เป้อุ้มทารก ยี่ห้อไหนดี ? คุณภาพดี๊…ดี อัปเดตปี 2024 พร้อมคำแนะนำในการเลือกเป้อุ้มเด็กที่พ่อแม่ควรรู้ !

เป้อุ้มเด็กเป็นตัวช่วยอย่างหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต่างให้ความสนใจไม่แพ้กับคาร์ซีทและรถเข็นเด็กที่เป็นของจำเป็นสำหรับการเลี้ยงลูกน้อย โดยเฉพาะพ่อแม่เด็กอ่อนที่ต้องอุ้มลูกแทบจะตลอดเวลา หากอุ้มลูกนาน ๆ ก็อาจจะทำให้เมื่อยล้า ปวดแขน ปวดไหล่ ปวดหลัง และมีปัญหาด้านสุขภาพตามมาได้ จึงมองหาเป้อุ้มเด็กแรกเกิดที่จะมาช่วยทุ่นแรงให้อุ้มลูกน้อยได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น ในบทความนี้ BabyGift จะขอแนะนำยี่ห้อเป้อุ้มทารกที่คุณภาพดี เป็นที่นิยมกันในตลาด พร้อมคำแนะนำในการเลือกให้กับคุณพ่อคุณแม่กันค่ะ 

BabyGift แนะนำยี่ห้อเป้อุ้มทารกคุณภาพดี พร้อมวิธีการเลือกที่พ่อแม่ต้องรู้ ! 

เป้อุ้มเด็ก หรือ เป้อุ้มทารก เป็นอุปกรณ์ทุ่นแรงให้กับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ เพื่อให้อุ้มลูกน้อยได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น ไม่เหนื่อยไม่เมื่อยจนเกินไปในเวลาที่ต้องอุ้มลูกนาน ๆ และยังสามารถทำกิจกรรมอื่น ๆ ได้ในขณะเดียวกัน โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีใครดูลูก หรือต้องปล่อยให้ลูกอยู่ห่างจากตัว เป้อุ้มเด็กนั้นเหมาะสำหรับการอุ้มเด็กเล็กตั้งแต่ช่วงแรกเกิดไปจนถึงอายุ 2 – 3 ขวบ ซึ่งเป้อุ้มเด็กจะมีประโยชน์อย่างมากในครอบครัวที่ไม่มีคนดูแลเด็กเมื่อคุณพ่อคุณแม่ต้องออกไปทำธุระอื่น ๆ นอกบ้าน หรือโดยเฉพาะคุณแม่ที่ต้องทำงานบ้านไปด้วยเลี้ยงลูกไปด้วย ก็สามารถใช้เป้อุ้มเด็กเพื่อให้ลูกอยู่กับตัวเองได้ และสามารถทำกิจกรรมอื่น ๆ ได้ด้วย โดยสามารถใช้เป้อุ้มเด็กแรกเกิดไปจนถึง 1 ขวบขึ้นไป และบางรุ่นก็สามารถใช้ได้จนถึง 3 ขวบเลยทีเดียว ซึ่งเป้อุ้มเด็กในท้องตลาดก็มีอยู่มากมายหลายยี่ห้อด้วยกัน แล้วคุณพ่อคุณแม่จะเลือกยังไง วันนี้เรามียี่ห้อมาแนะนำกันค่ะ

1. Hugpapa 

แบรนด์ Hugpapa เป็นแบรนด์ดังจากประเทศเกาหลีใต้ ที่ทางแบรนด์เน้นการผลิตและจำหน่ายเป้อุ้มเด็กโดยเฉพาะ และขึ้นชื่อเรื่องนวัตกรรมเป้อุ้มเด็กที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ให้ได้มากที่สุด และนอกจากนี้ ก็มีอุปกรณ์เสริมอื่นๆ จำหน่ายแยกอีกด้วย 

สำหรับเป้อุ้มทารกจากแบรนด์ Hugpapa ที่ BabyGift อยากจะแนะนำก็คือ เป้อุ้ม Hugpapa รุ่น Dial-Fit Pro (3in1 Hip Seat Carrier) ที่มีเทคโนโลยี BOA ช่วยปรับให้เป้มีความกระชับตัวได้ง่ายมากขึ้นเพียงแค่หมุน ใช้งานได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และสามารถปรับได้พอดีกับสรีระของทุกคน ตัว Hipseat เป็น EPP Foam มีน้ำหนักเบาสบายเพียง 555 กรัม สามารถอุ้มลูกน้อยได้อย่างง่ายดาย 

 จุดเด่น  

  • วัสดุทำจาก Polyurethane มีความนุ่มพิเศษ ไม่เสียทรง คืนรูปรวดเร็ว  
  • ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ ฮิปซีทที่นั่งเอียง 23 องศา ช่วยให้ลูกนั่งสบายมากขึ้น และเป็นแบบ M-Shape ที่ช่วยป้องกันข้อสะโพกหลุดในเด็ก 
  • ฮิปซีทเว้าโค้งช่วยให้เข่า และสะโพกเด็ก อยู่ในระดับเดียวกัน และโค้งรับหน้าท้อง ไม่กดแผลผ่าคลอดของคุณแม่ 
  • ได้รับการรับรองจากสถาบัน IHDI มั่นใจได้ว่าลูกนั่งสบายอย่างปลอดภัย ไม่ทำให้ขาโก่ง หลังงอ
  • มีหมวกคลุมศีรษะ ช่วงป้องกันแสงแดดให้ลูกน้อย  
  • มีผ้าซับน้ำลาย Organic ไม่ระคายเคืองผิว สามารถถอดซักได้  
  • มีแผ่นพยุงศีรษะลูกน้อย ช่วยป้องกันปัญหาคอพับ  
  • มีช่องตาข่ายระบายอากาศ สามารถเปิดระบายเหงื่อและความร้อนได้  
  • สายคาดเอวระบายอากาศได้ดี วัสดุเป็นตาข่ายแบบนุ่มพิเศษ ไม่ทำให้ร้อน  

