คนจะเป็นแม่ต้องรู้ 9 ข้อห้ามสำหรับคนท้องอ่อน
ขอแสดงความยินดีกับว่าที่คุณแม่คนใหม่ด้วยนะคะ! กำลังกังวลกันอยู่ใช่มั้ยล่ะ ว่าตอนท้องอ่อนๆ จะสามารถทำอะไรได้บ้างทำอะไรไม่ได้บ้าง วันนี้เราเลยนำเรื่องที่คุณแม่มือใหม่ควรหลีกเลี่ยงมาบอกกันค่ะ ไม่แปลกใจที่คุณแม่บางท่านจะกังวลมากๆ ในช่วงท้องอ่อน เพราะในช่วงสามเดือนแรกนั้น อวัยวะต่างๆ ของลูกน้อยในท้องของคุณแม่ยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่ค่ะ ดังนั้นในระยะนี้จึงมีความเสี่ยงต่อการแท้งมากกว่าในไตรมาสอื่นๆ ช่วงนี้คุณแม่ที่ท้องอ่อนๆ ต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการรับประทานอาหาร สิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัว หรือการใช้ยาต่างๆ ดังนั้น เรื่องความปลอดภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญ กังวลได้แต่อย่าเครียดนะ เพราะความเครียดก็เป็นสิ่งที่คุณแม่ต้องพึงระวังไว้ด้วย
- ลาก่อนอาหารดิบ
กำลังคิดจะไปทานแซลมอน ลาบก้อย หอยนางรมฉลองสมาชิกใหม่กันอยู่รึเปล่า ช่วงนี้คุณแม่อาจจะต้องงดไว้ก่อนนะ เพราะอาหารที่ปรุงไม่สุกส่วนใหญ่อาจปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียที่จะทำให้คุณแม่ท้องเสียหรืออาเจียนได้ แถมยังอาจทำให้เป็นโรคทอกโซพลาสโมซิส (Toxoplasmosis) ซึ่งเจ้าโรคนี้เนี่ยมันเกิดจากเชื้อปรสิตทอกโซพลาสมา กอนดิไอ(Toxoplasma gondii) ที่สามารถแพร่ไปสู่ลูกน้อยในท้องของคุณแม่ได้ค่ะ เห็นชื่อน่ากลัวแบบนี้ มันก็น่ากลัวจริงๆ นะ เพราะหากติดโรคนี้ตอนท้องก็อาจจะทำให้แท้งไปเลย หรือไม่ก็ลูกอาจจะเสียชีวิตในท้อง ไม่ก็อาจมีอาการของโรคเมื่อคลอดออกมา สังเกตง่ายๆ เลยค่ะ ถ้าคุณแม่ที่ติดเชื้อนี้ตอนท้อง ลูกคลอดออกมาจะมีขนาดศีรษะที่ไม่ปกติ อาจจะเล็กหรือไม่ก็ใหญ่กว่าเด็กคนอื่นๆ แถมพอโตไปก็อาจจะตาบอดหรือสติปัญญาอาจจะด้อยกว่าเด็กอื่นๆ ด้วยนะ แต่แต่แต่ ถ้าคุณแม่เคยเป็นโรคนี้ก่อนท้องแล้วก็ชิวชิวค่า เพราะร่างกายคุณแม่มีภูมิคุ้มกันแล้ว ไม่กลับมาเป็นอีกแล้วล่ะ
- ยานี่แหละตัวดี
