรือ ความสูง 40 – 150 เซนติเมตร
การติดตั้ง : ระบบ ISOFIX
แบรนด์ : ประเทศเยอรมนี
8. คาร์ซีทแรกเกิด KINDERKRAFT รุ่น I-GROW
นี่ก็เป็นคาร์ซีทอีกรุ่นหนึ่งที่ใช้งานได้อย่างยาวนานตั้งแต่แรกเกิดจนอายุ 12 ปี จัดเต็มเรื่องความปลอดภัย ระบบติดตั้งเสริม TOP TETHER ตะขอเกี่ยวเบาะรถยนต์ พร้อมหมุนได้ 360 องศา เพียงกดปุ่มก็พาลูกน้อยเข้า-ออกคาร์ซีทได้สะดวก
จุดเด่น
- ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ล่าสุดจากยุโรป ECE R129 (i-Size)
- ติดตั้งปลอดภัยสูง ด้วยระบบ ISOFIX และ TOP TETHER ตะขอเกี่ยวเบาะรถยนต์
- คาร์ซีทหมุนได้ 360 องศา พาลูกน้อยเข้า-ออกคาร์ซีทได้สะดวก แม้จอดรถในที่แคบ
- ปรับการใช้งานได้ 3 STEP ติดตั้งได้ทั้งหันหน้าเข้าหาเบาะรถ (Rearward Facing) หันหน้าไปหน้ารถ (Forward Facing) และปรับเป็นบูสเตอร์ซีทเด็กโต (Booster Seat)
- โครงคาร์ซีทใหญ่ แข็งแรง แตกหักยาก ดูดซับแรงกระแทกได้ดี
- ปรับเอนนอนได้ 5 ระดับ และปรับความสูงพนักพิงศีรษะได้ 12 ระดับ ตามสรีระลูกน้อยแต่ละวัยจนถึงส่วนสูง 150 เซนติเมตร
การใช้งาน : เด็กแรกเกิด – 12 ปี หรือ ความสูง 40 – 150 เซนติเมตร
การติดตั้ง : ระบบ ISOFIX
แบรนด์ : ประเทศเยอรมนี
9. Doona รุ่น 4 in 1
Doona car seat รุ่นนี้ เป็นมากกว่าคาร์ซีททั่วไป เพราะสามารถใช้งานได้ถึง 4in1 เป็นได้ทั้งคาร์ซีท รถเข็น เปลโยก และสามารถนำขึ้นเครื่องบินได้ด้วย ตอบทุกโจทย์การใช้งานของคุณแม่ ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยจากยุโรปและอเมริกา ปลอดภัยหายห่วงอย่างแน่นอน
จุดเด่น
- ได้รับการทดสอบจาก EU & US Aircraft Approval
- ติดตั้งได้ 2 แบบ ระบบเบลท์รถยนต์ และ Isofix base (ขายแยก)
- สามารถใช้งานได้ตั้งแต่แรกเกิด ถึงน้ำหนัก 15 กิโลกรัม หรือประมาณ 2 ขวบแล้วแต่สรีระของเด็ก
- ถอดคาร์ซีทออกมาเดินถือได้เลย ไม่ต้องปลุกลูกขณะนอนหลับ
- สามารถเปลี่ยนคาร์ซีทให้เป็นรถเข็นได้อย่างง่ายดาย
- เนื้อผ้าทำจากใยไผ่ ระบายอากาศได้ดี ไม่ร้อน
การใช้งาน : เด็กแรกเกิด – 2 ปี หรือ น้ำหนัก 0 -15 กิโลกรัม
การติดตั้ง : ระบบ Belt และ ISOFIX (ขายแยก)
แบรนด์ : ประเทศเนเธอแลนด์
10. NUNA รุ่น Reva
อีกหนึ่งคาร์ซีทที่จัดเต็มเรื่องความปลอดภัย แถมลูกน้อยยังนั่งสบาย เด็กนั่งแล้วขาไม่ห้อย เพราะมีที่พักเท้าให้ คุณพ่อคุณแม่ที่เดินทางไกลๆ อยากพาลูกไปด้วยก็สบายหายห่วง เบาะนั่งกว้าง โครงสร้างแข็งแรง สามารถปรับใช้งานได้ 3 รูปแบบตามช่วงวัยที่เหมาะสม
จุดเด่น
- มาตรฐานความปลอดภัยของอเมริกา FMVSS 213
- เบาะนั่งกว้าง ปรับใช้งานได้ 3 รูปแบบ ตามช่วงวัยที่เหมาะสม