การใช้งาน : ตั้งแต่แรกเกิดถึง 36 เดือน รองรับน้ำหนักได้สูงสุด 20 กิโลกรัม 

แบรนด์ : ประเทศเกาหลี

2. HAENIM 

HAENIM เป็นแบรนด์สินค้าแม่ และเด็กจากประเทศเกาหลีใต้ ที่มุ่งมั่นคิดค้นพัฒนาสินค้าแม่และเด็ก เพื่อมอบความสะดวกสบายและสุขภาพที่ดีให้พ่อแม่และลูกน้อย ด้วยผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กที่มีเทคโนโลยีนวัตกรรมใหม่ไม่เหมือนใคร จนสินค้ากลายเป็นที่นิยมในประเทศชั้นนำทั่วโลก นอกจากจะจำหน่ายเป้อุ้มเด็กแล้ว ยังมีสินค้าอื่นๆ เช่น เครื่องปั๊มนม ถุงเก็บน้ำนม และกรวยปั๊มนมจำหน่ายอีกด้วยนะคะ   

สำหรับเป้อุ้มทารกของ HAENIM ที่ BabyGift อยากแนะนำนั้น คือ HAENIM 9 Plus (Hipseat Carrier) ที่เป็นเป้อุ้มเด็กเพื่อสุขภาพ ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่อุ้มลูกได้อย่างสบาย ไม่ทำให้ปวดหลัง ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ ซัพพอร์ตการอุ้มเด็กเล็กได้อย่างปลอดภัย สามารถปรับการใช้งานได้ถึง 9 รูปแบบ มี 3D Head Support ช่วยประคองศีรษะของลูกน้อยให้ตั้งตรง มั่นใจว่าปลอดภัยต่อลูกน้อย ดูแลรับประกันสินค้านาน 2 ปี  

 จุดเด่น 

  • ฐานนั่งแบบ M-Shaped ให้ลูกน้อยนั่งอย่างถูกสรีระ ป้องกันข้อต่อสะโพกอักเสบ  
  • ฮิปซีทมีความยืดหยุ่น และมีรูปทรงที่โค้งมนช่วยลดการกดทับบริเวณหน้าท้องของคุณแม่ 
  • มี Newborn Support ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ของทารก ช่วยซัพพอร์ตการอุ้มเด็กเล็กอย่างปลอดภัย  
  • สายคาดเอวสามารถคาดได้สูงสุดถึง 44 นิ้ว และสามารถเพิ่มขยายให้ใช้ได้ถึง 52 นิ้ว 
  • เนื้อผ้ามีคุณสมบัติเบา ระบายอากาศได้เป็นอย่างดี วัสดุภายนอกทำจากผ้า Melange ช่วยป้องกันละอองฝน และแสงแดดได้ดี  
  • ช่วยในเรื่องการกระจายน้ำหนักได้เป็นอย่างดี เหมาะกับคุณแม่ที่ต้องอุ้มลูกเป็นระยะเวลานาน 
  • หมอนประคองคอสำหรับเด็กถูกออกแบบมาพิเศษ เพื่อป้องกันกระดูกบริเวณคอเคลื่อนผิดรูป 
  • ผ้าซับน้ำลายทำจากผ้าฝ้ายออแกนิคแท้ 100% ปลอดภัยต่อสารเคมี
  • มีหมวกคลุมศีรษะที่ช่วยปกป้องแสงแดดให้ลูก สามารถถอดซักได้  

การใช้งาน : ตั้งแต่แรกเกิดถึง 36 เดือน รองรับน้ำหนักได้สูงสุด 20 กิโลกรัม 

แบรนด์ : ประเทศเกาหลี

3. BABY&Me  

แบรนด์ BABY&Me เป็นแบรนด์สินค้าแม่และเด็กที่มีชื่อเสียงในประเทศญี่ปุ่น โด่งดังในเรื่องสินค้ากลุ่มเป้อุ้มเด็กที่ถูกจัดอันดับให้เป็นแบรนด์เป้อุ้มเด็กอันดับ 1 ในญี่ปุ่นเลยทีเดียว นอกจากตัวเป้อุ้มเด็กแล้วก็ยังจำหน่าย Accessories ที่เกี่ยวกับเป้อุ้มเด็กอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นที่นั่งเสริม สายรัดตัวเด็ก ผ้ารองคอเด็กทารก และอื่นๆ  

BABY&Me เป็นแบรนด์เป้อุ้มเด็กในญี่ปุ่นที่ได้รับรางวัลมามากมาย เช่น Good Design Award / Kids Design Award / No.1 Parenting Award จึงรับรองได้ว่าเป็นเป้อุ้มเด็กที่มีคุณภาพดี ได้มาตรฐาน และเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง ได้รับการออกแบบโดยการศึกษาวิจัยเรื่ององศาการลงน้ำหนักที่ถูกต้อง จะไม่ทำให้คุณพ่อคุณแม่ปวดไหล่ หลัง เข่า อุ้มลูกน้อยได้อย่างสบายตัวไม่มีเมื่อยเลยค่ะ  BabyGift จึงอยากแนะนำเป้อุ้มทารก BABY&Me ให้คุณพ่อคุณแม่ได้รู้จักกัน 

จุดเด่น

ได้รับการวิจัยร่วมกับมหาวิทยาลัยโอซาก้าว่าขณะใช้เป้อุ้มนั้น น้ำหนักของเด็กจะะทำให้เบาลงไปได้ถึง 53% (ทดสอบกับเด็กช่วงน้ำหนัก 6.5 – 11.2 กิโลกรัม) 