คุณแม่ที่กำลังใช้ยาอยู่ หยุดก่อนค่ะ! ได้ถามคุณหมอรึยังว่ายาตัวนั้นคนท้องทานได้มั้ย คุณแม่อย่าชะล่าใจไปน้าเพราะยามีหลายประเภทแล้วก็ออกฤทธิ์แตกต่างกัน เพราะงั้นยาบางตัวอาจมีผลต่อการสร้างอวัยวะของลูกน้อยได้ เช่นพวกยารักษาสิว Isotretinoin นี่ตัวดีเลยค่ะ เพราะมันเป็นยาที่รุนแรงมาก มากจนอาจทำให้ลูกพิการได้เลยนะ หรือพวกยาที่ใช้รักษาไมเกรน เช่น Cafergot เพราะมันทำให้มดลูกของพวกเราบีบตัวจึงอาจทำให้คลอดก่อนกำหนดได้ พอคุณแม่ทานยาเข้าไปปุ๊ป ลูกก็จะได้ยาพวกนี้ผ่านทางรกด้วยค่ะ แต่ผลกระทบต่อลูกก็จะขึ้นอยู่กับปริมาณยาที่คุณแม่ทานเข้าไปนะ เพราะฉะนั้นหากจะทานยา ให้คุณแม่ปรึกษาคุณหมอที่ฝากครรภ์ด้วยด่วนเลยค่ะ
- บุหรี่นี่พักไว้ก่อน
อย่าเพิ่งอ้างว่าบุหรี่ทำให้คุณแม่หายเครียด ถ้าสูบมากๆ อาจจะทำให้เครียดกว่าเดิมนะ ความจริงไม่ใช่แค่บรรดาคุณแม่ท้องอ่อนเท่านั้นที่ควรลดละเลิก แต่คุณแม่ท้องแก่ใกล้คลอดก็ควรจะอยู่ให้ไกลจากบุหรี่เลยค่ะ เพราะบุหรี่มีสารนิโคติน (Nicotine) ซึ่งเจ้าสารตัวนี้อาจทำให้ลูกเป็นเด็กสมาธิสั้น หรืออาจทำให้คุณแม่แท้ง ไม่ก็คลอดก่อนกำหนดได้นะ แถมลูกที่คลอดออกมาอาจตัวเล็กกว่าเกณฑ์แล้วก็หัวใจเต้นเร็วอีกต่างหาก ร้ายสุดอาจพิการเลยเชียวล่ะ และถึงแม้ว่าคุณแม่จะไม่ได้เป็นผู้สูบบุหรี่เองโดยตรงก็เถอะ ควันบุหรี่ที่ผู้อื่นสูบก็อาจมีผลต่อลูกน้อยในท้องด้วยนะคะ
- เลิกกันกับแอลกอฮอล์
เบียร์ที่คุณแม่ดื่มเข้าไป ลูกก็ได้ดื่มผ่านทางรกด้วยนะ! เวลาคุณแม่ดื่ม ระดับแอลกอฮอล์ในเลือดของลูกก็จะสูงพอๆ กับของคุณแม่เลย ไม่เคยทราบกันใช่มั้ยคะ? ข่าวร้ายคือลูกจะต้องใช้เวลามากกว่าถึงสองเท่าเพื่อที่จะขับพวกแอลกอฮอล์เหล่านี้ออกไปจากร่างกาย เพราะแบบนี้การดื่มแอลกอฮอล์จึงมีผลร้ายต่อลูกสุดๆ โดยเฉพาะในแง่ของพัฒนาการ คุณแม่ขาเที่ยวที่ดื่มจัดตอนท้องอาจมีลูกที่มีใบหน้าผิดแปลกไปจากเด็กคนอื่นๆ หรือระบบหัวใจมีความบกพร่องได้ค่ะ
- อบซาวน่าสบายใจแต่ร้อนไปก็ไม่ไหว
ถึงแม้ว่าการอบเซาว์น่าจะทำให้คุณแม่รู้สึกสบายก็เถอะ แต่การเข้าเซาว์น่าในช่วงท้องอ่อนก็อาจมีผลเสียร้ายแรงถึงขั้นทำให้เกิดการแท้งได้เลยนะ เพราะถ้าร่างกายของคุณแม่ร้อนเกิน 38.9 องศาเซลเซียสเป็นเวลานานๆ ก็จะส่งผลเสียต่อลูกในท้อง แถมอาจทำให้เกิดภาวะพิการแต่กำเนิดของลูกได้อีก นอกจากนี้ การอบเซาว์น่าเป็นเวลานานๆ ก็อาจทำให้คุณแม่เสียน้ำมากจนเป็นลมหมดสติไปได้ค่ะ ถ้าอยากผ่อนคลายจริงๆ ลองเอาเท้าแช่น้ำอุ่นๆ ดูมั้ย แค่นี้ก็ฟินอยู่นะ
- เครียดเช้าเย็นระวังเครียดสะสม