- ปรับเอนนอนได้เยอะ ถึง 10 ตำแหน่ง
- รองรับการใช้งานในรถยนต์ทุกรุ่น ได้ทั้ง Belt 2 จุด และ 3 จุด
- เนื้อผ้าเส้นใย Lyocell ไม่ผสมสารเคมีและกันไฟลาม
- มี Side impact ป้องกันการชนด้านข้างได้อย่างปลอดภัย
- มีที่พักเท้า มีที่วางแก้วน้ำ สามารถวางขวดนมได้
การใช้งาน : เด็กแรกเกิด – 9 ปี หรือ หรือมีน้ำหนัก 0 – 30 กิโลกรัม
การติดตั้ง : ระบบ Belt และ ISOFIX
แบรนด์ : ประเทศอเมริกา
สำหรับคุณพ่อคุณแม่หรือผู้ปกครองท่านใดกำลังตัดสินใจว่าจะเลือกคาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี หวังว่าข้อมูลในบทความนี้จะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นนะคะ หรือถ้าต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้า BabyGift เป็นร้านจำหน่ายสินค้าแม่และเด็กระดับคุณภาพ มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี ในการคัดสรรคาร์ซีทที่ดีที่สุดสำหรับเด็กทุกช่วงวัย คุณพ่อคุณแม่สามารถพาลูกน้อยมาลองนั่งคาร์ซีทได้ทุกรุ่น หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ร้านเบบี้กิ๊ฟทั้ง 5 สาขา ใกล้บ้าน หรือสอบถามผ่านช่องทาง Online ทีมงาน BabyGift ยินดีให้คำแนะนำค่ะ
อ้างอิงที่มาข้อมูลบางส่วนจาก
https://www.whattoexpect.com/first-year/safety-and-childproofing/infant-vs-convertible-car-seats
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
เด็กบางคนจะมีเหงื่อออกมาก ทั้งบนศีรษะ หน้า หน้าอก แผ่นหลัง จนหมอน และชุดนอนเปียกชื้น โดยเฉพาะเด็กที่ปกติมีเหงื่อมาก เมื่อนอนไปได้สักระยะหนึ่งอุณหภูมิของร่างกายจะสูงขึ้น ทำให้มีเหงื่อออกจนคุณพ่อคุณแม่ตกใจเกรงลูกจะเป็นโรคร้าย เพราะมีคนกล่าวว่า เหงื่อออกมากเวลากลางคืนอาจจะเป็นอาการระยะเริ่มต้นของโรคต่างๆ ดังนี้ >>>ขอบคุณข้อมูลจาก : เว็ปไซด์ maerakluke.com
ไม่นานมานี้ดิฉันเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัดกับลูกๆทั้งสนุกสนานและปลอดภัยตั้งแต่ออกเดินทางจนถึงจุดมุ่งหมายเลยค่ะรู้สึกขอบใจตัวเองที่กัดฟันให้ลูกนั่งคาร์ซีท ตั้งแต่วันแรกที่ลืมตาดูโลก ทำให้ขับรถได้อย่างมีสมาธิ แต่กว่าจะถึงวันนี้ลูกก็เคยร้องไห้ประท้วงจนแหวะใส่เก้าอี้ตัวเองมาแล้ว ดิฉันใช้วิธีสงบสยบความเคลื่อนไหวร้องได้ร้องไป แค่ 15 นาทีเท่านั้น คลื่นลมก็สงบ ตั้งแต่นั้นมาลูกๆเรียนรู้เลยว่า เวลาขึ้นรถต้องไปนั่งที่ “เก้าอี้วิเศษ” ของตัวเองและนั่งทุกครั้งแม้ระยะทางจะใกล้หรือไกลเพราะอุบัติเหตุอาจเกิดจากภัยในรถ เช่น ลูกทะเลาะกันที่เบาะหลัง (เจอมาแล้ว) หรือปีนป่ายจนได้รับอันตราย คุณแม่ท่านไหนที่ยังไม่มั่นใจในคาร์ซีท carseat ว่าจะช่วยวันยุ่งๆของคุณแม่ได้มากน้อยแค่ไหน ลองเคล็ดลับต่อไปนี้ดูสิคะ แล้วลูกคุณจะรัก “เก้าอี้วิเศษ” ของตัวเองขึ้นเยอะเลย เคล็ดลับก่อนตัดสินใจเลือกซื้อคาร์ซีท อายุ ประเภทของคาร์ซีท คำแนะนำทั่วไป เด็กอ่อน คาร์ซีทสำหรับเด็กอ่อน เด็กอายุน้อยกว่า 1 ปี และมีน้ำหนักน้อยกว่า 9 kg.