  • ในส่วนของเบาะนั่งนั้น มีการทำส่วนที่ซัพพอร์ตก้นเด็ก ทำให้เวลาลูกนั่งจะไม่เมื่อย ไม่ปวดก้น นั่งสบาย ถูกสรีระ 
  • มีอุปกรณ์ซัพพอร์ตคอของเด็ก และซัพพอร์ตตัวลูก เหมือนถูกคุณพ่อคุณแม่กอดไว้  
  • เนื้อผ้าเป็น Waterproof Fabric ง่ายต่อการทำความสะอาด 
  • มีตาข่ายเปิดระบายอากาศ ไม่ทำให้ลูกร้อน แต่หากต้องการให้อบอุ่นขึ้นสามารถรูดซิปปิดได้ 

การใช้งาน : ตั้งแต่แรกเกิด – 3 ปี รองรับน้ำหนักได้สูงสุด 20 กิโลกรัม 

แบรนด์ : ประเทศญี่ปุ่น

4. POGNAE 

POGNAE เป็นแบรนด์จากประเทศเกาหลีใต้ที่จำหน่ายเป้อุ้มเด็ก และอุปกรณ์เสริมสำหรับเป้อุ้มเด็ก การันตีคุณภาพจากรางวัล BEST BABY CARRIER 5 ปีซ้อน ตั้งแต่ปี 2019 – 2023 และได้รับรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งยังเป็นแบรนด์ยอดนิยมที่สุดในหลายประเทศทั้งเอเซีย ยุโรป และอเมริกา มียอดขายเป็นอันดับ 1 ในเกาหลีใต้ จึงมั่นใจในเรื่องของคุณภาพและความยอดนิยมจากแบรนด์นี้ได้เลยค่ะ 

สำหรับเป้อุ้มทารกของ POGNAE ที่ BabyGift อยากแนะนำคือ POGNAE เป้อุ้มเด็ก รุ่น No.5 Max ที่รวมทุกสิ่งที่ดีที่สุดไว้ในเป้รุ่นเดียว ทั้งผ้าอุ้มเด็ก Step One Shawl uv Air หรือผ้าอุ้มเด็กแรกเกิด พร้อมระบบ Safety Lock Upgrade ถอดเป้ได้เงียบกริบ ไม่ต้องกลัวลูกตื่น ได้รับการรับรองจากสถาบัน IHDI ว่าลูกใช้แล้วขาไม่โก่ง หลังไม่งอ ปลอดภัยทุกวินาทีที่อยู่บนเป้ 

จุดเด่น  

  • มี Baby Stay ที่ช่วยพยุงก้นลูก ออกแบบตามหลักสรีรวิทยา  
  • สามารถปรับการนั่งได้มากถึง 10 ท่า ตามการเจริญเติบโตของลูกน้อยอย่างถูกหลักสรีรศาสตร์  
  • มี Breathable Cool Mesh หรือระบบระบายอากาศรอบทิศทาง เหมาะกับอากาศประเทศไทย 
  • มีแกนพยุงสะบัก ไม่ก่อให้เกิดอาการปวดคอ บ่า ไหล่ ไม่กดทับแผลผ่าคลอดของคุณแม่ 
  • มีเหล็กเสริมพยุงหลัง 4 ชั้น ไม่ทำให้ปวดหลัง เอว สะโพก กระจายน้ำหนักได้ดี 
  • สามารถปรับเป็นแบบ M Shape / U Shape ได้ตามสรีระ และการเติบโตของลูก ไม่ทำให้ลูกมีปัญหาขาโก่งตามมา 
  • ทำจากผ้า Waterproof กันน้ำ ไม่เก็บความชื้น สามารถซักทำความสะอาดได้ 

การใช้งาน : ตั้งเเต่เเรกเกิดถึง 6 ขวบ รองรับน้ำหนักมาถึง 20 กิโลกรัม 

แบรนด์ : ประเทศเกาหลี

การอุ้มลูกนั้นดีอย่างไร ?  ทำไมการใช้เป้อุ้มเด็กแรกเกิดถึงจำเป็น ?

คุณพ่อคุณแม่บางท่านอาจจะเกิดความสงสัยว่า การที่เราใช้เป้อุ้มทารกและอุ้มลูกติดตัวเราเกือบจะตลอดเวลานั้น เป็นผลดีต่อตัวลูกน้อยหรือไม่ ลูกจะติดมือเราหรือเปล่า หรือจะทำให้ลูกงอแงหรือไม่ ขอบอกเลยว่าการอุ้มลูกน้อยนั้นดีต่อตัวเด็กมากๆ ค่ะ เพราะนอกจากจะช่วยให้เด็กรู้สึกอบอุ่นปลอดภัยเมื่อได้อยู่ใกล้ชิดพ่อแม่แล้ว การอุ้มลูกนั้นมีข้อดีอยู่หลายอย่างด้วยกัน ดังนี้ค่ะ 