ไม่แปลกหรอกถ้าคุณแม่จะเครียด เอาจริงคงไม่มีใครที่ไม่เครียดหรอกใช่มั้ยล่ะคะ ยิ่งคุณแม่บางคนที่แพ้ท้องมากก็อาจจะทำให้เกิดอาการเครียดไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ความเครียดเหล่านี้จะส่งผลให้คุณแม่นอนไม่หลับ ปวดหลัง ปวดหัว อีกทั้งยังทำให้ภูมิต้านทานต่ำ ความเครียดที่สั่งสมไว้เยอะๆ อาจส่งผลให้เกิดภาวะเสี่ยงแท้ง หรือลูกน้อยในท้องเติบโตช้า เวลาเครียดคุณแม่จะหลั่งฮอร์โมนออกมาตัวนึงค่ะ ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้เนี่ยมันจะไปขัดขวางการเจริญเติบโตของสมองของลูกในส่วนของเส้นใยประสาท คุณแม่อาจจะเคยได้ยินผู้ใหญ่พูดกันว่า ท้องอย่าเครียด เดี๋ยวลูกขี้แง อันนี้ก็มีส่วนนะ เพราะลูกของคุณแม่ที่ชอบเครียดตอนท้องมักจะถูกกระตุ้นด้วยสิ่งเร้าได้ง่าย เช่น ตกใจง่าย โมโหง่าย ในขณะเดียวกันกลับปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมรอบตัวได้ค่อนข้างยากค่ะ
- แม่อดข้าว หนูอดด้วย
เคยหุ่นเป๊ะอยู่ดีๆ เริ่มเผละซะอย่างนั้น คุณแม่อย่าเพิ่งร้องไห้เสียใจกลัวหุ่นเสีย อาหารก็ห้ามอดเลยนะ เพราะถ้าคุณแม่อด ลูกจะทานอะไรล่ะ ลูกน้อยในท้องของคุณแม่จะได้รับสารอาหารก็ต่อเมื่อคุณแม่ได้รับประทานอาหารเข้าไปนะคะ สารอาหารเหล่านี้จะช่วยไปสร้างเซลล์ประสาทและเซลล์ที่สำคัญอื่นๆ ซึ่งพอคุณแม่อดอาหารบ่อยครั้งเข้า ลูกน้อยก็จะขาดสารอาหาร ทำให้เกิดผลเสียต่อสมองของลูกโดยตรง อีกทั้งยังทำให้ลูกมีพัฒนาการที่ช้ากว่าเด็กปกติทั่วไป นอกจากนี้ การอดอาหารก็จะทำให้คุณแม่เป็นโรคกระเพาะหรือเกิดภาวะกรดไหลย้อนได้ด้วยอีก
- ถึงจะท้องแต่ไม่ปล่อยสามีเหงา
มันก็ไม่ได้มีข้อห้ามไม่ให้กุ๊กกิ๊กกับคุณพ่อนะคะช่วงนี้ แต่คุณแม่บางท่านอาจจะถูกสั่งห้ามจากคุณหมอเพราะเคยแท้งน้องมาก่อน ส่วนคุณแม่ที่มีภาวะรกเกาะต่ำนี่ควรพักไว้ก่อน เพราะเวลากุ๊กกิ๊กกับคุณพ่ออาจจะไปกระตุ้นให้เลือดออกในปริมาณมากทำให้เกิดอันตรายได้ค่ะ แต่เอาจริง คุณแม่บางคนที่แพ้ท้องหนักๆ ก็อาจจะไม่ได้มีความต้องการด้านนี้เท่าไหร่นะ
- แม่รักสะอาด ขอคลีนช่องคลอดทุกเช้าเย็น
รักษาความสะอาดไม่ใช่เรื่องผิด แต่เช้าเย็นนี่ก็มากไป๊ เอาจริงช่วงท้องนี้คุณแม่ทำความสะอาดน้องหนูแค่เฉพาะภายนอกก็พอแล้วค่ะ เพราะการสวนล้างช่องคลอดจะไปทำลายแบคทีเรียที่มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ ที่คอยปกป้องช่องคลอดจากเชื้อโรคต่างๆ แถมยังจะทำให้เกิดแผลซึ่งเสี่ยงต่อการรับและติดเชื้อมากขึ้นไปอีกนะ
