ประสบการณ์จริง คุณพ่อลูกสอง รถคว่ำอุบัติเหตุที่รุนแรงที่สุดในชีวิต


ความเชื่อแรกที่ต้องมี..คาร์ซีทคือสิ่งสำคัญ
เคยคิดไหมว่าถ้าวันหนึ่งคุณขับรถประสบอุบัติเหตุจนทำให้ลูกน้อยๆ ของคุณได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิต คุณจะใช้ชีวิตต่อไปยังไง??
ผมถือว่าผมเป็นคนที่โชคดีคนหนึ่งที่ได้รับการปลูกฝังให้เห็นความสำคัญของคาร์ซีทสำหรับเด็กๆ ทั้งจากคุณหมอประจำตัวลูกๆ พี่สาว ภรรยา ตลอดจนเพื่อนๆของผมและภรรยาที่เคยมีลูกมาก่อน ที่พร่ำสอนว่า ต้องให้เด็กนั่งคาร์ซีททุกครั้งที่ขึ้นรถนะ…
- การฝึกและมีวินัยในการฝึกลูกเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก
ทุกครั้งที่ผมเดินทางไม่ว่าจะใกล้หรือไกล ผมกับภรรยาจะให้ลูกๆนั่งคาร์ซีทตลอดเวลา ถึงแม้ช่วงแรกๆ (รวมถึงช่วงหลังๆด้วยบางเวลา) เค้าจะร้องไห้ฟูมฟายก็ตาม เราก็ต้องใจแข็งปล่อยให้ร้องไห้ไป เพราะถือคติว่า “safety first” พอนานๆเข้า เด็กๆก็จะเริ่มรู้เงื่อนไขเองว่า ถ้าไม่นั่งบนคาร์ซีทจะไม่ได้ขึ้นรถไปด้วย แม้แต่วันแรกที่พาลูกออกจากโรงพยาบาลหลังคลอด ผมและภรรยาก็ให้ลูกน้อยนั่งคาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิด
…เชื่อว่าพ่อแม่หลายคนมักจะใจอ่อน และมักจะคิดว่านิดหน่อยคงไม่เป็นอะไร แต่อย่าลืมว่าอุบัติเหตุมันเกิดขึ้นได้ทุกวินาทีจริงๆ แข็งใจปล่อยให้ลูกร้องไห้ ดีกว่าไม่มีโอกาสให้เขาได้ร้องไห้นะครับ…
- การเลือกคาร์ซีทตามช่วงวัยของลูกน้อยเพื่อความเหมาะสมและปลอดภัยสูงสุด
กระนั้นก็ดี ด้วยความที่คาร์ซีทยี่ห้อดีๆมักจะมีราคาสูง(มาก) เดิมทีผมมีลูกชายคนเดียวก็มีสำหรับเด็กแรกเกิดถึงสองขวบ ต่อมาพอน้องปัณณ์โตขึ้นก็กัดฟันควักกระเป๋าซื้อสำหรับเด็ก 1-5 ขวบ มาอีกตัว จากนั้นพอผมมีน้องปุณณ์ ลูกสาวอีกคนที่อายุย่างเข้า 9 เดือน ภรรยาก็อยากได้ คาร์ซีทที่แข็งแรงๆ อีกอันไว้ให้น้องปัณณ์นั่ง ส่วนน้องปุณณ์จะขยับมานั่งอันที่สองแทน ผมก็คัดค้านเพราะเห็นว่าสิ้นเปลือง อันแรกยังใช้ได้อยู่เลย… แต่สุดท้ายก็ทนไม่ไหว ยอมควักเงินอีกสองหมื่นกว่าซื้อมาอีกตัวอย่างเสียไม่ได้
- ประสบการณ์จริงอุบัติเหตุที่รุนแรงแต่ลูกน้อยปลอดภัยเมื่อนั่งคาร์ซีท