  1. การอุ้มลูกจะช่วยให้ลูกปรับอุณหภูมิร่างกายได้ดีขึ้น
    ในเด็กแรกเกิดร่างกายจะอ่อนแอและบอบบางมาก ระบบการทำงานต่างๆ ของร่างกายยังไม่ถูกพัฒนาให้เทียบเท่ากับผู้ใหญ่ทั่วๆ ไป โดยเฉพาะระบบการปรับอุณภูมิของร่างกาย การอุ้มลูกแนบชิดกับตัวจึงช่วยทำให้ทารกได้รับรู้ถึงอุณภูมิของร่างกายคุณพ่อคุณแม่ ทำให้ลูกน้อยรู้สึกอบอุ่นมากขึ้นและร่างกายอุ่นขึ้นค่ะ 
  2. ช่วยส่งเสริมความมั่นคงทางอารมณ์
    จากการศึกษาของ Nationwide Children’s Hospital ในรัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา แสดงให้เห็นว่า เด็กจะรับรู้ได้ถึงความรักและความเอาใจใส่จากพ่อแม่ผ่านการสัมผัสหรืออุ้ม และจากภาษากายต่างๆ การที่พ่อแม่อยู่ใกล้ชิดกับลูก อุ้มลูกบ่อยๆ หรือแสดงความรักต่อลูก ไม่เพียงแต่จะทำให้ลูกมีความสุขหรือรู้สึกอบอุ่นปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังเป็นการวางพื้นฐานการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่นในอนาคตด้วย
  3. เด็กจะมีการพัฒนาการที่ดีขึ้น 
    เด็กที่ได้รับการสัมผัสมากพอ เซลล์สมองจะเติบโตและมีการขยายตัว ประสาทสัมผัสจะว่องไว และสามารถเรียนรู้ได้เร็วกว่าเด็กที่ไม่มีคนอุ้มหรือได้รับการสัมผัส ซึ่งจากการทดลองของ Nationwide Children’s Hospital ในรัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา ที่ได้ศึกษาทดลองเกี่ยวกับเด็กที่คลอดก่อนกำหนด พบว่าเด็กที่มีพ่อแม่กับคนดูแลอุ้มบ่อยๆ จะตอบสนองกับการสัมผัสได้ดีมากกว่าเด็กที่ไม่ค่อยมีคนดูแลค่ะ 
  4. ปอดและหัวใจของลูกน้อยจะแข็งแรงขึ้น
    การอุ้มลูกน้อยไว้ในอกนั้น ความใกล้ชิดจะทำให้เจ้าตัวน้อยได้ยินเสียงหัวใจของคุณแม่เป็นจังหวะอย่างชัดเจน จึงทำให้ลูกมีจังหวะการหายใจที่พร้อมกับจังหวะการหายใจของคุณแม่ ส่งผลให้ปอดและหัวใจของลูกน้อยพัฒนาได้ดียิ่งขึ้นและมีความแข็งแรงมากขึ้นตามไปด้วย 
  5. สามารถปรับตัวต่อสถานการณ์ที่ตึงเครียดได้ดี
    จากการศึกษาวิจัยของนักวิทยาศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัย Columbia ที่ศึกษาถึง อิทธิพลของความรักและการเอาใจใส่จากแม่ลิงที่มีต่อพฤติกรรมของลูกลิงเมื่อโตขึ้น พบว่าลูกลิงที่ได้รับการสัมผัสดูแลจากแม่ลิงบ่อยๆ ในช่วงสัปดาห์แรกของชีวิต จะมีความสามารถในการปรับตัวต่อสถานการณ์ที่ตึงเครียดได้ดีกว่าลูกลิงที่ไม่ได้รับการสัมผัสจากแม่ ซึ่งการศึกษานี้สามารถนำมาอ้างอิงถึงการปรับตัวของมนุษย์ได้เช่นกัน 

ชวนดูประโยชน์ของเป้อุ้มทารก ตัวช่วยสำคัญของพ่อแม่ยุคใหม่  

ได้ทำความรู้จักแบรนด์คุณภาพกันไปแล้ว ได้รู้แล้วว่าการอุ้มเด็กไว้กับตัวนั้นมีข้อดีมากมายแค่ไหน ตอนนี้เราจะพาคุณพ่อคุณแม่มาดูข้อดีของการใช้เป้อุ้มเด็กกันต่อ จริงๆ แล้ว BabyGift เคยเขียนเรื่องนี้ไปแล้ว แต่จะขอเลือกมาบางส่วนเพื่อเป็นไอเดียให้คุณพ่อ คุณแม่นะคะ  

  1. ช่วยเซฟแรงของคุณพ่อคุณแม่ ทำให้คุณพ่อคุณแม่ไม่เมื่อยล้า เพราะเป้อุ้มเด็กจะช่วยรองรับน้ำหนักตัวของลูกและช่วยกระจายน้ำหนักได้ดี 
  2. สามารถทำกิจกรรมอื่นๆ ขณะอุ้มลูกได้ เช่น เดินซื้อของ หรือทำงานบ้าน โดยไม่ต้องพะวงว่าลูกจะหล่นหรือจะไม่มีใครดูลูก เพราะลูกอยู่ใกล้ชิดเราตลอดเวลา สร้างความสะดวกสบายในการเลี้ยงลูกให้กับคุณพ่อคุณแม่อย่างมาก   
  3. ทำให้ลูกน้อยรู้สึกอบอุ่นปลอดภัย เพราะได้อยู่ใกล้ชิดคุณพ่อคุณแม่ตลอดเวลา และจากการศึกษาของ Nationwide Children’s Hospital ในรัฐโอไฮโอ กล่าวว่า การอุ้มลูกบ่อยๆ นั้น จะทำให้เด็กมีความมั่นคงทางอารมณ์ และช่วยเสริมสร้างพัฒนาการที่ดีให้กับลูกน้อยด้วยค่ะ  
  4. ทำให้ลูกสงบ ไม่งอแง เมื่อลูกน้อยอยู่ในเป้อุ้มเด็กแรกเกิดนั้น จะได้ใกล้ชิดกับคุณแม่และได้ยินเสียงหัวใจของคุณแม่ คล้ายกับเวลาอยู่ในครรภ์ ทำให้ลูกน้อยรู้สึกสงบ หลับสบาย ไม่งอแงนั่นเองค่ะ  
  5. ช่วยลดภาวะซึมเศร้าหลังคลอดของคุณแม่ การได้ใกล้ชิดกับลูกน้อยนั้น จะทำให้สมองหลั่งฮอร์โมนออกซิโทซินออกมา ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการซึมเศร้าหลังคลอดได้ และนอกจากนี้ การที่คุณแม่พาลูกน้อยออกไปนอกบ้านโดยใช้เป้อุ้มเด็ก ได้ไปเดินเล่น ได้พบปะผู้คน หรือทำกิจกรรมต่างๆ จะช่วยให้คุณแม่ไม่เครียด ได้ผ่อนคลาย ช่วยคลายความวิตกกังวลไปได้  ซึ่งจะช่วยลดความตึงเครียดและอาการซึมเศร้าหลังคลอดลงได้ 

จะเลือกเป้อุ้มทารกอย่างไรดี ?  