นู่นก็ไม่ได้นี่ก็ไม่ได้ อดทนไว้เพื่อลูกนะ! นอกจากข้อห้ามยาวยืดที่บอกไปแล้ว คุณแม่อย่าลืมไปฝากครรภ์ตามนัดกับทานยาบำรุงให้ครบด้วยนะคะ ถ้าคุณแม่รู้สึกมีอะไรแปลกๆ ก็อย่าปล่อยผ่าน รีบปรึกษาคุณหมอเลยค่ะ เผื่อมีอะไรร้ายแรงคุณหมอจะได้รักษาทันเนอะ
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
คุณแม่อาจป้อนอาหารบดละเอียดให้ลูกเสริมกับการกินนมแม่เป็นหลัก หรือถ้าคุณพ่อคุณแม่คนไหนอยากฝึก BLW ให้ลูกกินข้าวด้วยตัวเองเป็นก็อาจให้ลูกหยิบจับอาหารนิ่ม ๆ กินเองโดยที่ไม่ต้องป้อนซึ่งอาจเป็นอาหารที่ไม่ผ่านการปรุงมาก อย่างเช่น ผักต้มนิ่มๆ ผลไม้นิ่มๆ เนื้อปลาต้มนิ่มๆ และเมื่อลูกย่างเข้าสู่เดือนที่ 8 เป็นต้นไป ลูกก็จะเริ่มกินอาหารได้หลากหลายมากขึ้น คุณพ่อคุณแม่ก็อาจมองหาเมนูอาหารใหม่ๆ ให้กับลูกน้อย ซึ่งในบทความนี้ BabyGift มีเมนูอาหารเด็ก 8 เดือน 5 เมนูอร่อยมาแนะนำกัน จะมีอะไรบ้างนั้น ลองไปดูกันค่ะ ชวนเข้าครัวเตรียมเมนูอาหารเด็ก 8 เดือนให้ลูกน้อย เด็ก 8 เดือนกินอะไรได้บ้าง ? พอลูกของเราอายุ 6 เดือนขึ้นไป ก็จะสามารถกินอาหารเสริมนอกเหนือจากนมแม่เพิ่มเติมได้ และถ้าเป็นไปได้ คุณแม่ก็ควรให้นมแม่ควบคู่กับการเพิ่มมื้ออาหารให้ลูก ซึ่งอาหารสำหรับเด็กอ่อนนั้น สามารถใช้วัตถุดิบได้หลากหลาย และเมื่อลูกอายุ 8 เดือนก็จะเริ่มมีฟันน้ำนม สามารถกินอาหารได้อย่างหลากหลายมากขึ้น เนื้อสัมผัสอาหารมีความหยาบได้มากขึ้น รวมถึงกินผลิตภัณฑ์จากนมอย่าง เนย ชีส และโยเกิร์ตได้ สำหรับเมนูอาหารเด็ก 8 เดือนที่เราจะแนะนำกันนั้น สามารถใช้วัตถุดิบอะไรได้บ้าง มาดูกันค่ะ แนะนำ […]
ถึงเวลาเปลี่ยนคาร์ซีทกันแล้วหรือยังคะ ? เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่ที่เข้ามาอ่านบทความนี้ก็คงจะมีประสบการณ์เลือกคาร์ซีทเด็กเล็กกันมาบ้างแล้ว ตอนนี้กำลังมองหาคาร์ซีทเด็กโตให้กับเจ้าตัวน้อยที่กำลังนั่งตัวเดิมแล้วดูอึดอัดกันอยู่ใช่หรือเปล่าคะ ? ในบทความนี้ BabyGift จะชวนคุณพ่อคุณแม่มาดู 10 รุ่นคุณภาพดี พร้อมกับแนะนำการเลือกคาร์ซีทสำหรับเด็กโตกัน ลองมาดูกันว่า เมื่อเจ้าตัวเล็กของเราเริ่มจะโตขึ้น เราต้องใส่ใจกับเรื่องอะไรบ้าง มีคาร์ซีทรุ่นไหนบ้างที่น่าสนใจ มาหาคำตอบกันได้จากบทความนี้ค่ะ 10 คาร์ซีทเด็กโตคุณภาพดี แนะนำรุ่นฮิต ถูกใจคุณพ่อคุณแม่ by babyGift ! การเลือกคาร์ซีทนั้น นอกจากจะเลือกตามอายุ น้ำหนัก หรือส่วนสูงของลูกน้อยแล้ว