หลังจากซื้อมาได้เพียงเดือนเดียว เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันและร้ายแรงที่สุดในชีวิตผมก็เกิดขึ้นจนได้ ผมกับครอบครัวเดินทางไป กทม. โดยลูกชายผมนั่งคาร์ซีทตัวใหม่อยู่ด้านข้างคนขับ (ขยับเบาะให้ไกลจาก console หน้ารถเท่าที่จะทำได้ด้วยนะครับ) ลูกสาวนั่งบนคาร์ซีทตรงกลางเบาะคนนั่ง หันหลังให้กับถนน โดยมีภรรยาและพี่เลี้ยงนั่งขนาบข้าง ระหว่างทางกลับโคราชบนถนนมิตรภาพใกล้ถึงสระบุรี รถผมเกิดพลิกคว่ำข้ามเลนไปฝั่งขาเข้ากรุงเทพ ชนรถยนต์คันอื่นๆ อีก 4 คัน…สภาพก็อย่างที่เห็นครับ ภรรยาผมกระดูกต้นคอหัก นิ้วมือหัก 3 นิ้ว พี่เลี้ยงกล้ามเนื้ออักเสบไปทั้งตัว…แต่น้องปัณณ์ อายุ 2 ขวบ 5 เดือน น้องปุณณ์ อายุ 10 เดือน กลับไม่มีแม้แต่แผลถลอก!! หลายๆคนบอกว่าเพราะเด็กมีแม่ซื้อแม่กำเนิดคอยปกป้อง…แต่สำหรับผม เจ้าคาร์ซีทที่ภรรยาผมคะยั้นคะยอนักหนาให้ผมซื้อมานี่แหละ ที่ทำให้ลูกน้อยผมยังมีลมหายใจอยู่ได้ในตอนนี้ และตอนนี้เจ้าคาร์ซีททั้งสองอัน ยังไม่บุบสลาย ยังคงอยู่เพื่อทำหน้าที่ปกป้องลูกน้อยทั้งสองคนอยู่ต่อไป (ยี่ห้ออะไรก็ดูเอาเอง เดี๋ยวหาว่าโฆษณาแฝง ฮาาา)

*** แก้ไขข้อมูลครับว่า คาร์ซีทที่ประสบอุบัติเหตุแล้วไม่ควรเอามาใช้ต่อครับ และมีหลายท่านแจ้งมาด้วยว่าคาร์ซีทบางยี่ห้อ เค้าเปลี่ยนตัวใหม่ให้ฟรีกรณีเกิดอุบัติเหตุครับ
- บทสรุปเพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับคุณพ่อคุณแม่ทุกท่าน
ถ้าตอนนั้นผมดื้อรั้นไม่ซื้อเพราะเพียงเหตุผลว่า “แพง เดี๋ยวค่อยซื้อก็ได้” ตอนนี้ผมอาจจะไม่มีโอกาสได้กอดลูกผมคนใดคนนึงก็ได้ …เงินสองสามหมื่น ก็ไม่ใช่เงินน้อยๆ แต่เมื่อเทียบกับชีวิตลูกทั้งชีวิตแล้ว คงไม่ต้องพูดต่อกระมังว่ามันคุ้มค่าแค่ไหน… แค่คิดว่าผมเป็นคนขับรถจนเกิดอุบัติเหตุ แถมยังไม่ยอมซื้อ คาร์ซีทจนต้องสูญเสียลูกไป ผมยังคิดไม่ออกเลยว่าผมจะดำรงชีวิตต่อไปอย่างไร….
หวังว่าบทเรียนบทนี้จะเป็นอุทาหรณ์ให้คุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกเล็กๆ รวมถึงคนที่กำลังจะได้เป็นพ่อแม่คน ให้คำนึงถึงความปลอดภัยของลูกน้อยให้มากๆ เงินเพียงสองสามหมื่นบาท แต่เมื่อเทียบกับชีวิตลูกทั้งชีวิตแล้ว ต่อให้ผมยากจนกว่านี้ ผมก็ยังยืนยันที่จะกัดฟันซื้อมาใช้อยู่เช่นเดิม…หากจะคำนวณเป็นตัวเงินง่ายๆ คาร์ซีทราคาอย่างสูง 3 หมื่นบาท ใช้ได้อย่างต่ำสำหรับช่วงอายุ 3 ปี ตกเฉลี่ยเพียงวันละประมาณ 27 บาท… อย่าคิดว่าอุบัติเหตุเป็นเรื่องไกลตัว อย่าคิดว่าการอุ้มลูกบนรถจะปกป้องลูกได้ดีที่สุด เพราะหากเกิดเหตุขึ้นแล้วไม่มีใครที่มีสติดีพอที่จะคอยปกป้องลูกได้หรอกครับ…!!!