คุณพ่อคุณแม่บางท่านอาจเคยได้ยินมาว่าการใช้เป้อุ้มเด็ก ใช้แล้วลูกขาโก่ง ต้องบอกเลยว่า การที่เด็กขาโก่งไม่ได้เป็นผลมาจากการใช้เป้อุ้มเด็กแต่อย่างใด แต่เกิดจากกรรมพันธ์ุและความผิดปกติของร่างกาย ซึ่งโดยปกติแล้ว กระดูกขาของเด็กเล็กนั้นจะมีความโค้งงอเล็กน้อย และจะค่อยๆ ยืดตรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเด็กโตขึ้น หรือบางคนอาจเคยได้ยินมาว่า การใช้เป้อุ้มเด็กแรกเกิดจะทำให้เกิดโรคข้อสะโพกหลุดในเด็กเล็ก ซึ่งความจริงแล้ว หากเลือกเป้อุ้มเด็กที่สอดคล้องกับสรีระของเด็กเล็กและปลอดภัยกับลูกน้อย มีการออกแบบที่ได้มาตรฐานและได้รับการรับรองว่าเมื่อใช้แล้วจะไม่ก่อให้เกิดอันตรายกับอวัยวะและสรีระของลูก ก็สามารถใช้ได้อย่างปลอดภัย ซึ่งมีวิธีเลือกดังนี้ค่ะ  

  1. เลือกเป็นเป้อุ้มทารกที่เด็กสามารถหันหน้าเข้าหาตัวคุณพ่อคุณแม่ได้ และช่วยรองรับกระดูกสันหลังและศีรษะของทารกได้ดี มีความยืดหยุ่นที่เด็กสามารถเอนตัวและขยับเคลื่อนไหวสะโพกได้ รวมถึงสามารถขยับแขนขาได้อย่างอิสระ 
  2. เลือกที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ ลูกใช้แล้วไม่ทำให้เด็กขาโก่งหรือเสี่ยงต่อการเกิดโรคข้อสะโพกเคลื่อนหลุดในเด็ก ควรเลือกเป้อุ้มทารกที่ฐานนั่งเป็นแบบ M-Shaped ให้ลูกน้อยนั่งอย่างถูกสรีระ ป้องกันข้อต่อสะโพกเคลื่อนหลุดในเด็ก 
  3. เลือกให้เหมาะสมกับช่วงอายุและน้ำหนักของลูก บางรุ่นสามารถใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิด – 1 ปี บางรุ่นก็สามารถใช้ได้ 3 – 6 ปีเลยทีเดียว ถ้าคุณพ่อคุณแม่ท่านไหนวางแผนว่าอยากใช้งานได้ยาวๆ เพราะพาลูกออกไปข้างนอกบ่อย ก็ควรเลือกเป้อุ้มเด็กที่สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน และรองรับน้ำหนักได้มาก ตามช่วงวัยของลูกค่ะ  
  4. มีโครงสร้างที่ทำจากวัสดุแข็งแรงและทนทาน มีความปลอดภัย อาจพาลูกไปทดลองนั่งเป้ด้วย เพื่อที่จะได้รู้ว่าเหมาะกับลูกของเราหรือไม่ และควรกระจายน้ำหนักได้ดี คุณพ่อคุณแม่ใช้แล้วไม่เมื่อยไหล่ ไม่ดึงรั้งตัวคุณแม่ให้รู้สึกปวดเมื่อย เป็นต้น  
  5. เลือกเป้อุ้มเด็กที่มีสายสะพายไหล่บุนวมกว้างๆ มีที่พาดหลังและสายคาดเอวกว้างๆ ซึ่งจะช่วยกระจายน้ำหนักของเด็กได้อย่างสม่ำเสมอและช่วยลดแรงกดบนไหล่ของคุณพ่อคุณแม่ 
  6. เลือกเป้อุ้มเด็กที่สามารถระบายอากาศได้ดี ไม่ทำให้ลูกร้อนหรืออึดอัดจนเกินไป โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีอากาศร้อน จึงควรเลือกให้เหมาะกับสภาพอากาศ และควรเลือกวัสดุที่มีคุณภาพดีและทำให้ลูกอยู่ในเป้อุ้มเด็กได้อย่างสบายมากที่สุด  
  7. หลีกเลี่ยงเป้อุ้มทารกที่เด็กนั่งแล้วมีท่าทางคล้ายตัว C กล่าวคือ ทำให้เด็กอยู่ในท่าทางห่อตัวโค้งลง ซึ่งอาจทำให้เด็กทารกหายใจลำบากและอยู่ในท่าทางที่ผิดอิริยาบถได้ อาจส่งผลต่อกระดูกสันหลังของเด็ก จึงควรเลือกเป้ที่ช่วยพยุงหลังและสรีระของเด็กทารกได้เป็นอย่างดี และให้เด็กอยู่ในท่าทางที่ลำคอตั้งตรงและหายใจได้สะดวก  