อายุการใช้งานของคาร์ซีทก็เป็นสิ่งที่เราควรจะพิจารณาเป็นพิเศษ ก่อนที่เราจะไปดูคาร์ซีทสำหรับเด็กโตทั้ง 10 รุ่นที่ BabyGift แนะนำ จะขอพาผู้อ่านทุกคนมาทำความเข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับความสำคัญ และประเด็นต่างๆ ที่ควรจะพิจารณาก่อนเปลี่ยนคาร์ซีทกันก่อนค่ะ คาร์ซีทเด็กโต จำเป็นไหม ? ทำไมเด็กโตถึงยังต้องใช้คาร์ซีท สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ให้ลูกนั่งคาร์ซีทตั้งแต่เป็นยังเป็นเด็กเล็กก็คงจะไม่มีปัญหาเรื่องการฝึกลูกนั่งคาร์ซีท แต่สำหรับบ้านไหนที่เด็กๆ เริ่มโตแล้ว และจะต้องนั่งคาร์ซีทตามข้อกฏหมายอันมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 17 ส.ค. 2566 เป็นต้นมา ก็ไม่ต้องกังวลไปนะคะ การฝึกลูกนั่งคาร์ซีทไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไป แต่ก็ยังมีคุณพ่อคุณแม่บางคนอาจจะเกิดคำถามในใจว่า คาร์ซีทสำหรับเด็กโต มีความจำเป็นไหม ? ซึ่งคาร์ซีทสำหรับเด็กโตนั้น […]
สอนดูแลลูกตั้งแต่แรกเกิดแบบจับมือทำ โดยผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพที่มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี เพราะการเลี้ยงลูกไม่ใช่เรื่องง่าย..#BabyGift เข้าใจและมองเห็นถึงความสำคัญ จึงได้ร่วมกับ พี่กัลนมแม่ กลุ่มแม่และเด็ก คลินิกนมแม่ สรุปเทคนิคดูแลทารกแรกเกิด โดยผู้เชี่ยวชาญ #พี่กัลนมแม่ จากในงาน 𝐌𝐨𝐦𝐦𝐲’𝐬 𝐋𝐨𝐯𝐞 𝐌𝐚𝐠𝐢𝐜 จะมีอะไรบ้าง ? ตามมาดูกันเลยค่ะ 1. ดูแลการกินของทารก #นมแม่ดีที่สุด ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทาน ลดความเสี่ยงติดเชื้อต่างๆ ได้ ถ้าลูกไม่ยอมดูดเต้าให้แม่ใช้เครื่องปั๊มนม และขวดนมแรกเกิดป้อนนมแม่ให้กับลูกน้อยแทน 2. หมั่นสังเกตการเจริญเติบโตลูกน้อย ปกติแล้วประมาณ 2 สัปดาห์ น้ำหนักลูกน้อยจะเพิ่มขึ้น วันละ 30 กรัม หากน้ำหนักเพิ่มน้อยกว่านี้ ควรรับคำแนะนำจากแพทย์ค่ะ 3. สังเกตการขับถ่ายของลูก อุจจาระแต่ละสีบอกสุขภาพลูกได้ หากมีสีขาวหรือแดงเข้ม หรือหากมีปัสสาวะขุ่น มีตะกอน อาจมีการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะได้ ควรปรึกษาแพทย์ทันที 4. การนอนของทารก ท่านอนที่ดีที่สุดของทารก คือ การนอนหงาย เด็กแรกเกิดควรนอน 16-18 ชั่วโมง/วัน เพื่อให้ Growth Hormone […]