สรุปคือ
- อย่าคิดว่าแพง หากพอที่จะซื้อได้จงซื้อซะ
- ซื้อมาแล้วอย่าใจอ่อน เด็กร้องไห้แน่ๆ แต่คิดว่าเสมอว่า safety first
- อย่าคิดว่าขับรถใกล้ๆ ขับช้าๆ คงไม่เป็นไร เพราะหากรถชนขึ้นมามันมีแรงกระแทกมากพอที่จะทำให้เด็กเล็กๆ ได้รับอันตรายได้
- ศึกษาและติดตั้งให้ถูกวิธีนะครับ (เห็นบางคนจับลูกนั่ง car seat จริง แต่ไม่คาดสายรัดเด็กเลย มันจะมีประโยชน์อะไร!)
สำหรับในกรณีนี้ทาง เบบี้ กิ๊ฟ ได้จัดเปลี่ยนคาร์ซีทใหม่ให้กับครอบครัวลูกค้า เพราะคาร์ซีทที่ผ่านการเกิดอุบัติเหตุหนักมาแล้วนั้นไม่ควรนำกลับมาใช้อีกเพราะความแข็งแรงและความปลอดภัยจะต่ำลงไม่สามารถใช้ปกป้องในการเกิดอุบัติเหตุครั้งต่อไปได้อีก
ขอบคุณประสบการณ์อุบัติเหตุในครั้งนี้ ที่คุณพ่อได้นำมาเผยแพร่เพื่อเป็น อุทาหรณ์ให้กับคุณพ่อคุณแม่ทุกท่านค่ะ
Cradit Facebook : Wiroon Jintanakul
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
คงมีหลายครั้งที่คุณแม่มองกระจกแล้วก็รู้สึกสงสัยว่า เราทำสีผมได้มั้ยนะ? ใช่ค่ะ คำถามนี้เป็นคำถามยอดฮิตมาหลายยุคหลายสมัย โดยเฉพาะคุณแม่ๆ สายแฟ ที่ทนเห็นผมโคนดำของตัวเองแทบไม่ไหว สมัยก่อนก็มีความเชื่อหลายอย่างเกี่ยวกับผมอยู่นะคะ ผู้เฒ่าผู้แก่บางคนบอกว่าแม่ท้องไม่ควรตัดผม แล้วก็ไม่ควรทำสีผม เพราะผมเป็นเหมือนเกราะป้องกัน เป็นสิ่งที่จะคุ้มกันลูกน้อยจากอันตรายต่างๆ ส่วนบางคนก็บอกว่าแม่ท้องควรจะตัดผม เพราะว่าสารอาหารจะได้ไปเลี้ยงลูกน้อยให้เพียงพอ แต่มาสมัยนี้ ที่คุณแม่ไม่กล้าทำอะไรกับผมมากมายก็น่าจะเป็นเพราะกลัวสารเคมี ไม่ว่าจะเป็นพีพีดี ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ หรือแอมโมเนีย ที่ผสมอยู่ในสีย้อมผม แต่ถ้ามาดูกันจริงๆ แล้ว สารเคมีพวกนี้ส่งผลต่อลูกน้อยมั้ยนะ? เรามีคำตอบสำหรับคำถามนี้มาให้แล้วค่ะ มีงานวิจัยรองรับเรื่องการทำสีผมในคนท้องหรือเปล่า? ถ้าพูดกันตามตรงก็ต้องบอกว่าตอนนี้ยังไม่มีงานวิจัยไหนมายืนยันว่าคนท้องห้ามย้อมผม แม้สีย้อมผมจะมีส่วนผสมของสารเคมีอยู่หลายชนิด แต่สารเคมีพวกนี้ก็ซึมเข้าสู่กระแสเลือดในปริมาณที่ค่อนข้างน้อยเลยล่ะค่ะ ยาย้อมผมมีส่วนผสมของสารเคมีตัวไหนบ้าง? สารเคมีหลักๆ ในยาย้อมผมก็ได้แก่ รีซอร์ซินอล พีพีดี แอมโมเนีย แล้วก็ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ค่ะ ซึ่งส่วนมากผลข้างเคียงของมันก็อาจทำให้คุณแม่เกิดอาการแพ้ แต่มันก็จะมีผลแค่สำหรับคนที่แพ้สารพวกนี้เท่านั้นนะคะ นอกจากนี้ก็อาจจะมีอาการวิงเวียนศีรษะเนื่องจากกลิ่นของมัน