เป้อุ้มเด็กเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยเซฟแรงคุณพ่อคุณแม่ในการอุ้มลูกน้อยได้เป็นอย่างดี ทำให้อุ้มลูกได้สะดวกมากขึ้น สามารถทำกิจกรรมอื่นๆ ได้ในขณะอุ้มลูก ถ้าเลือกเป้อุ้มเด็กแรกเกิดที่มีคุณภาพดีก็สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน และถ้าเลือกเป้ที่ออกแบบมาถูกหลักสรีรศาสตร์ของเด็ก ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยเลยค่ะ เพราะไม่ทำให้ลูกขาโก่งหรือเสี่ยงต่อการเกิดโรคข้อสะโพกหลุดในเด็กแน่นอน ถ้าคุณพ่อคุณแม่ท่านไหนยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกเป้อุ้มทารกแบบไหนดี สามารถเข้ามาเยี่ยมชมสินค้าได้ที่ร้าน BabyGift ร้านจำหน่ายสินค้าแม่และเด็กระดับคุณภาพ มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี คุณพ่อคุณแม่สามารถพาลูกน้อยมาลองนั่งเป้อุ้มเด็กได้ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ร้านเบบี้กิ๊ฟทั้ง 5 สาขา ใกล้บ้าน หรือสอบถามผ่านช่องทาง Online ทีมงาน BabyGift ยินดีให้คำแนะนำค่ะ 

อ้างอิงที่มาข้อมูลบางส่วนจาก :  https://ergonomic-baby-carriers.com/blog/7_what-is-an-ergonomic-baby-carrier-.html 

https://raisingchildren.net.au/newborns/safety/equipment-furniture/baby-carrier-sling-safety

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00

บทความแนะนำ

Kids Item 2018-2019 ของเพจ Daddy’s day ได้แก่ แท่น แทน แท่น แท๊นนนนนน Aprica Nano smart คันนี้เลย หลายคนถามมาเรื่องรถเข็นเด็ก ว่าใช้รุ่นไหนยังไงดี ทาง Daddy’s Day ขอเลือกคันนี้เลย เอาจริงๆ รถเข็นที่บ้านมี 3 คัน ตั้งแต่ไฮเทคสุดแต่หนักมาก  ไม่ไฮเทค พับง่ายแต่น้ำหนักยังหนักอยู่ จนมาลงตัวกับ Nano smart ที่สุด ชอบมากสุด ใช้ดีต้องบอกต่อเลย บ้านเราได้ทดลองใช้พาไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วย เพราะต้องเดินเยอะ แถมทางที่ไปหลายที่ มีทั้งทางเรียบ ขรุขระ ขึ้นเขาลงห้วยสารพัด รถเข็นคันนี้เอาอยู่หมด ตอบโจทย์มาก #พับเล็กพร้อมเดินทาง แบบสุดๆ 1. ที่ชอบที่สุดคือน้ำหนักเบา พกพาสะดวก เพราะรถเข็นน้ำหนักแค่ 5.6 kg เท่านั้น แบกสบาย ( มีกระเป๋าใส่มาให้ด้วยนะคะ แต่ทางเราไม่ได้ใช้เพราะรีบ ต้องแบกของเยอะ ) Daddy แบกของคนเดียวสบายๆเลย […]

สวัสดีค่ะ ^_^  อุปกรณ์คู่ใจของแม่ ๆ สุดสตรองทุกท่านก็คงหนีไม่พ้น “รถเข็นเด็ก” จริงไหมคะ..? ส่วนตัวมดเอง ลองใช้รถเข็นมาหลายยี่ห้อ แต่ตอนนี้บ้านเรากำลังจะไปเที่ยวต่างจังหวัดกันหลายวัน รถเข็นคันเดิมเริ่มไม่ตอบโจทย์เรื่องการพกพาอีกต่อไปแล้ว เพราะแค่ของใช้ก็เต็มรถแล้วค่ะ เราจึงมีโจทย์ในการหารถเข็นคันใหม่ว่า ต้องมีน้ำหนักเบา พับเก็บง่าย และแน่นอนว่าต้องเป็นแบรนด์ดังที่แม่ ๆ ไว้ใจ เหมือนสวรรค์มีตา 555 เพราะไม่กี่วันต่อมา เราก็ไปเจอใน IG คุณโอปอล์ว่า เพิ่งถอยรถเข็นใหม่ให้น้องอลิน อลันเหมือนกัน แถมยังเชียร์ว่ามันเบา ใช้งานสะดวกมากกก คุณแม่ขาช็อปอย่างเราก็ไม่รอช้าค่ะ ไปซื้อตามด่วน ๆ คุณโอปอล์ซื้อรถเข็นจากร้าน BABYGIFT ค่ะ มดเองไม่มีเวลาไปที่ร้าน เลยสั่งซื้อออนไลน์ กดสั่งปุ๊บ รอไม่นานก็มีน้องเสียงสวยโทรมานัดวันจัดส่งทันที 2 วันก็ได้ของค่ะ สะดวกมากก แล้วเราก็ได้รถเข็นที่ตอบโจทย์การใช้งานมา 1 คัน และนี่คือ “Aprica Magical Air Plus Highseat” รุ่นนี้มีจุดเด่นตรงที่ เล็ก และน้ำหนักเบา ที่สุด  ตัวนี้เค้าแนะนำสำหรับเด็กไม่เกิน 15 โล แต่ลูกบ้านนี้หนัก 16 โลก็ยังนั่งสบาย ๆ เลยค่ะ ราคาอยู่ที่ 10,335 บาท อย่างที่ทราบกันดีว่า “ถ้ารถเข็นต้อง Aprica”  ดังนั้นเค้าจึงมีความพิเศษค่ะรุ่นนี้น้ำหนักเบาเพียง 3.3 kg ถือมือเดียวได้สบาย ๆ และที่นั่งเป็นแบบ High Seat สูงจากพื้นดิน 52 cm. ซึ่งจะทำให้ฝุ่นละอองและความร้อนจากพื้นนั้นห่างจากลูกยิ่งขึ้น แถมยังสามารถพับเก็บได้แบบ One Step และล้อทั้ง 4 ก็จะติดกับพื้น ลากได้สบาย ๆ […]