– ต้องนั่งคาร์ซีทแบบหันหน้าเข้าหาเบาะ เพราะคอยังไม่แข็งพอรับแรงกระแทกขณะรถวิ่ง เด็กก่อนวัยเรียน เก้าอี้แบบหันหน้าออก เด็กอายุ 1 ปี ขึ้นไป หรือหนัก 9 kg. ขึ้นไป เด็กเล็กวัยเรียน เบาะรองนั่ง เด็กควรสูงอย่างน้อย 120 cm.และต้องมั่นใจว่าเข็มขัดนิรภัยพาดที่ไหล่และต้นขาของเด็กอย่างพอดี เด็กโต เข็มขัดนิรภัย […]
เนื่องในเดือนแห่งวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโรงเรียนทอสีได้จัดสัมนาเรื่อง“เลี้ยงลูกแบบสมเด็จย่า” โดยคุณหญิงพวงร้อย ดิศกุล ณ อยุธยา อดีตข้าหลวงในพระองค์มาร่วมเล่าประสบการณ์และแบ่งปันคำสอนของสมเด็จพระศรีนครินทราพระบรมราชชนนีหรือสมเด็จย่าของปวงชนชาวไทยเมื่อฟังแล้วรู้สึกอยากจะบอกต่อ ถึงวิธีการเลี้ยงดูลูกของพระองค์ ที่มีทั้งความปราดเปรื่องหลักแหลมและมีเป้าหมายที่ชัดเจนสมควรใช้เป็นแบบอย่างเป็นอย่างยิ่ง ลูกไม้ย่อมหล่นไม่ไกลต้น : คำพังเพยที่เราได้ยินบ่อยๆ แต่น้อยครั้งนักจะทำความเข้าใจอย่างจริงจังในขณะที่ตัวอย่างมีให้เห็นทั้งในทางที่ดีและทางที่ไม่ดีในเรื่องของการเลี้ยงดูบุตร สมเด็จย่าทรงเริ่มจากการเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูก ทำเป็นต้นแบบในเรื่องของการมีวินัย การรักการค้นคว้าศึกษาหาความรู้ การประพฤติตัวที่ถูกต้องตามธรรมนองคลองธรรม ทั้งหมดนี้คือการตั้งตนเป็นต้นแบบให้กับลูกเพราะเด็กเล็กจะมีพฤติกรรมเลียนแบบจากคนใกล้ชิดเพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ต้องลองตั้งคำถามกลับมาที่ตัวเองว่าทุกวันนี้ที่เราอยากให้ลูกเป็นแบบนั้นแบบนี้แล้วเราล่ะเป็นแล้วหรือยัง ตั้งเป้าหมายในการเลี้ยงลูก: สมเด็จย่าทรงเป็นพระมารดาที่มีเป้าหมายในการเลี้ยงลูกอย่างชัดเจนคือทรงตั้งใจอบรมพัฒนาลูกๆ ให้ดีในทุกๆ ด้านเพื่อให้เป็นบุคคลที่ทำประโยชน์ให้กับชาติบ้านเมือง ทรงไม่คิดถึงประโยชน์ของพระองค์เอง ประโยชน์ของพระโอรส หรือพระธิดา แต่ทรงมองถึงประโยชน์ส่วนรวมเป็นสำคัญ ในปัจจุบันหลายครั้งที่เราเห็นพ่อแม่ส่งลูกเรียนพิเศษในทุกวิชาโดยที่ไม่ได้ถามลูกว่าลูกอยากเรียนอะไร หรือพ่อแม่ที่คาดหวังเรื่องผลการเรียนสูงๆ จากลูกเหล่านั้นคือการตั้งเป้าหมายกับลูกซึ่งเป็นการเอาความคาดหวังของตัวเองไปให้กับลูก เราจึงต้องมองย้อนกลับมาดูใหม่ว่าเป้าหมายที่เราตั้งไว้หรือความคาดหวังนั้นเป็นไปเพื่อใคร