อย่างไรก็ตาม มันก็จะมีบางกรณีที่คุณแม่บางคนอาจจะไม่ได้แพ้สารเคมีบางตัวในช่วงก่อนท้อง แต่หลังท้องแล้วกลับกลายเป็นว่าแพ้ก็มีค่ะ เพราะฉะนั้นอาจจะต้องระวังนิดนึงนะ สารเคมีมีผลต่อลูกน้อยรึเปล่านะ? สารเคมีที่อยู่ในยาย้อมผมไม่ได้มีในปริมาณที่สูงขนาดนั้นค่ะ แล้วอีกอย่าง ปกติเวลาเรารับสารเคมีเข้าไปในร่างกาย ถ้าไม่เยอะมากจนก่อเป็นสารร้าย มันจะถูกขับออกมาในรูปของปัสสาวะ ข้อสำคัญที่สุดคือ สายรกเป็นอะไรที่มหัศจรรย์และเป็นเกราะคุ้มกันลูกน้อยที่ดีมากๆ เพราะมันจะช่วยกรองสารแปลกปลอมต่างๆ แทบจะไม่ให้มีหลุดรอดเข้าไปหาลูกน้อยเลยล่ะค่ะ ก่อนย้อมผมควรรู้ไว้ 1.เวลาย้อมผม เราขอแนะนำให้คุณแม่หาผ้าปิดปาก […]
หมอเด็กเค้าเลือกคาร์ซีทแบบไหนให้ลูกตัวเอง….อยากรู้ต้องคลิ๊ก ก่อนซื้อคาร์ซีทให้ลูก ถ้าไปอ่านหนังสือ ก็จะรู้ว่าคาร์ซีท (carseat) มี 4 แบบ (ซึ่งเอาเข้าจริงรู้จริงๆ ตอนมีลูก 55555 ก่อนนั้นรู้แต่ทฤษฎี) คือ แน่นอนในตลาด มี option มากมายไว้หลอกลวงพ่อแม่ขาช้อป 5555 ทั้งแบบตระกร้าที่ยกเข้าออกได้เลย หรือ ประกอบลง stroller (รถเข็น) ได้เลย…. เอาที่สบายใจ 555 เอาหลักในการเลือกของพ่อหมอเลยแล้วกัน 555 ไม่ว่าอะไรก็ตาม เน้นใช้ได้ยาวๆ เป็นหลัก แน่นอน convertible เป็นแบบที่เลือกแบบไม่ต้องคิดเลย เพราะใช้ได้นานดี อย่างน้อยๆ ก็สามสี่ปี อีแบบตระกร้าเนี่ยใช้ได้ปีเดียวก็ต้องเปลี่ยนละ ไม่ไหว พ่อไม่ค่อยมีตังค์ (ต้องเอาไปซื้อของไร้สาระอื่นๆ อีก 55555) ยังๆ ยังไม่จบ เลือกชนิดแล้ว ต้องมาเลือก options อีก ตัวเลือกเรามีดังนี้ เน้นหลัก 3 ข้อในการใช้คาร์ซีท carseat โดย […]
การเดินทางด้วยรถยนต์เป็นสิ่งที่แม่มือใหม่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่การที่ลูกน้อยยังไม่สามารถนั่งในรถได้อย่างปลอดภัยด้วยเข็มขัดนิรภัยธรรมดา การเลือกซื้อคาร์ซีทที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อความปลอดภัยในทุกการเดินทางของลูกน้อย วันนี้เรามีคำแนะนำเกี่ยวกับการเลือกคาร์ซีทอย่างไรให้เหมาะสมกับลูกน้อยและปลอดภัยที่สุดค่ะ 1. รู้จักประเภทของคาร์ซีท ก่อนที่จะเลือกคาร์ซีทให้ลูกน้อย สิ่งแรกที่ต้องทำความเข้าใจก็คือประเภทของคาร์ซีทที่มีในตลาด ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ ดังนี้: คาร์ซีทสำหรับทารก (Rear-Facing Seat): เหมาะสำหรับเด็กที่อายุต่ำกว่า 1 ขวบ หรือมีน้ำหนักไม่เกิน 10 กิโลกรัม คาร์ซีทประเภทนี้จะติดตั้งหันหลังและรองรับศีรษะและคอของเด็กให้ดีเยี่ยม