เปลนอนทารก ถือเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญมาก ๆ สำหรับทารก ที่ต้องเตรียมซื้อตั้งแต่ก่อนคลอด เพราะทารกวัย 0-9 เดือน จะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการนอนและอยู่บนที่นอน ดังนั้น ก่อนที่คุณพ่อคุณแม่จะเลือกเปลนอนทารกให้ลูกน้อย ควรเลือกดูจากหลาย ๆ ด้าน เช่น ความปลอดภัย การระบายอากาศ ฟังก์ชั่นการใช้งาน รวมถึงอายุการใช้งาน เพราะการเลือก เปลนอนทารก ที่ไม่เหมาะสมกับทารกอาจส่งผลถึงเสียถึงชีวิตของลูกน้อยได้ วิธีเลือกเปลนอนทารกให้ลูกน้อย  เปลนอนทารกมีกี่แบบ มีข้อดี ข้อเสีย อะไรบ้าง ?  1. เปลนอนทารก BEDSIDE CRIB แบบชิดเตียงแม่ เป็นเตียงสำหรับทารกแรกเกิด ที่มีฟังก์ชั่นเปิดด้านข้างเตียงเพื่อต่อชิดกับเตียงของคุณพ่อคุณแม่ได้ ทำให้สะดวกในการดูแลลูกน้อยมากขึ้น  ข้อดีเตียง Bedside Crib  ข้อเสียเตียง Bedside Crib  2. เตียงไม้ เป็นเตียงที่ถูกออกแบบมาเพื่อความแข็งแรง เน้นการใช้งานแบบคุ้มค่า ใช้ได้ในระยะยาวหลายปี สามารถรองรับน้ำหนักได้มาก  ข้อดีเตียงไม้  ข้อเสียเตียงไม้  3. เปลนอนทารกแบบ PLAYPEN เตียงนอนทารกปรับฟังก์ชั่นเป็นคอกกั้นให้ลูกน้อยได้ ฝึกพัฒนาการคลาน ยืน เป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับคุณแม่ ข้อดี Playpen  ข้อเสีย Playpen  4. เปลไกวไฟฟ้า เป็นเตียงที่ได้ความนิยมมาก เพราะปรับการใช้งานได้หลายแบบ พร้อมไกวอัตโนมัติกล่อมลูกหลับได้ง่ายและสนิทมากขึ้น ถือว่าเป็นตัวช่วยในการเลี้ยงลูกน้อยได้ดี ข้อดีเปลไกวไฟฟ้า  ข้อเสียเปลไกวไฟฟ้า  เมื่อคุณพ่อคุณแม่ทราบถึงข้อดีและข้อแตกต่างของเปลทารกแต่ละประเภทแล้ว เบบี้ กิ๊ฟ มีเปลนอนทารกรุ่นขายดีที่สุด มาแนะนำคุณพ่อคุณแม่กันค่ะ  […]

บ้านไหน ? กำลังวางแผนซื้อรถเข็นให้ลูกอยู่บ้างเอ่ยยย พ่อแม่หลายคนถาม หมอแอม เข้ามากันเยอะมาๆๆ ว่าเวลาซื้อรถเข็นให้ลูกควรดูเรื่องอะไรบ้าง เลือกรถเข็นให้ลูกยังไง? ให้เหมาะกับสถานการณ์โควิด และสภาพแดดบ้านเราแบบนี้ ?? วันนี้ หมอแอม มีหลักการเลือกรถเข็นเด็ก ง่ายๆ สไตล์คุณหมอมาฝากกันค่ะ จะมีเคล็ดลับอะไรบ้าง ตามมาดูกันเลยค่ะ                    ตั้งแต่ปี 2019 จนถึงช่วงนี้ที่มีสถานการณ์โควิดระบาด และคิดว่าน่าจะอยู่กับเราไปอีกสักพัก  เด็กเล็ก 0-2 ขวบที่ยังใส่แมสก์เหมือนผู้ใหญ่ไม่ได้ คำแนะนำของสมาคมกุมารแพทย์สหรัฐอเมริกา และกรมอนามัย คือ แนะนำว่าเด็กเล็กๆให้หาผ้าคลุม หรือใช้รถเข็นเด็กแล้วคลุมผ้าไว้แทนการใส่แมสก์ได้ค่ะ  ทีนี้จะเลือกรถเข็นยังไงล่ะ? ให้เหมาะกับลูก เหมาะกับบ้านเรา และเหมาะกับสถานการณ์โควิด หรือสารพัดโรคระบาดของเด็กเล็กได้ วันนี้หมอแอมมีหลักการเลือกรถเข็นเด็กมาฝากค่ะ หลักการเลือกรถเข็นเด็ก 5 ข้อ เพจเรื่องเด็กๆ by หมอแอม 1) อันดับแรกที่ หมอแอม ดู คือ โครงสร้างต้องแข็งแรง และมีระบบลดการสั่นสะเทือน […]