แพมเพิส หรือผ้าอ้อมสำเร็จรูป เรียกว่าเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับเด็กเล็กที่จะใช้กันตั้งแต่แรกเกิด เพราะว่าช่วยให้คุณพ่อคุณแม่สะดวกสบายมากขึ้น ประหยัดเวลาในการซักทำความสะอาด แถมเวลาออกจากบ้านก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการเปื้อนเลอะ ซึ่งคุณแม่หลายๆ คนอาจจะมีคำถามในใจว่าจะให้ลูกเลิกแพมเพิสกี่ขวบดี ดังนั้นในบทความนี้ BabyGift จะมาไขข้อข้องใจให้กับคุณแม่กันค่ะ ให้ลูกเลิกแพมเพิสกี่ขวบดี ? ชวนคุณแม่ทำความเข้าใจก่อนให้ลูกเลิกใช้แพมเพิส หนึ่งในคำถามยอดนิยมของเหล่าคุณแม่ก็หนีไม่พ้นเรื่องที่ว่าจะให้ลูกเลิกใช้ผ้าอ้อมสำเร็จรูปเมื่อไหร่ดี เนื่องจากเรื่องของค่าใช้จ่าย ความกังวลที่ว่าลูกจะติดแพมเพิส ความสะดวกสบายในการสวมใส่ของเด็ก ฯลฯ อีกมากมาย สำหรับเรื่องของช่วงเวลาของการเลิกแพมเพิสนั้นจะเป็นยังไงบ้าง เรามาดูรายละเอียดกันเลยค่ะ เลิกแพมเพิสกี่ขวบดี ? ถ้าจะถามว่าควรเลิกใช้ผ้าอ้อมสำเร็จรูปเมื่อไหร่ดี จริงๆ ไม่ได้มีกำหนดตายตัวค่ะ อยากให้ดูจากความพร้อมของลูก และคุณพ่อ คุณแม่ มากกว่า เด็กบางคน 8 เดือนก็เลิกได้แล้ว บางคนก็มาเลิกได้ตอนช่วงก่อนเข้าโรงเรียนในช่วง 3 – 4 ขวบ ดังนั้น BabyGift จึงพูดได้ว่าไม่ได้มีกำหนดเวลาตายตัวจริงๆ และคุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ควรไปกดดันน้องๆ ให้ลูกของเรามีความพร้อมจะดีที่สุดค่ะ ซึ่งสิ่งสำคัญคือต้องอดทนและให้กำลังใจเด็ก เพราะว่าการฝึกขับถ่ายเป็นก้าวสำคัญของพัฒนาการ และแต่ละคนมีจังหวะที่แตกต่างกัน ไม่ควรกดดันหรือเปรียบเทียบกับเด็กคนอื่น และหากว่าคุณแม่มีข้อกังวลอื่นๆ อาจปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำค่ะ แล้วจะรู้ได้ยังไงว่า ลูกของเราพร้อมที่จะเลิกแพมเพิส ? สิ่งสำคัญของเรื่องนี้คือ ให้ลูกสบายใจ […]
หลากหลายฟังก์ชั่น ช่วงอายุการใช้งานยาวนาน รองรับเด็กมีความสูง 76 ถึง 150 ซมผ่านมาตรฐานความปลอดภัย I-size R 129 และการรับรองจากสภาบันชั้นนำ เบาะกว้าง นั่งสบาย นุ่มกว่าที่เคยสัมผัสรองรับเด็กน้ำหนัก 15 ถึง 36 กิโลกรัมผ่านมาตรฐาน ECE R44-04และการทดสอบจากสถาบันชั้นนำในยุโรป พกพาสะดวก ติดตั้งง่ายรองรับเด็กน้ำหนัก 15 ถึง 36 กิโลกรัมผ่านมาตรฐานความปลอดภัย ECE R44-04