ช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุ คาร์ซีทแบบหันหน้า (Forward-Facing Seat): ใช้ได้เมื่อเด็กมีอายุ 1 ปีขึ้นไป หรือมีน้ำหนักประมาณ 9-18 กิโลกรัม ตัวคาร์ซีทจะหันหน้าไปข้างหน้าและมีเข็มขัดนิรภัยในตัว คาร์ซีทแบบบูสเตอร์ (Booster Seat): เหมาะสำหรับเด็กที่มีอายุ 4 ปีขึ้นไป หรือมีน้ำหนัก 15 กิโลกรัมขึ้นไป เพื่อเสริมให้เข็มขัดนิรภัยของรถยนต์สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยกับเด็กที่โตขึ้น 2. เลือกคาร์ซีทที่เหมาะสมกับช่วงวัยของลูก การเลือกคาร์ซีทที่เหมาะสมกับวัยของลูกเป็นสิ่งสำคัญมาก เพื่อให้ลูกน้อยได้รับการรองรับที่ดีในขณะนั่งในรถ หากเลือกคาร์ซีทผิดประเภทอาจทำให้ลูกไม่สามารถได้รับความปลอดภัยที่ดีที่สุดในกรณีเกิดอุบัติเหตุ 3. ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ ความปลอดภัยต้องมาเป็นอันดับหนึ่งเมื่อเลือกซื้อคาร์ซีท คาร์ซีทที่ดีจะต้องมีการทดสอบด้านความปลอดภัยผ่านมาตรฐานต่างๆ เช่น มาตรฐาน […]
การเป็นแม่มือใหม่อาจจะเป็นเรื่องที่ทั้งสนุกและท้าทายอย่างมาก สำหรับแม่มือใหม่หลายๆ คนที่เพิ่งมีลูกคนแรก ย่อมต้องเผชิญกับปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นประจำ ซึ่งบางครั้งอาจทำให้รู้สึกเครียดและสับสน แต่ไม่ต้องกังวล เพราะทุกปัญหามีวิธีการจัดการที่สามารถทำได้ทันที วันนี้เรามี 5 ปัญหาที่แม่มือใหม่เจอบ่อย พร้อมวิธีแก้ไขที่ได้ผลทันทีมาฝากค่ะ 1. ลูกไม่ยอมนอนตอนกลางคืน หนึ่งในปัญหาที่แม่มือใหม่มักเจอบ่อยคือ ลูกไม่ยอมนอนตอนกลางคืน ตื่นบ่อย หรือร้องไห้จนทำให้แม่ไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ นี่อาจเกิดจากการที่เด็กยังไม่คุ้นเคยกับการนอนตอนกลางคืน หรือยังปรับตัวไม่ได้กับตารางเวลา วิธีแก้ไข: 2. ลูกไม่ยอมกินนม/อาหารเสริม หลายๆ แม่มือใหม่มักจะพบว่า ลูกไม่ยอมกินนมแม่หรือนมขวด หรือแม้กระทั่งปฏิเสธอาหารเสริม แม้จะพยายามหลายครั้งแล้วก็ตาม วิธีแก้ไข: 3. ลูกร้องไห้ไม่หยุด หนึ่งในปัญหาที่ท้าทายมากสำหรับแม่มือใหม่คือการที่ลูกร้องไห้ไม่หยุด ซึ่งบางครั้งอาจทำให้แม่รู้สึกวิตกกังวลและไม่รู้วิธีการช่วยลูก วิธีแก้ไข: 4. ปัญหาน้ำนมไม่พอ แม่มือใหม่หลายคนจะมีความกังวลเรื่องน้ำนมไม่พอให้ลูกดื่ม ซึ่งอาจเกิดจากความเครียดหรือการให้นมไม่สม่ำเสมอ วิธีแก้ไข: 5. รู้สึกเครียดหรือเหนื่อยล้าจากการเลี้ยงลูก การเป็นแม่มือใหม่ที่ต้องดูแลลูกอย่างต่อเนื่องอาจทำให้เกิดความเครียดและรู้สึกเหนื่อยล้า