ห้องนอนเด็กอ่อน เป็นเรื่องสำคัญที่มองข้ามไม่ได้ สำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ หากกำลังวางแผนที่จะมีลูกน้อย หรือบางครอบครัวคุณแม่อาจกำลังตั้งครรภ์ และเตรียมพร้อมที่จะจัดบ้าน จัดห้องนอนเพื่อต้อนรับลูกน้อย เพราะห้องนอนที่ดีของลูกน้อยวัยทารกจะส่งผลต่อทั้งสุขภาพ พัฒนาการและอารมณ์จิตใจในอนาคต ด้วยเพราะลูกน้อยทารกต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการนอน และการนอนเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ทำให้โกร๊ธฮอร์โมน หรือฮอร์โมนเพื่อการเจริญเติบโตหลั่งเต็มที่ ทำให้ลูกเติบโตอย่างมีพัฒนาการที่ดีและสุขภาพแข็งแรง ซึ่งหากลูกน้อยนอนหลับไม่เต็มที่ หรือมีสิ่งต่างๆ รบกวนเวลานอน ทำให้นอนไม่เพียงพอ ลูกจะงอแง หงุดหงิดง่าย เติบโตได้ไม่ดี แถมยังส่งผลต่ออารมณ์จิตใจ ทำให้เป็นเด็กเลี้ยงยากและอารมณ์ไม่ดี  ยิ่งหากห้องนอนไม่มีการเตรียมพร้อมป้องกันอุบัติเหตุไว้อย่างดี  ลูกก็อาจจะมีอันตรายในขณะนอนจนถึงชีวิตได้อีกด้วย ฉะนั้นการเตรียมพร้อมเรื่องนอนให้ลูกทารก จึงเป็นเรื่องที่ทุกบ้านต้องพิถีพิถันใส่ใจ ควรเลือกซื้อ จัดวางและเตรียมพร้อมให้ลูกในแบบที่ถูกต้อง เหมาะสม ปลอดภัย จะดีที่สุด 5 เรื่องต้องคิด ก่อนเตรียม ห้องนอนเด็กอ่อน ก่อนเลือกซื้อและจัดเตรียมอุปกรณ์ของใช้ในห้องเด็กอ่อนให้ลูกน้อย มีเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ควรพิจารณาเป็นสำคัญนั่นคือ การเลือกห้องนอนให้ลูก ซึ่งจะต้องให้ความสำคัญกับ 5 เรื่อง นั่นคือ Checklist ห้องนอนเด็กอ่อน ต้องมีอะไรบ้าง เตียงนอน   ควรเป็นเตียงนอนที่ออกแบบมาสำหรับเด็กเล็กโดยเฉพาะ ซึ่งเตียงนอนเด็กอ่อน ควรเป็นเตียงที่มีความมั่นคงแข็งแรง และเป็นเตียงใหญ่พอที่จะใช้สำหรับให้ลูกเวลาโตได้อีกระยะหนึ่ง เตียงไม่มีมุมหรือเหลี่ยมแหลมคมที่เป็นอันตราย  หากเป็นเตียงที่มีซี่กรง ควรมีความถี่ของซี่กรงรอบเตียงหรือราวกันตกห่างกันไม่เกิน 6 […]

เชื่อว่าปัญหาที่หลายๆ บ้านจะต้องเจอก็คือ การที่ลูกรักไม่ยอมกินข้าว โดยเฉพาะในเด็กเล็กที่อายุ 1 ขวบขึ้นไป เมื่อเริ่มเดินได้คล่อง เริ่มวิ่งได้บ้าง ก็จะติดเล่น ไม่ค่อยยอมกินข้าวหรือกินได้น้อย บางคนก็อมข้าว ไม่ยอมเคี้ยว หรือหันหน้าหนี กว่าจะป้อนหมดชามก็ใช้เวลานานเกินไป ซึ่งทำให้คุณพ่อคุณแม่หลายๆ คนเป็นกังวล เพราะการที่ลูกเราไม่ยอมกินข้าวก็อาจส่งผลต่อสุขภาพและการเติบโตของลูกได้ แต่ปัญหาการกินของลูกรับมือได้ไม่ยากเลยค่ะ เพียงแค่ต้องให้เวลา ใช้ความเข้าใจ และต้องใจแข็งนิดหน่อย ก็จะทำให้ลูกมีวินัยในการกินมากขึ้น ลูกไม่ยอมกินข้าว 1 ขวบ จะแก้ปัญหาอย่างไรดี ? มาลองฝึกลูกน้อยไปพร้อม ๆ กันกับ BabyGift ได้เลยค่ะ ลูกไม่ยอมกินข้าว 1 ขวบ ทำยังไงดี ? ชวนดูเทคนิคดีๆ ที่ทำให้ลูกกินได้มากขึ้น การได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอในปริมาณที่เหมาะสมนั้นเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากสำหรับลูกน้อย เพราะส่งผลต่อการเจริญเติบโตตามวัย หากได้รับสารอาหารไม่เพียงพอนั้นอาจทำให้ลูกมีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์และสุขภาพไม่แข็งแรงได้ โดยทั่วไปแล้ว เมื่อเด็กอายุครบ 1 ขวบจะเริ่มเรียนรู้การปฏิเสธอาหารหรือคายอาหาร เนื่องจากมีพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวร่างกาย สามารถหยิบจับอาหารเข้าปากได้เอง การปฏิเสธ หรือคายอาหารจึงเป็นสัญชาตญาณอย่างหนึ่งที่ช่วยป้องกันไม่ให้ตัวเองกินสิ่งที่เป็นพิษหรือสิ่งแปลกปลอมเข้าไป โดยส่วนใหญ่แล้ว การที่ลูกไม่ยอมกินข้าว 1 ขวบนั้นจะเกิดขึ้นไม่นานและหายไปได้เอง แต่เด็กบางคนอาจมีพฤติกรรมกินยาก […]

Menu
All Categories
All Brands
All Ages
Promotions
Locations
BabyGift Family
BabyGift Care
Parents Guide
News & Event

All Categories

All Categories
All Brands
All Ages