ใครๆ ก็รู้ว่าน้ำนมแม่สำคัญต่อพัฒนาการของลูกน้อยมากแค่ไหน แต่น้ำนมของคุณแม่แต่ละคนไม่ได้มีเยอะเท่ากันใช่มั้ยหล่ะคะ บางคนก็เยอะ บางคนก็น้อย บางคนก็ไม่มี ดังนั้นการกระตุ้นน้ำนมอย่างถูกวิธีมีความสำคัญอย่างมากต่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ซึ่งเป็นวิธีการเลี้ยงดูที่ดีที่สุดสำหรับทารกในช่วงแรกเกิด และในบทความนี้ BabyGift จะพาคุณแม่ไปรู้จักกับวิธีกระตุ้นน้ำนมกันค่ะว่าจะมีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยแม่ๆ ที่มีปัญหาเรื่องน้ำนมได้บ้าง แชร์วิธีกระตุ้นน้ำนมแม่ ทำยังไงให้คุณแม่มีน้ำนมเพียงพอ ส่งต่อสุขภาพดีๆ ให้ลูก การกระตุ้นน้ำนมแม่มีความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายผลิตน้ำนมให้เพียงพอต่อความต้องการของทารก เพราะน้ำนมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารกในช่วง 6 เดือนแรก ซึ่งจะช่วยให้ทารกได้รับสารอาหารครบถ้วน เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และช่วยให้ร่างกายทารกเจริญเติบโตอย่างเต็มที่และแข็งแรง แถมยังเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์แม่ลูกให้แน่นแฟ้น เพราะในขณะที่แม่ให้นมลูก จะเกิดการหลั่งฮอร์โมนความรักและผูกพันกัน ช่วยเสริมสร้างความรู้สึกอบอุ่น ความปลอดภัยให้แก่ทารกค่ะ เอาหล่ะค่ะ แล้ววิธีกระตุ้นน้ำนมแม่มีอะไรบ้าง เรามาดูกันต่อเลยค่ะ วิธีกระตุ้นน้ำนมแม่ มีอะไรบ้าง ? มีหลายวิธีในการกระตุ้นการไหลของน้ำนมแม่ค่ะ เป็นวิธีง่ายๆ ที่ทำได้จริง ซึ่งการทำตามวิธีเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอและถูกวิธี จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายผลิตน้ำนมได้อย่างเต็มที่ มาดูกันค่ะ 1. การดื่มน้ำ : และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ : วิธีง่ายๆ แต่ส่งผลต่อปริมาณและคุณภาพของน้ำนมแม่ คุณแม่ลองใส่ใจในการกินอาหารให้มากขึ้น เช่น ถั่วงอก ข้าวกล้อง น้ำผลไม้ กระเจี๊ยบเขียว […]
ร้านสินค้าแม่และเด็กที่คัดสรรนวัตกรรมของใช้แม่และเด็กที่มี
คุณภาพให้คำปรึกษาและบริการ อย่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อช่วยให้การเลี้ยงลูกเป็นเรื่องง่าย ปลอดภัย และมีความสุข
Online Shopping
สาขา ปิ่นเกล้า ราชพฤกษ์
สาขา Central World
สาขา BTS วงเวียนใหญ่
สาขา นอร์ทปาร์ค วิภาวดี
สาขา The Crystal รามอินทรา
สาขา Mega บางนา
Copyright 2024 © Baby Gift (Retail) Co., Ltd.