ทำให้บางครั้งแม่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ดีพอ วิธีแก้ไข: บทสรุป ปัญหาที่แม่มือใหม่เจอบ่อยนั้นเป็นสิ่งที่สามารถจัดการได้ด้วยการมีความรู้และวิธีการที่ถูกต้อง อย่าลืมว่าการเลี้ยงลูกไม่ใช่การแข่งกับเวลา แต่คือการเรียนรู้และปรับตัวไปพร้อมๆ กัน ไม่ต้องกังวลหรือเครียดเกินไป ขอให้แม่มือใหม่ทุกคนมีความสุขกับการเลี้ยงดูลูกอย่างเต็มที่ และรู้สึกมั่นใจในการตัดสินใจที่ดีที่สุดเพื่อสุขภาพและความสุขของลูกค่ะ!
วันนี้เรามีประสบการณ์จริง จากประโยชน์ของการใช้คาร์ซีท ที่คุ้มค่ามากเท่าชีวิต คุณปีใหม่ คุณแม่มือใหม่ที่ศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับคาร์ซีท ตั้งแต่เธอเมื่อเริ่มตั้งครรภ์ เธอให้ลูกนั่งคาร์ซีทตั้งแต่วันแรกที่ออกจากโรงพยาบาล ช่วงนั้นค่อนข้างมีปัญหากับทางบ้านนิดหน่อย เนื่องจากคุณแม่ของเธอเป็นคนหัวโบราณ ไม่เข้าใจเรื่องคาร์ซีท และคิดว่าจะอุ้มหลานเองน่าจะปลอดภัยอยู่แล้ว เธอจึงต้องอธิบายให้คุณแม่เข้าใจอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่ค่อยเป็นผลเท่าไหร่ จนมาวันหนึ่งเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เธอเล่าว่า วันนั้นเธอ สามีและน้องบีน่าลูกสาววัยเพียง 2 เดือน กำลังเดินทางกลับจากจังหวัดชลบุรี อยู่บนทางด่วนบูรพาวิถี สามีใช้ความเร็วปกติ เธอนั่งที่เบาะหลัง ส่วนน้องบีน่า นอนหลับปุ๋ยอยู่ในคาร์ซีท เมื่อสามีขับออกมาจากช่องเก็บค่าทางด่วน สังเกตเห็นว่ารถคันหน้าที่ขับอยู่เลนขวา ขับช้าผิดปกติ สามีจึงจะแซงซ้ายขึ้นไป ทันใดนั้นรถคันหน้าก็เปลี่ยนเลนมาทางซ้ายกะทันหัน เลยชนเข้าอย่างแรง เมื่อรู้ตัวอีกทีคุณปีใหม่กระเด็นไปอยู่ที่เบาะหน้า เพราะไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย มีรอยฟกช้ำ ระบมไปทั้งตัว Airbag แตกรอบคัน พอมีสติก็รีบเปิดประตูรถไปดูน้องบีน่าก่อนเลย น้องบีน่ายังหลับปุ๋ยอยู่ในคาร์ซีทเหมือนเดิม ไม่มีร่องรอยบาดเจ็บใดๆ นี่ถ้าอุ้มลูกไว้เองจะเป็นยังไงไม่อยากนึกเลย ตัวเองยังเอาไม่รอด ขอบคุณคาร์ซีทมากๆ ลูกรอดตายเพราะคาร์ซีทจริงๆ หลังจากเหตุการณ์นี้ คุณยายของน้องบีน่าก็เข้าใจประโยชน์ของคาร์ซีทแล้วว่าสำคัญมากเพียงใด ในวันนั้นคาร์ซีทได้ทำหน้าที่ปกป้องชีวิตหลานตัวน้อยเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด และได้นำเรื่องนี้ไปบอกต่อ กับคนรู้จักว่า “หลานฉันรอดมาได้เพราะคาร์ซีทแท้ๆ” คุณปีใหม่ใช้คาร์ซีท Ailebebe ที่ซื้อจากร้าน Baby Gift ซึ่งทางเรามีบริการ รับประกันสินค้า เปลี่ยนคาร์ซีทตัวใหม่ให้ลูกค้า หากเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝัน ทาง Baby […]