เพื่อลูก เพื่อตัวเราเอง หรือเพื่อคนอื่นๆ ด้วย ถ้าพ่อแม่มีเป้าหมายที่ชัดเจนในการเลี้ยงลูกก็จะทำให้เราสามารถพัฒนาประสิทธิภาพของเด็กๆ ได้สูงยิ่งขึ้น จัดแบบแผนและสร้างระเบียบวินัยตั้งแต่ลูกยังเล็ก: สมเด็จย่าทรงวางแผนการดำเนินชีวิตให้กับพระโอรสพระธิดาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ เนื่องจากต้องทรงเป็นทั้ง “พ่อ” และ “แม่” ในเวลาเดียวกันทรงจัดการทุกอย่างเป็นเวลา โดยมีผู้ช่วยคือพระพี่เลี้ยงเพียงหนึ่งคนเท่านั้นเนื่องจากในเวลาที่เด็กยังเล็กเขาไม่มีความรู้เรื่องขอบเขตของเวลา พ่อแม่จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องจัดเวลาให้กับพวกเขาเช่นนอน รับประทานอาหาร เล่น ไปโรงเรียน อาบน้ำ ออกกำลังกาย เป็นต้น สิ่งเหล่านี้จะสร้างวินัยให้กับลูกซึ่งสมเด็จย่าทรงเน้นเรื่องวินัยในการดำเนินชีวิตพระองค์รับสั่งถึงคำว่า “ระเบียบวินัยอย่างมีหลักการ” คือการกำหนดขอบเขตของเวลาในการทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อสร้างความสมดุลให้กับชีวิตซึ่งจะเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการเติบโตของเด็กๆ ต่อไป เล่นอย่างถูกวิธี : เมื่อถึงเวลาเล่นจะทรงปล่อยให้พระโอรสและพระธิดาเล่นอย่างอิสระ โดยจะทรงให้เล่นกับธรรมชาติ ต้นไม้ น้ำทรงเน้นให้เล่นกับสิ่งที่มีในธรรมชาติมากกว่าของเล่น ทรงอนุญาตให้พระโอรสเล่นจุดไฟแต่จะทรงบอกวิธีในการเล่นที่ถูกต้องเพื่อไม่ให้เกิดอันตราย ผลจากการที่พระโอรสและพระธิดาได้ทรงเล่นคลุกดินคลุกทรายหรือได้ทำการทดลองกับธรรมชาติเหล่านี้ส่งผลให้ทั้งสามพระองค์ได้พัฒนาความคิดและความสามารถโดยที่ไม่ทรงรู้ตัว ตัวอย่างเช่น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงสร้างหลุมที่เกิดจากการปลูกต้นไม้ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ทดลองขุดดิน ใส่น้ำ ปลูกต้นไม้ จะสามารถสร้างแอ่งน้ำขึ้นมาได้ด้วยพระองค์เอง […]
การทำความสะอาดของเล่นเด็ก ฆ่าเชื้อของเล่นเด็ก ถือเป็นเรื่องสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่อย่างเราต้องใส่ใจ โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่มีการแพร่ระบาดของโรคต่าง ๆ อยู่เรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็น ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ COVID-19 โรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันร้ายแรง (SARS) และไข้หวัดนก การใช้วิธีแบบเดิม ๆ ที่ได้ผลในอดีต อาจไม่เพียงพอในการป้องกันเชื้อโรคสายพันธุ์ใหม่ที่แฝงตัวอยู่รอบตัวได้ รวมไปถึงปัญหามลพิษในอากาศ เช่น ฝุ่น PM 2.5 ที่ทวีความรุนแรงขึ้นทุกปี การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ ฆ่าเชื้อโรคของใช้ลูก จึงต้องเลือกที่สามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ และใช้ได้กับทุกคนภายในครอบครัว เพื่อความคุ้มค่าสูงสุด ความต้องการทีเปลี่ยนไปของผู้บริโภคทำให้มีการคิดค้นผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ ๆ ที่นำเอาเทคโนโลยีเชิงวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้มากขึ้น โดยเฉพาะในประเทศแถบเอเชีย เช่น เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และประเทศจีน โดยผลิตภัณฑ์เหล่านี้เกิดขึ้นมาเพื่อเป็นตัวเสริมจากการป้องกันตนพื้นฐาน เช่น การสวมหน้ากากอนามัย การพกพาเจลแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือ หรือการใช้สารฟอกขาวในการฆ่าเชื้อ ได้แก่ เทคโนโลยีเครื่องปล่อยโอโซน เครื่องผลิตไอออนประจุลบ เครื่องผลิตน้ำอิเล็กโทรไลต์ เครื่องฆ่าเชื้อด้วยรังสี UV เป็นต้นแต่อย่างไรก็ตามมีผลิตภัณฑ์มากมาย ที่ผลิตโดยไม่ได้มาตรฐานความปลอดภัย หรือไม่ได้ประสิทธิภาพตามคำโฆษณา จึงก่อให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี หรือไม่ได้ผลในการฆ่าเชื้อโรค ฉะนั้นเพื่อความปลอดภัยสูงสุด คุณแม่จึงต้องทำความเข้าใจรูปแบบของการ […]
BabyGift Grand Opening ฉลองเปิดสาขาใหม่ “ปิ่นเกล้า-ราชพฤกษ์” สาขาที่ 7 อย่างเป็นทางการตอกย้ำความเป็นผู้นำร้านจำหน่ายสินค้าแม่และเด็ก BabyGift พร้อมที่จะส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับคุณพ่อ-คุณแม่และลูกน้อยในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด ” The Best Gift for your Baby ” ขอขอบคุณ แบรนด์ Partner ผู้บริหาร และคณะกรรมการทุกท่านเป็นอย่างมาก ที่มาร่วมงาน และคอยสนับสนุนเบบี้กิ๊ฟอย่างดีตลอดมาค่ะ Attitude Mom Thailand : เครื่องปั๊มนม 5 โหมด อัจฉริยะ กรวยซิลิโคนแท้ Spectra Thailand เครื่องปั้มนม Iflin baby PUR Thailand Mellow for Kids ผ้ารองกันน้ำ100% เมลโล่ Bambies Thailand Baby Natura Beaba Thailand Luxury Baby […]
ร้านสินค้าแม่และเด็กที่คัดสรรนวัตกรรมของใช้แม่และเด็กที่มี
คุณภาพให้คำปรึกษาและบริการ อย่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อช่วยให้การเลี้ยงลูกเป็นเรื่องง่าย ปลอดภัย และมีความสุข
Online Shopping
สาขา ปิ่นเกล้า ราชพฤกษ์
สาขา Mega บางนา
สาขา Central World
สาขา The Crystal รามอินทรา
สาขา BTS วงเวียนใหญ่ (Outlet)
Copyright 2024 © Baby Gift (Retail) Co., Ltd.