การเป็นแม่มือใหม่คือการเผชิญหน้ากับโลกใหม่ที่เต็มไปด้วยการเรียนรู้และความท้าทาย โดยเฉพาะเมื่อพูดถึงการดูแลสุขภาพของลูกน้อย เพราะสุขภาพที่ดีเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการเติบโตและพัฒนาการของเด็กๆ ในวัยเด็กแรกเกิด ถึงแม้จะเป็นเรื่องที่ดูยากในตอนเริ่มต้น แต่แม่มือใหม่สามารถเริ่มต้นด้วยเคล็ดลับง่ายๆ ที่จะช่วยให้ลูกมีสุขภาพดีได้ มาดูกันว่า 10 เคล็ดลับที่จะช่วยเลี้ยงลูกให้สุขภาพดีมีอะไรบ้างค่ะ 1. ให้นมแม่เป็นหลัก การให้นมแม่เป็นการมอบสารอาหารที่ดีที่สุดแก่ลูกในช่วง 6 เดือนแรกของชีวิต นมแม่มีทั้งสารอาหารที่ครบถ้วนและภูมิคุ้มกันที่ช่วยป้องกันโรคต่างๆ โดยเฉพาะโรคติดเชื้อที่พบบ่อยในเด็ก เคล็ดลับ: 2. เริ่มอาหารเสริมเมื่อถึงเวลา เมื่อเด็กครบ 6 เดือน ควรเริ่มให้อาหารเสริมเพื่อเสริมสร้างการเจริญเติบโต การเลือกอาหารที่เหมาะสมจะช่วยพัฒนาร่างกายและสมองของลูกได้อย่างดี เคล็ดลับ: 3. ส่งเสริมการนอนหลับที่เพียงพอ การนอนหลับที่เพียงพอช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของเด็กและช่วยพัฒนาสมอง เด็กเล็กต้องการการนอนหลับมากในแต่ละวัน เคล็ดลับ: 4. ฉีดวัคซีนตามกำหนด การฉีดวัคซีนเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันโรคร้ายแรง เช่น โรคหัด คอตีบ หรือบาดทะยัก ซึ่งเป็นสิ่งที่แม่มือใหม่ไม่ควรมองข้าม เคล็ดลับ: 5. ให้ลูกได้รับการเคลื่อนไหว การเคลื่อนไหวเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพัฒนาการร่างกายและสมองของลูก การให้ลูกมีโอกาสเคลื่อนไหวตามวัย เช่น การคลาน การนั่ง หรือการยืน ช่วยเสริมพัฒนาการให้ดีขึ้น เคล็ดลับ: 6. รักษาความสะอาดและสุขอนามัย การรักษาความสะอาดทั้งร่างกายและสิ่งแวดล้อมช่วยป้องกันโรคต่างๆ เช่น การติดเชื้อในช่องปากหรือผิวหนัง […]

ร้านสินค้าแม่และเด็กที่คัดสรรนวัตกรรมของใช้แม่และเด็กที่มี
คุณภาพให้คำปรึกษาและบริการ อย่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อช่วยให้การเลี้ยงลูกเป็นเรื่องง่าย ปลอดภัย และมีความสุข
Online Shopping
สาขา ปิ่นเกล้า ราชพฤกษ์
สาขา Mega บางนา
สาขา Central World
สาขา The Crystal รามอินทรา
สาขา BTS วงเวียนใหญ่ (Outlet)
Copyright 2024 © Baby Gift (Retail) Co., Ltd.